กิจกรรมในฤดูกาล ‘ลานสกี’ จะหมดไป เพราะภัย ‘โลกร้อน’

ดิเดียร์ โบซอง ชาวบ้านวัย 63 ปี และข้าราชการในเมืองนี้ เผยกับผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ตอนนี้เกิดภาวะโลกร้อนจึงทำให้ภูมิทัศน์ของเมืองนี้เปลี่ยนไป

โดยลานสกีนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 2507 เพื่อช่วยเด็ก ๆ ในหมู่บ้านให้ได้เรียนสกีใกล้ ๆ บ้าน ก่อนเจอความท้าทายอื่น ๆ รอบภูเขาแอลป์ส จากนั้นไม่กี่สิบปีก่อน หลายอย่างเริ่มทรุดโทรมลง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เหล่าสกีรีสอร์ทในฝรั่งเศสและทวีปยุโรปกำลังประสบปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน และส่งผลกระทบต่อฤดูกาลเล่นสกี ทั้งยังลดหิมะและน้ำแข็งที่ปกคลุมภูเขาด้วย

โบซองกล่าวว่า สมัยเด็ก ๆ มีการแข่งขันกีฬาท้องถิ่นประจำสัปดาห์ที่จตุรัสกลางหมู่บ้าน แต่น่าเสียดายที่วัฒนธรรมเหล่านั้นได้ละลายหายไปกับหิมะหมดแล้ว และการปลดเครื่องใช้ต่าง ๆ ในลานสกี เป็นการย้ำเตือนที่น่าเศร้าว่าช่วงเวลาดี ๆ ได้หายไปด้วย

ทั้งนี้ ต้นทุนการรื้อถอนมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 ยูโร ได้รับการสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่นและองค์กรการกุศลต่าง ๆ ส่วนเหล็กที่ยังใช้งานได้จะมีบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเศษโลหะมาเก็บไปรีไซเคิล อย่างไรก็ดี ชาวบ้านในหมู่บ้านเซนต์เฟอร์มิน ได้ตัดสินใจสร้างบางอย่างในลานสกีเก่าแห่งนี้ เพื่อเตือนใจลูกหลานถึงความสงบสุขในสมัยก่อน หลายคนยินดีที่หมู่บ้านผ่านช่วงเวลาเศร้านี้ไปได้และทำให้ลานสกีเดิมกลับมามีประโยชน์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ลานสกีในหมู่บ้านแห่งนี้อาจไม่ใช่การรื้อถอนครั้งสุดท้าย เพราะในปีนี้ฝรั่งเศส รวมถึงพื้นที่ยุโรปตะวันตกส่วนใหญ่

เจอคลื่นความร้อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ในช่วงฤดูร้อน ภูมิภาคนี้มีอุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียสหรือมากกว่านั้น นอกจากนี้ยังเกิดไฟป่าทางภาคใต้และภาคตะวันตกของฝรั่งเศสด้วย

ผลการศึกษาของนักวิจัย จากศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฝรั่งเศสเมื่อเดือน ต.ค. เผยว่า ประเทศจะต้องเจอกับความท้าทายในอนาคตหลายอย่าง เนื่องจากอุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นอีก 3.8 องศาเซลเซียส ภายในปี 2563 หรือในกรณีที่แย่กว่านั้น อาจมีอุณหภูมิเพิ่มถึง 6.7 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือน พ.ย. ‘วาล ธอเรนส์’ สกีรีสอร์ทในฝรั่งเศส ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงสุดในยุโรป ประกาศเปิดฤดูกาลสกีล่าช้าไปหนึ่งสัปดาห์ จนถึงวันที่ 26 พ.ย. นี้ เนื่องจากสภาพอากาศอบอุ่นของฤดูใบไม้ร่วงที่ยาวนานขึ้น