นายกฯญี่ปุ่น พบ "สี จิ้นผิง" ที่กรุงเทพฯ 17 พ.ย.นี้

นายกฯญี่ปุ่น พบ "สี จิ้นผิง" ที่กรุงเทพฯ 17 พ.ย.นี้

โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลง นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ จะหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนที่กรุงเทพฯ ในวาระร่วมประชุมเอเปค

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน นายฮิโรคาซุ มะสึโนะ โฆษกรัฐบาลเผยว่า นายกฯ คิชิดะมีกำหนดจัดการประชุมผู้นำญี่ปุ่น-จีน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในวันที่ 17 พ.ย. ในวาระการประชุมผู้นำเอเปค ที่กรุงเทพฯ 

ทั้งนี้ สีพบนายกฯ ญี่ปุ่นแบบเจอหน้าค่าตาครั้งล่าสุดในเดือน ธ.ค. 2562 ตอนที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะไปเยือนกรุงปักกิ่ง ส่วนนายกฯ คิชิดะเคยคุยโทรศัพท์กับสี ในเดือน ต.ค.2564 หลังได้รับเลือกตั้งแต่จะพบกันด้วยตนเองครั้งแรกที่กรุงเทพฯ

ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาจีนและญี่ปุ่นเพิ่งเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปี แต่จัดเล็กๆ เนื่องจากสัมพันธ์ระหว่างสองเพื่อนบ้านตึงเครียดเรื่องข้อพิพาทดินแดนและอื่นๆ

จีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกกับญี่ปุ่นที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ต่างเป็นคู่ค้าสำคัญของกันและกัน ก่อนโควิด-19 ระบาดสีเคยมีแผนเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ แต่ความสัมพันธ์ร้าวฉานอย่างรวดเร็วเมื่อรัฐบาลปักกิ่งเสริมขีดความสามารถทางทหาร การยิงขีปนาวุธระหว่างซ้อมรบใหญ่รอบไต้หวันเมื่อเดือน ส.ค. เชื่อว่าไปตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่นด้วย ซึ่งรัฐบาลโตเกียวประท้วงการละเมิดน่านฟ้าและน่านน้ำของจีนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังโอดครวญบ่อยครั้งเรื่องจีนทำกิจกรรมรอบหมู่เกาะข้อพิพาท “เซ็นกากุ” ที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์เช่นเดียวกันโดยเรียกว่า “หมู่เกาะเตี้ยวหยู”

สงครามในยูเครนยิ่งทำให้สัมพันธภาพร้าวลึก ญี่ปุ่นสนับสนุนพันธมิตรตะวันตกต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย ขณะที่ปักกิ่งหลีกเลี่ยงวิจารณ์มอสโก

ความขัดแย้งนี้ทำให้ถูกจับตาว่า จีนอาจใช้กำลังรวมไต้หวัน กระตุ้นให้คิชิดะเตือนว่า การรุกรานยูเครน “อาจเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกในวันพรุ่งนี้”