เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ:งานท้าทายพิสูจน์บารมี‘โจ ไบเดน’

เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ:งานท้าทายพิสูจน์บารมี‘โจ ไบเดน’

เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐงานท้าทายพิสูจน์บารมี‘โจ ไบเดน’ ขณะผลสำรวจจากรอยเตอร์/อิปซอส บ่งชี้ว่า คะแนนนิยมในตัวปธน.ไบเดนอยู่ในระดับต่ำมาก 39% ทำให้อดีตปธน.โอบามาต้องมาช่วยดันคะแนนนิยมให้ในช่วงโค้งสุดท้าย

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐ เตรียมเดินทางไปยังรัฐฟลอริดาเพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 6 วันก่อนถึงกำหนดเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 8 พ.ย. ซึ่งการเลือกตั้งกลางเทอม ถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน  จะมีการชิงชัยเก้าอี้ทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจำนวน 435 ที่นั่ง รวมทั้งการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 35 ราย จากทั้งหมด 100 ราย ทั้งยังมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐใน 39 มลรัฐ รวมทั้งการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีกจำนวนมาก

เรียลเคลียร์โพลิติก เผยผลสำรวจที่บ่งชี้ว่า พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐหลังการเลือกตั้งกลางเทอม จากปัจจุบันที่พรรคเดโมแครตมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งอยู่เล็กน้อย ส่วนการเลือกตั้งในวุฒิสภาจะเป็นไปอย่างสูสีระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ซึ่งก่อนการเลือกตั้งทั้งสองพรรคมีคะแนนเสียงเท่ากันอยู่ที่ 50-50

เจ้าหน้าที่หลายคนในทำเนียบขาวยอมรับว่า พวกเขามีความกังวลว่าพรรคเดโมแครตอาจสูญเสียการครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ขณะที่ผลสำรวจพบว่า พรรคเดโมแครตอาจเสียเก้าอี้ในวุฒิสภาในหลายรัฐให้แก่พรรครีพับลิกัน หลังจากที่ชาวอเมริกันไม่พอใจการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของรัฐบาล
 

หากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะเหนือพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ จะทำให้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีไบเดน ในช่วงที่เหลืออีก 2 ปีเป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น โดยคาดว่า พรรครีพับลิกันจะขัดขวางการผ่านกฎหมายต่างๆ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ด้านโพลล์ล่าสุดเผยให้เห็นว่า ชาวอเมริกันไม่ขอทนกับการบริหารของประธานาธิบดีไบเดน โดยผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเพียง 33% ที่จะลงคะแนนให้ไบเดน หากการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะจัดขึ้นตอนนี้ ไม่ใช่ปี 2567

ผลสำรวจล่าสุดจัดทำโดยฟ็อกซ์ นิวส์ ระหว่างวันที่ 9-12 ต.ค. และเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (16 ต.ค.) พบว่า ถ้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2567 จัดขึ้นตอนนี้ จะมีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งไปลงคะแนนเสียงให้ประธานาธิบดีไบเดน เพียง 33% ขณะที่การเลือกตั้งกลางเทอมกำลังจะมีขึ้นต้นเดือนหน้า
 

ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ ต้องการใครสักคนที่ไม่ใช่ “โจ ไบเดน” ลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2567 โดยผู้ถูกสำรวจมากกว่า 50% บอกว่า พวกเขาไม่คิดว่าไบเดนซื่อสัตย์และเชื่อถือได้ และมีเพียง 1 ใน 3 หรือประมาณ 33% เท่านั้น ที่จะเป็นแรงส่งไบเดน กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังเชื่อด้วยว่า ความเป็นอยู่ของพวกเขาเลวร้ายกว่าเมื่อ 2 ปีก่อน

ผลสำรวจนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมจะจัดในวันที่ 8 พ.ย. ที่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งจะตัดสินชะตาว่า พรรคเดโมแครตหรือพรรครีพับลีกัน ควรได้ครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาคองเกรสส์

อย่างไรก็ตาม แม้ไม่ได้มีการเปิดเผยถึงเหตุผลในการตัดสินใจ แต่ก็เชื่อว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่พอใจการจัดการเศรษฐกิจของไบเดน ปัญหาเงินเฟ้อกับค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น เป็นความวิตกอันดับ 1 ของผู้ถูกสำรวจ 9 ใน 10 คน และมีถึง 51% ที่บอกว่า พวกเขาและครอบครัว มีชีวิตความเป็นอยู่ที่เลวร้ายกว่าเมื่อปี 2563

เหลือเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนจะมีการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐ และพรรคเดโมแครตกำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะสูญเสียความเป็นผู้นำเสียงข้างมากในสภาคองเกรส ด้วยเหตุนี้ พรรคเดโมแครตจึงหันไปพึ่งอดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา ให้ช่วยดึงคะแนนเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายนี้

อดีตปธน.โอบามา เดินทางไปรัฐจอร์เจียในวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนจะไปต่อที่รัฐวิสคอนซิน รัฐเนวาดา และรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งล้วนเป็นสมรภูมิสำคัญสำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย. โดยพื้นที่ทั้ง 4 รัฐที่ว่านี้ เป็นเขตที่มีการแข่งขันสูงมากสำหรับเก้าอี้ในสภาสูง โดยผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกันนั้นกำลังเริ่มมีชัยได้เปรียบอยู่

หากพรรครีพับลิกันสามารถพลิกกลับมาเป็นผู้นำเสียงข้างมากในทั้งสองสภาได้ จะสามารถทำการยับยั้งวาระแผนงานทั้งหลายของประธานาธิบดีไบเดน สกัดกั้นผู้ที่ปธน.ไบเดนเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งต่าง ๆ รวมถึงตำแหน่งตุลาการศาลสูง และทำการสอบสวนรัฐบาลชุดปัจจุบันได้อย่างอิสระ

ข้อมูลการสำรวจจากรอยเตอร์/อิปซอส บ่งชี้ว่า คะแนนความนิยมในตัวปธน.ไบเดนอยู่ในระดับต่ำมากประมาณ 39% ซึ่งทำให้อดีตปธน.โอบามาต้องมารับหน้าที่ช่วยดันคะแนนนิยมในตัวพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายนี้

“เจคอบ รูแบชกิน” นักวิเคราะห์ด้านการเลือกตั้งจากหน่วยงานอินไซด์ อิเล็กชันส์ ในกรุงวอชิงตัน ให้ความเห็นว่า อดีตปธน.โอบามา คือ ทูตที่จะทำหน้าที่ได้ดีกว่าปธน.ไบเดนในรัฐสมรภูมิ เนื่องจากความนิยมในอดีตผู้นำที่ยังดีอยู่และเป็นเพราะโอบามาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นต่าง ๆ ในปัจจุบันที่ผู้มีสิทธิ์ใช้เสียงกังวลอยู่

นอกจากพื้นที่ 4 รัฐข้างต้นแล้ว อดีตปธน.โอบามา จะเดินทางไปยังรัฐมิชิแกน ซึ่งจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐคนใหม่ด้วย

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาวะกดดันจากความกังวลของประชาชนในเรื่องเงินเฟ้อและสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ปธน.ไบเดน ไม่ค่อยปรากฏตัวในกิจกรรมหาเสียงของพรรคมากเท่าที่ควรในช่วงที่ผ่านมา

ด้านปธน.ไบเดน มีแผนจะลงพื้นที่หาเสียงในรัฐฟลอริดาในสัปดาห์หน้า เพื่อช่วย“ชาร์ลี คริสต์” ที่ลงสมัครท้าชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐจาก“รอน เดอซานติส” ที่ถูกมองว่า น่าจะเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี2567 โดยหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่รัฐนี้แล้ว ปธน.ไบเดน จะเดินทางไปร่วมกับอดีตปธน.โอบามา ในการหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย ในวันที่ 5 พ.ย.ต่อไป