ตลาดไม่เอื้อ บ.วีดิโอเกมจีนมุ่งหน้ายุโรป

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ยุโรปมีข้อพิพาทเรื่องการค้า สิ่งแวดล้อม การศึกษา วัตถุดิบ และทรัพย์สินทางปัญญากับรัฐบาลปักกิ่งมานานแล้ว แต่จนถึงขณะนี้วีดิโอเกมยังไม่เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้

เมื่อรัฐบาลปักกิ่งเข้มงวดกับอุตสาหกรรมวีดิโอเกมในประเทศ ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจีนก็มองหาการลงทุนในต่างแดน กระตุ้นให้เกิดความกังวลหลายเรื่องไล่ตั้งแต่ความปลอดภัยด้านข้อมูล ไปจนถึงข้อจำกัดเสรีภาพในความคิดสร้างสรรค์

“ยุโรปมีไอเดียนี้ที่ว่า เราจะสามารถแยกอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ออกจากอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ได้ วีดิโอเกมสำหรับผู้กำหนดนโยบายส่วนใหญ่มักอยู่ในกลุ่มไม่ใช่ยุทธศาสตร์” แอนโทเนีย ฮไมดี จากกลุ่มคลังสมอง Mercator Institute ให้ความเห็น

สิ่งนี้ช่วยให้เทนเซ็นต์ บริษัทเกมใหญ่สุดของโลกวัดจากรายได้ เข้าซื้อสตูดิโอทั่วยุโรป รวมถึงดีลทุบสถิติโลกในตอนนั้นซื้อบริษัทซูเปอร์เซลล์ของฟินแลนด์ด้วยวงเงิน 8.6 พันล้านดอลลาร์เมื่อปี 2559

คู่แข่งสัญชาติจีนอย่างเน็ตอีส บุกสตูดิโอเกมต่างประเทศครั้งใหญ่สุดเมื่อเดือน ส.ค. ซื้อบริษัทฝรั่งเศส “ควอนติกดรีม” ไม่กี่วันก่อนเทนเซ็นต์เพิ่มหุ้นในยูบิซอฟต์ สตูดิโอฝรั่งเศสอีกราย

คณะกรรมการกำกับดูแลของอียูแค่จับจ้องการลงทุนใหญ่ไปทั่วยุโรปเท่านั้น และคณะกรรมการระดับชาติไม่ได้สนใจ

ตอนที่เทนเซ็นต์ซื้อซูโม สตูดิโออังกฤษเป็นเงิน 1.3 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อน คณะกรรมการกำกับดูแลสหราชอาณาจักรไม่ได้ตรวจสอบดีลนี้ แต่คนที่ตรวจสอบเป็นคณะกรรมการของสหรัฐ

ตลาดจีนหนาว

นักวิเคราะห์กล่าวว่า บริษัทจีนพากันออกไปหาผลกำไรในต่างแดนมากขึ้นทุกที เพราะตลาดในประเทศมีข้อจำกัดเข้มงวดขึ้น

เทนเซ็นต์รายงานขาดทุนรายไตรมาสครั้งแรกในเดือน ส.ค. ท่ามกลางฉากหลังการกวาดล้างภาคเทคโนโลยีเป็นวงกว้าง

รัฐบาลจีนระบุว่า วีดิโอเกมอาจเป็นภัยคุกคามไม่ใช่แค่ต่ออำนาจรัฐ แต่ยังเป็นภัยต่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนด้วย

ปีก่อนปักกิ่งห้ามอนุมัติวีดิโอเกมใหม่เก้าเดือน ตอนนี้อนุมัติแค่ไม่กี่แห่งเมื่อเทียบกับอดีต โดยผู้ผลิตเกมต้องลบเนื้อหา “อันตรายทางการเมือง” และรัฐควบคุมเวลาวัยรุ่นเล่นเกมอย่างเข้มงวดด้วยสภาพแบบนี้หลุยส์ ชอร์ตเฮาส์ จากAmpere Analysis ระบุ

“บริษัทจีนโดยทั่วไปกำลังมองไกลออกไป เนื่องจากบรรยากาศของตลาดในประเทศ”

รายงานข่าวหลายชิ้นบ่งชี้ว่า เทนเซ็นต์กำลังเตรียมเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ ถึงขนาดอาจเริ่มเข้าควบคุมบริษัทเล็กกว่า

เควิน ชิโมตา อดีตผู้จัดการการตลาดเทนเซ็นต์ เขียนหนังสือ“The First Superapp” กล่าวว่า เทนเซ็นต์กำลังนั่งทับเงิน

“ตลาดจีนตอนนี้ไม่น่าสนใจ ดังนั้นในแง่กลยุทธ์ระดับโลกของเทนเซ็นต์ คาดได้เลยว่าบริษัทต้องรุกมากขึ้น” ชิโมตากล่าว แต่ย้ำว่า เป้าหมายของเทนเซ็นต์ไม่น่าจะเป็นการเทคโอเวอร์โดยตรงหรือควบคุมบริษัทต่างประเทศลึกซึ้งขึ้น แต่เทนเซ็นต์อาจหาหนทางพัฒนาเกมเพื่อผู้เล่นนอกประเทศจีน

เอาแน่เอานอนไม่ได้มากขึ้น

เทนเซ็นต์มีอยู่ทุกหนทุกแห่งในจีน ในอาณาจักรเกม โซเชียลมีเดีย และบริการชำระเงินส่วนใหญ่ใช้ช่องทางผ่านแอพวีแช็ต ที่อวดว่ามีผู้ใช้รายเดือนมากกว่า 1 พันล้านคน

โพนี หม่า ผู้บริหารเทนเซ็นต์ทำงานหนักไม่ให้ตนเองถูกจับตาและหลุดพ้นจากรัศมีอันตรายของรัฐบาลปักกิ่ง และบริษัทก็มุ่งมั่นนำเสนอความถ่อมเนื้อถ่อมตัวของตนต่อโลก

“ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุนรายย่อยหรือผู้ถือหุ้นข้างมาก เราจะไม่ควบคุมความคิดสร้างสรรค์ การบรรณาธิกรณ์ การจัดการ หรืองานรายวัน” เทนเซ็นต์แถลงต่อเอเอฟพี

โดยทั่วไปตัวแบบธุรกิจของเทนเซ็นต์คือการซื้อบริษัทต่างชาติแล้วแล้วเผยแพร่เกมของพวกเขาในตลาดจีน

เมื่อบริษัทต่างชาติเหล่านั้นไม่มีทีท่าหาทางอื่นเข้าจีนได้ พวกเขาก็ยินดีกับการลงทุนนี้และกระแสรายได้ใหม่ เน็ตอีสก็ทำตามตัวแบบเดียวกัน

 ควอนติกดรีมประกาศผ่านบล็อกเรื่องการเทคโอเวอร์ย้ำว่า บริษัทฝรั่งเศสรายนี้ยังคงควบคุมทิศทางการบรรณาธิกรณ์และศิลปะของโครงการ รวมถึงการจัดการสตูดิโอขณะที่เน็ตอีสยังไม่ได้ให้ความเห็นตามที่เอเอฟพีสอบถามไป

นักวิเคราะห์นามฮไมดี กล่าวว่า แนวทางไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวดีเมื่อธุรกิจกำลังบูมแต่ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหรือความวุ่นวายทางการเมืองไม่สามารถคาดการณ์ได้ เธอแนะนำว่า คณะกรรมการกำกับดูแลของยุโรปอาจได้ประโยชน์จากแนวทางที่กว้างขึ้นซึ่งตั้งคำถามว่า ประเทศหนึ่ง อาจเป็นจีนหรือประเทศอื่น ควรได้รับอนุญาตให้ครอบงำอุตสาหกรรมทั้งหมดหรือไม่

“การมีภาคส่วนใดพึ่งพาจีนแม้แค่เรื่องทั่วไป เป็นช่วงเวลาอันเลวร้าย” นักวิเคราะห์รายนี้สรุป