ลุ้น 4วาระใหญ่!ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่20 วันนี้
ลุ้น 4วาระใหญ่! การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 วันนี้ ขณะคณะผู้แทนจีนกว่า 2,200 คน เดินทางถึงกรุงปักกิ่งเพื่อร่วมประชุมนัดสำคัญ
คณะผู้แทนรวมตัวที่ปักกิ่ง พร้อมร่วมประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนวันอาทิตย์(16ต.ค.) พร้อมจับตาผลประชุม4ประเด็นใหญ่ การนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศสมัย3ของประธานาธิบดี "สี จิ้นผิง" ,เศรษฐกิจจีน,การผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์และท่าทีต่อปัญหาความตึงเครียดช่องแคบไต้หวัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะผู้แทนที่จะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ครั้งที่ 20 ได้เดินทางมารวมตัวกัน ณ กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนเมื่อวันศุกร์ (14 ต.ค.)
รายงานระบุว่า คณะผู้แทนทั้งหมดมากกว่า 2,200 คนซึ่งเป็นตัวแทนสมาชิกพรรคฯ ที่มีอยู่ทั่วประเทศจีนมากกว่า 96 ล้านรายนั้น จะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ ที่มีกำหนดเริ่มต้นขึ้นในวันอาทิตย์นี้ (16 ต.ค.) และการประชุม CPC ครั้งที่ 20 มีกำหนดเริ่มต้นในเวลา 10.00 น.ของวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ณ อาคารมหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน
การประชุมดังกล่าวจะถ่ายทอดสดโดยไชน่า มีเดีย กรุ๊ป (CMG) และสำนักข่าวซินหัว โดยจะถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์และวิทยุทั่วจีน เว็บไซต์ข่าว แพลตฟอร์มสื่อใหม่ หน้าจอกลางแจ้งขนาดใหญ่ และโทรทัศน์เคลื่อนที่
การประชุมครั้งนี้จะมีการเปิดตัวคณะกรรมการเมืองถาวรชุดใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกจับตามองอย่างมาก ทั้งยังมีการคาดหมายอย่างกว้างขวางกว่า ประธานาธิบดีสีจะได้รับเลือกเป็นเลขาธิการใหญ่อีกครั้ง ถือเป็นการสร้างความแตกต่างตามธรรมเนียมปฏิบัติที่นักการเมืองจีนมักเกษียณตอนมีอายุ 68 ปี และจะทำให้เขาได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3 เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของจีนไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ ผู้สังเกตการณ์ยังต้องการเห็นว่า สมาชิกชุดใหม่มีกี่คนและเป็นใครบ้าง ซึ่งจะช่วยให้คาดการณ์ได้ว่าประธานาธิบดีสีจะปกครองประเทศแบบไหน ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ หรือประนีประนอม รวมทั้งบุคคลที่อาจเป็นผู้สืบทอดทางการเมือง เพื่อหาเบาะแสว่าประธานาธิบดีสีจะปกครองประเทศไปอีกนานแค่ไหน
ประเด็นต่อมาที่ถือว่าสำคัญไม่แพ้กันคือ พรรคคอมมิวนิสต์จีน จะยึดมั่นในนโยบายทำให้โควิดเป็นศูนย์ไปจนถึงเมื่อใด เนื่องจากผู้คนเริ่มสงสัยกันมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็นเรื่องฉลาดหรือไม่ที่จีนจะดำเนินนโยบายล็อกดาวน์ต่อไปอีก หลังจากพบผู้ติดเชื้อเพียงจำนวนน้อยนิด ขณะที่เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมากมายและประเทศส่วนใหญ่เลือกใช้นโยบายอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19
ประเด็นที่คาดว่าจะถูกบรรจุในวาระการประชุมครั้งนี้ของเหล่าผู้นำจีนคือ การที่กำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจทับซ้อนกันหลายอย่าง ตั้งแต่ปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงธนาคารล้มละลาย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะนโยบายซีโร่โควิด ที่ยังคงถ่วงเศรษฐกิจ ท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอยเพราะสงครามในยูเครน ซึ่งกระทบความเชื่อมั่นอย่างหนัก
นักวิเคราะห์บางคนมีความเห็นว่า ความชอบธรรมของรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นอยู่กับความสามารถในการมอบรายได้และงานที่ดีให้แก่ชาวจีน แต่ปัจจุบัน การเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคของประธานาธิบดีสี ต่ำกว่าของผู้นำ 2 คนก่อนหน้านี้อย่าง "เจียง เจ๋อหมิน" และ "หู จิ่นเทา" เพราะฉะนั้นหากเศรษฐกิจไม่ดีอีกในช่วง 5 ปีข้างหน้า จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ทางการเมืองของประธานาธิบดีสีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประเด็นสุดท้ายคือ สถานการณ์ตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน หลังจากประธานาธิบดีสี แสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีไต้หวันอย่างแข็งกร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่การประชุมสมรรชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อ 5 ปีก่อน และเชื่อว่าการเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อเดือนส.ค. จะยิ่งทำให้ประธานาธิบดีสี และเหล่าผู้นำจีนในพรรคคอมมิวนิสต์มีท่าทีรุนแรงต่อดินแดนแยกตัวแห่งนี้มากขึ้น
