"แมคโดนัลด์ญี่ปุ่น" ลดขยะพลาสติก ใช้ "หลอดกระดาษ - ช้อนไม้" แทน

"แมคโดนัลด์ญี่ปุ่น" ลดขยะพลาสติก ใช้ "หลอดกระดาษ - ช้อนไม้" แทน

“แมคโดนัลด์” ในญี่ปุ่นเลิกใช้พลาสติก หันมาใช้หลอดกระดาษ และอุปกรณ์รับประทานอาหารจากไม้ ขานรับกฎหมายลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ผ่านมา แมคโดนัลด์ (McDonald’s) ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง ประกาศยกเลิกใช้อุปกรณ์รับประทานอาหารที่ทำจากพลาสติกทุกชนิด ในกว่า 2,900 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยจะหันมาใช้อุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทน ได้แก่ หลอดกระดาษ ที่คนกาแฟ ช้อน ส้อม มีดที่ผลิตจากไม้ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 ต.ค. เป็นต้นไป

แมคโดนัลด์ญี่ปุ่นคาดว่า การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะสามารถช่วยลดประมาณขยะพลาสติกประมาณ 900 ตันต่อปี และยังคงพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำมาใช้ได้ในเร็วๆ นี้

ขณะที่คู่แข่งรายสำคัญของแมคโดนัลด์ในญี่ปุ่นอย่าง มอส เบอร์เกอร์ (Mos Burger) ภายใต้การดำเนินงานของ Mos Food Services ก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน เพราะตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ทางร้านจะใช้ช้อน ส้อมที่ผลิตจากพลาสติกชีวภาพสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้ากลับบ้าน

ทั้งหมดนี้เป็นการขานรับต่อกฎหมายลดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งของญี่ปุ่นที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ระบุว่า ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรม ร้านซักแห้ง ร้านอาหาร และกลุ่มธุรกิจที่ใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง มากกว่า 5 ตันขึ้นไปต่อปี ต้องลดการใช้พลาสติกลง และจัดหาวัสดุทดแทนมาให้แก่ผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของแมคโดนัลด์ที่เลือกใช้หลอดกระดาษ ย้อนไปเมื่อปี 2561 แมคโดนัลด์ทั้ง 1,361 สาขา ในสหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ ได้เปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษ ตามแผนของรัฐบาลที่จะยกเลิกการใช้หลอดพลาสติก และสำลีก้านภายในปี 2563 

แต่ในระยะแรกนั้นกลับประสบปัญหาไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้แม้ว่าตัวหลอดจะทำจากวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% ก็ตาม เนื่องจากหลอดมีขนาดหนาเกินไป จนนำเข้ากระบวนการรีไซเคิลไม่ได้ นอกจากนี้ ในการใช้งานจริงนั้น หลอดกระดาษมักเปื่อยยุ่ยก่อนที่จะดื่มเครื่องดื่มหมด และเป็นเรื่องยากที่จะดื่มเครื่องดื่มที่มีความข้น เช่น มิลค์เชค ผ่านหลอดกระดาษได้

อีกทั้งยังมีรายงานจากนิตยสาร The Sun ระบุว่า แมคโดนัลด์จะทำลายหลอดกระดาษด้วยวิธีการฝังกลบ และเผาทำลาย ส่งผลให้บริษัทต้องออกมาประกาศให้ทิ้งหลอดกระดาษลงในถังขยะทั่วไปก่อน จนกว่าที่จะหาทางแก้ไขปัญหานี้ได้ พร้อมยืนยันว่าจะนำหลอดดังกล่าวไปใช้ในการผลิตพลังงานหมุนเวียน ไม่ใช่การฝังกลบดังที่มีข่าวออกมา

ขณะที่แมคโดนัลด์กว่า 1,400 สาขาในแคนาดา ได้เปลี่ยนไปใช้หลอดกระดาษ และอุปกรณ์รับประทานอาหารที่ทำด้วยไม้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งในปี 2561 บริษัทได้ลดขนาดกระดาษเช็ดปากลง 20% ซึ่งสามารถลดการสร้างขยะกระดาษได้มากถึง 900 ตันต่อปี

ส่วนแมคโดนัลด์ในละตินอเมริกามีแผนเปลี่ยนถาดอาหารพลาสติกเป็นวัสดุอื่นที่มีความยั่งยืนมากกว่า และยังร่วมมือกับ Loop บริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ใช้วัสดุหมุนเวียนออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับเครื่องดื่มร้อนที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกด้วย เช่นเดียวกับเบอร์เกอร์คิง (Burger King) ที่กำลังทดสอบภาชนะสำหรับใส่เบอร์เกอร์ และเครื่องดื่มที่สามารถนำกลับมาใช้ได้

จะเห็นได้ว่า แมคโดนัลด์ และร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดทั้งหลาย พยายามเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์อาหาร ภาชนะ และเครื่องมือการรับประทานให้เป็นวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ แทนที่การใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

จากข้อมูลของ Statista.com ระบุว่า มูลค่าของตลาดช้อน ส้อม พลาสติกทั่วโลกอยู่ที่กว่า 2,600 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีก และจากข้อมูลของสหประชาชาติ ระบุว่า ทวีปอเมริกาเหนือมีสัดส่วนการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้งถึง 21% โดยธุรกิจร้านอาหารสร้างขยะพลาสติกมากถึง 78% ของทั้งหมด ตามข้อมูลของ Spoon สื่อธุรกิจอาหาร

แมคโดนัลด์ตั้งเป้าที่จะใช้วัสดุรีไซเคิล พลาสติกชีวภาพ หรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% สำหรับบรรจุภัณฑ์ของลูกค้าทุกประเทศทั่วโลกภายในปี 2568


ที่มา: AljazeeraEnvironmental LeaderJapan TodayNHKNikkeiSpoonTime OutVerdict Food Service

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์