จับตาประชุมใหญ่เอเชีย 'จี20' คึกคัก - 'เอเปค' กร่อย

จับตาประชุมใหญ่เอเชีย 'จี20' คึกคัก - 'เอเปค' กร่อย

เดือนพ.ย.ปีนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่จับจ้องของคนทั้งโลก เพราะจะมีการประชุมใหญ่สามรายการ เกิดขึ้นที่นี่ เริ่มจากการประชุมผู้นำอาเซียน และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา ตามด้วยการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศจี20 ที่เกาะบาหลี อินโดนีเซีย และการประชุมผู้นำเอเปค ที่กรุงเทพฯ แต่การประชุมจะปังหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้นำที่มาร่วมด้วย

จี20 ซัมมิต

ที่ถูกจับตามองที่สุดหนีไม่พ้นจี20 ซัมมิต  จี20 เป็นเวทีพหุภาคีเชิงยุทธศาสตร์เชื่อมเขตเศรษฐกิจพัฒนาแล้วรายสำคัญกับเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ไว้ด้วยกัน สมาชิกจี20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ ตุรกี สหราชอาณาจักรสหรัฐ สหภาพยุโรป ส่วนสเปน ได้รับเชิญเป็นแขกถาวร แต่ละปีประธานจี20 จะเชิญหลายประเทศมาเป็นแขกเข้าร่วมการประชุมเต็มรูปแบบ รวมถึงเชิญองค์การระหว่างประเทศ และในภูมิภาคมาร่วมด้วยทำให้เวทีนี้มีตัวแทนเข้าร่วมกว้างขวางขึ้น

ความสำคัญของจี20

สมาชิกจี20 รวมกันคิดเป็นกว่า 80% ของจีดีพีโลก 75% ของการค้าระหว่างประเทศ และ 60% ของประชากรโลก เมื่อพิจารณาสมาชิกพบว่า ประกอบด้วยตัวละครที่เป็นคู่ขัดแย้งกันในเวลานี้ถึงสองคู่คือ สหรัฐกับจีน และรัสเซียกับยูเครน ที่ได้รับเชิญจากประธานอินโดนีเซีย 

สหรัฐ vs จีน 

ระยะหลังสหรัฐกับจีนเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด เมื่อจีนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเศรษฐกิจ และการทหาร มีโอกาสเป็นมหาอำนาจการเมืองโลกได้ไม่ยาก ตอนที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดฉากทำสงครามการค้าโดยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนด้วยข้ออ้างจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ถือว่าสะเทือนโลกแล้วแต่ยังไม่เท่าสหรัฐในสมัยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่เล่นงานจีนด้วยประเด็นประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการเดินเรือในทะเลจีนใต้ แต่ที่จีนยอมไม่ได้คือ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนำคณะไปเยือนไต้หวัน เมื่อวันที่ 2-3 ส.ค. เป็นตัวแทนระดับสูงสุดของสหรัฐในรอบ 25 ปี ที่มาเยือนในลักษณะนี้ ทั้งๆ ที่จีนเตือนมาตลอดว่าอย่ามา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง โทรศัพท์คุยกับประธานาธิบดี ไบเดน ในวันที่ 28 ก.ค.แสดงความกังวลต่อเรื่องนี้ เตือน “อย่าเล่นกับไฟ” แต่เมื่อฝ่ายสหรัฐไม่ฟัง จีนจึงตอบโต้ด้วยการซ้อมรบกระสุนจริงรอบเกาะไต้หวัน ส่งเครื่องบินรบไปป้วนเปี้ยน และข้ามเส้นแบ่งเขตโดยพฤตินัยในช่องแคบไต้หวัน 

จีน “เล่นใหญ่” จนหลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าจะเกิดสงครามระหว่างมหาอำนาจเบอร์ 1 และ เบอร์ 2 ของโลก งานนี้ควรต้องมีโอกาส “เคลียร์ใจ” ระหว่างกันแบบตัวต่อตัว แต่จะเคลียร์กันได้อย่างไร ในเมื่อประธานาธิบดี สี ไม่เคยออกนอกประเทศจีนเลยตั้งแต่โควิด-19 ระบาดในปี 2563 อีกทั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะมีการประชุมใหญ่ที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. สื่อต่างประเทศคาดการณ์ว่า จะเป็นการกระชับอำนาจประธานาธิบดี สีมากขึ้นไปอีกด้วยการนั่งเลขาธิการพรรคครั้งประวัติศาสตร์เป็นวาระที่ 3 

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าว เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 

เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสีจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของกลุ่มจี20 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 15-16 พ.ย.ก่อนที่จะเดินทางมายังกรุงเทพฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในวันที่ 18 พ.ย.

แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังจัดเตรียมสำหรับการประชุมทวิภาคีระหว่างผู้นำของจีน และสหรัฐโดยอาจมีขึ้นนอกรอบการประชุมจี20 หรือการประชุมเอเปค ซึ่งการเตรียมการยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

รายงานข่าวเมื่อวันที่ 1 ก.ย. จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของสหรัฐ และจีนกำลังใช้ความพยายามอย่างหนักในการเตรียมจัดการประชุมแบบพบหน้ากันระหว่าง ไบเดน กับสี ในระหว่างการเดินทางเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนพฤศจิกายน แม้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความตึงเครียดเกี่ยวกับประเด็นไต้หวัน

ถัดมาไม่กี่วันในวันที่ 6 ก.ย. ไบเดนพูดเองว่า เขาจะพบกับสี ในการประชุมจี20 ถ้าสีมาประชุมด้วย

“ถ้าเขาไปที่นั่น ผมพบเขาแน่นอน” ไบเดนตอบคำถามผู้สื่อข่าว 

รัสเซีย-ยูเครน

ความพิเศษของการประชุมจี20 ปีนี้คือ ท่ามกลางกระแสคว่ำบาตรรัสเซียจากโลกตะวันตก อินโดนีเซียเจ้าภาพถูกกดดันให้กีดกันรัสเซียออกจากการประชุม แต่ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ใช้ความสามารถทางการทูตสร้างสมดุลกับทุกฝ่าย และเชิญยูเครนมาร่วมประชุมด้วยในฐานะประเทศผู้สังเกตการณ์  นอกจากนี้ช่วงปลายเดือน มิ.ย.โจโกวียังเดินทางไปกรุงเคียฟ และมอสโกพบกับประธานาธิบดีทั้งสองประเทศด้วยตนเอง

เอเปคกร่อย ไบเดนไม่มา 

ส่วนการประชุมผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. ที่เคยถูกสื่อตีข่าวว่า อาจเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ไบเดนกับสีจะได้พบกันเป็นครั้งแรก ส่งสัญญาณไม่เป็นตามที่หวัง เมื่อมีรายงานข่าวในคืนวันเสาร์ (24 ก.ย.) ว่า ไบเดนติดภารกิจครอบครัวมาร่วมประชุมที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ เสร็จการประชุมผู้นำจี20 ที่บาหลีแล้วบินกลับประเทศเลย โดยส่งรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส มาประชุมผู้นำเอเปคที่กรุงเทพฯ แทน 

เช้าวันอาทิตย์ (25 ก.ย.) สำนักข่าวเอพีรายงานให้ความชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ไบเดนไม่มาร่วมประชุมผู้นำเอเปคที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เนื่องจาก“นาโอมิ ไบเดน” หลานสาวคนโตจะจัดงานแต่งงานกับปีเตอร์ นีล คู่หมั้น ที่ทำเนียบขาวในวันที่ 19 พ.ย. ซึ่งตรงกับวันประชุมผู้นำเอเปคในกรุงเทพฯ เมื่อประธานาธิบดีไบเดนไม่มา งานจึงดูจืดสนิทไปโดยปริยาย ไฮไลต์ทั้งหมดน่าจะไปรวมกันที่เวทีจี20 ที่จัดขึ้นก่อนหน้าเพียงไม่กี่วัน

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์