กระแสเอกราชสก็อตแลนด์แผ่วหลัง‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’สวรรคต

กระแสเอกราชสก็อตแลนด์แผ่วหลัง‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’สวรรคต

กระแสเอกราชสก็อตแลนด์แผ่วหลัง‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’สวรรคต โดยผลสำรวจจัดทำโดยเดลตาโพลล์ บ่งชี้ว่าความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 โดยมีราว 2 ใน 5 เชื่อว่าพระองค์จะเป็นกษัตริย์ที่ดีของสกอตแลนด์

ผลสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์เดอะซัน ออน ซันเดย์ บ่งชี้ว่า หลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรเสด็จสวรรคต เสียงสนับสนุนให้สกอตแลนด์แยกตัวเป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักร ก็ลดลงอย่างมาก อีกทั้งแรงสนับสนุนที่มีต่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ก็เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน

ผลสำรวจที่จัดทำเป็นพิเศษ พบว่า เสียงสนับสนุนอยากเห็นสกอตแลนด์แยกตัวเป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักรลดลง 7% โดยมีชาวสกอตแลนด์เพียงแค่ 42% ที่จะโหวตแยกตัวเป็นเอกราช หากการลงประชามติมีขึ้นในวันจันทร์(19ก.ย.)จากเดิมที่เคยมีถึง 49% ในผลสำรวจซึ่งจัดทำเมื่อเดือนที่แล้ว

ผลสำรวจล่าสุดนี้จัดทำขึ้น 10 วันหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ปราสาทบาลมอรัล และพระศพได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐานในวิหารเซนต์ไจล์ส กรุงเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์

ผลสำรวจที่จัดทำโดยเดลตาโพลล์ บ่งชี้ด้วยว่าความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ ให้การสนับสนุนสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 โดยมีราว 2 ใน 5 ที่เชื่อว่าพระองค์จะเป็นกษัตริย์ที่ดีของสกอตแลนด์ และมีเพียง 15% เท่านั้นที่เชื่อว่าพระองค์จะเป็นกษัตริย์ที่ไม่ดี
 

นอกจากนี้ ชาวสกอตแลนด์ 1 ใน 3 หรือประมาณ 28% ที่เชื่อว่า การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะช่วยเสริมความเข้มแข็งแก่สหราชอาณาจักร ขณะเดียวกัน มีเพียง 18% ที่เชื่อว่าการเสด็จสวรรคตจะทำให้ความสัมพันธ์อ่อนแอลง

ผลสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้ยังระบุถึง“ลิซ ทรัสส์” นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสหราชอาณาจักร โดยเสียงส่วนใหญ่ของผู้ใหญ่ชาวสกอตแลนด์ประมาณ 55% ไม่อยากให้ทำประชามติรอบใหม่ในการแยกตัวเป็นเอกราช

"แอนดรูว์ โบวี" ส.ส.จากพรรคอนุรักษ์นิยม กล่าวว่า "สิ่งที่แสดงให้เห็นในสัปดาห์ที่แล้วคือ จากการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 ไม่ได้สร้างความแตกแยก แต่ยิ่งสร้างความสมัครสมานของคนในชาติ ผู้คนทั่วทั้งประเทศพร้อมใจกันแสดงความเคารพและอาลัยสมเด็จพระราชินีผู้ล่วงลับ”
 

โพลล์ล่าสุดนี้ สอดคล้องกับรายงานข่าวของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ว่า ความโศกเศร้าที่คนสหราชอาณาจักรมีต่อการจากไปของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทำให้กระแสต่อต้านราชวงศ์อังกฤษแผ่วลง โดยแม้แต่กลุ่มรีพับลิก ที่ต้องการเปลี่ยนอังกฤษไปสู่ระบอบสาธารณรัฐก็ยังออกมาแสดงความเสียใจและประกาศงดรณรงค์ล้มเจ้าชั่วคราว

ประชาชนกลุ่มที่ต้องการล้มล้างราชวงศ์ยังคงเป็นประชากรส่วนน้อยมากในอังกฤษ โดยโพลของยูกอฟ เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ตอบคำถามแค่ 22% เท่านั้นที่อยากจะได้ประมุขรัฐที่มาจากการเลือกตั้ง เทียบกับ 62% ที่ต้องการให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ต่อไป

ผลสำรวจของยูกอฟ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ก.ย. พบว่า ระดับความนิยมในตัวสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับการทำโพลล์ในช่วง 4 เดือนที่แล้ว

ผู้ตอบแบบสอบถาม 63% เชื่อว่าพระองค์จะทรงปฏิบัติหน้าที่พระมหากษัตริย์ได้ดี จากเดิมที่มีผู้ตอบเช่นนี้แค่ 32% ในเดือนพ.ค.

ขณะที่สื่อใหญ่เตรียมถ่ายทอดสดพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในวันจันทร์(19 ก.ย.) โดยคาดว่าจะทำสถิติผู้ชมทั่วโลกมากเป็นประวัติการณ์จำนวนหลายพันล้านคน

ทั้งนี้ พระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 19 ก.ย. เวลา 11.00 น.ตามเวลาอังกฤษ หรือ 17.00 น.ตามเวลาไทย โดยผังรายการประจำวันที่ 19 ก.ย. ของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ระบุว่า ทางสถานีจะถ่ายทอดสดพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ตั้งแต่เวลา 15.00 น.ตามเวลาไทย จนถึงเวลา 24.00 น.

นอกจากนี้ สำนักข่าวบีบีซี จะถ่ายทอดสดพระราชพิธีดังกล่าวเช่นกัน

ด้านสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน แถลงว่า พระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ถือเป็นปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยครั้งใหญ่ที่สุดของอังกฤษ เนื่องจากจะมีผู้นำและประมุขของชาติต่างๆ ซึ่งเป็นกษัตริย์และพระราชินี รวมทั้งสมาชิกในพระราชวงศ์, ประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีจากทั่วโลกเข้าร่วมพระราชพิธีดังกล่าว

“ผมสามารถยืนยันได้ว่านี่จะเป็นปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยครั้งใหญ่ที่สุดของตำรวจนครบาลลอนดอน โดยจะเป็นเหตุการณ์ใหญ่กว่าการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2012 หรือการจัดงานเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2” สจวร์ต คันดี้ ผู้ช่วยรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอน กล่าว

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า ผู้นำและประมุขของชาติต่างๆราว 2,000 คนจะเดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยผู้นำสหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมทั้งประเทศต่างๆที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอังกฤษ ต่างก็ได้ตอบรับเทียบเชิญแล้ว ซึ่งจะทำให้พระราชพิธีพระบรมศพในครั้งนี้ถือเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของผู้นำโลกในรอบหลายปี

ขณะนี้ หีบพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ถูกนำมาประดิษฐานไว้ที่เวสต์มินสเตอร์ ฮอลล์ และเมื่อถึงวันที่ 19 ก.ย.จะมีพิธีอัญเชิญพระบรมศพไปประกอบรัฐพิธีที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นพิธีจะมีการเคลื่อนพระบรมศพเพื่อประกอบพิธีฝังที่โบสถ์น้อยเซนต์จอร์จภายในปราสาทวินด์เซอร์