เผย 10 รัฐที่มีอัตราเงินเฟ้อแรงที่สุดในสหรัฐ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี เผย10 รัฐในสหรัฐที่ประสบภาวะเงินเฟ้อรุนแรงที่สุด ทำให้ชาวอเมริกันต้องรับมือกับค่าครองชีพที่สูงมาก โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์
อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐเป็นที่น่าจับตามอง เนื่องจากเดือน ส.ค. สหรัฐมีอัตราเงินเฟ้อสูงถึง 8.3% ทำให้ชาวอเมริกันต้องรับมือกับราคาสินค้าและบริการที่แพงขึ้น แต่อัตราเงินเฟ้อในแต่ละภูมิภาคจะแตกต่างกันไป ตามปัจจัยต่าง ๆ ทั้งความพร้อมของสินค้าและบริการ รวมถึงค่าขนส่งและที่อยู่อาศัย
‘WalletHub’ เว็บไซต์การเงินส่วนบุคคล จึงใช้ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) มาสำรวจมหานครที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐทั้ง 23 แห่ง และคำนวณให้คะแนนเต็ม 100 ถ้าคะแนนสูง แสดงว่าอัตราเงินเฟ้อสูงมาก โดยคำนวณจากการเปรียบเทียบระหว่างราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นเมื่อปีก่อนกับราคาบ้านเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว พบว่าราคาที่อยู่อาศัยคิดเป็น 32% ของดัชนีราคาผู้บริโภคทั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด
เมืองและรัฐที่ประสบภาวะเงินเฟ้อรุนแรงที่สุด มีดังนี้
1.ฟีนิกซ์, เมซา, สกอตส์เดล รัฐแอริโซนา :92.11 คะแนน
2.แอตแลนต้า, แซนดี้ สปริงส์,รอสเวลล์ รัฐจอร์เจีย : 87.59คะแนน
3.แทมปา, เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, เคลียร์วอเตอร์ รัฐฟลอริดา: 84.16คะแนน
4.ไมอามี, ฟอร์ตลอเดอร์เดล, เวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา: 72.84คะแนน
5.ดัลลาส, ฟอร์ตเวิร์ธ, อาร์ลิงตัน รัฐเท็กซัส: 69.2 คะแนน
6.ริเวอร์ไซด์, ซานเบอร์นาดิโน, ออนแทรีโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย : 68.71คะแนน
7.เดนเวอร์, ออโรรา, เลควูด, โคโลราโด : 67.12คะแนน
8.บัลติมอร์, โคลัมเบีย, โทว์สัน, แมริแลนด์ : 66.79คะแนน
9.มินนิอาโปลิส, เซนต์ปอล, บลูมิงตัน, มินนิโซตา, วิสคอนซิน : 62.74คะแนน
10.ฮูสตัน, วูดแลนดส์, ชูกาแลนด์ รัฐเท็กซัส : 61.99 คะแนน
6 รัฐอันดับแรกที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงสุด ล้วนอยู่ในเขตซันเบลท์ คือภูมิภาคที่มีสภาพอากาศอบอุ่น รวมถึงมีการเติบโตทางเศรษฐกิจและประชากรอย่างรวดเร็ว และเมืองทั้ง 10 อันดับ เป็นแหล่งอพยพย้ายถิ่นฐานของประชากรเมื่อช่วงต้นของการแพร่ระบาดโควิด-19 เนื่องจากผู้คนต้องการเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ถูกกว่าพื้นที่อื่นของประเทศ แต่ด้วยจำนวนผู้อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นอสังริมทรัพย์จึงไม่มีราคาถูกเหมือนแต่ก่อน
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Redfin นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ เผยว่า แม้ตลาดที่อยู่อาศัยจะเริ่มชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากอัตราการจำนองที่ดินสูงขึ้น แต่พื้นที่ 10 อันดับนั้นยังเผชิญกับราคาบ้านที่มีอัตราเฟ้อสูงถึง 15%-30% เมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว