“ลิซ ทรัสส์” นายกฯอังกฤษหญิงที่ “รัสเซีย” ไม่ปลื้ม

“ลิซ ทรัสส์” นายกฯอังกฤษหญิงที่ “รัสเซีย” ไม่ปลื้ม

ท้ายที่สุดก็เป็นไปตามคาดหมาย “ลิซ ทรัสส์” ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ แต่ดูเหมือนว่า รัฐบาลรัสเซียจะแสดงความไม่ปลื้มจนออกนอกหน้า แถมไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูนให้กับผู้นำหญิงคนใหม่แห่งเมืองผู้ดีคนนี้

ในบรรดานักการเมืองต่างชาติที่บินไปกรุงมอสโกเมื่อต้นปีนี้ หวังหยายามหยุดยั้งการรุกรานยูเครน พบว่า นางทรัสส์ได้ออกลวดลายกวนใจรัสเซียมากกว่าใครเพื่อน

เซอร์เก ลาฟรอฟ” รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเคยพูดถึงการสนทนาระหว่างเขากับนางทรัสส์ไว้ว่า เหมือนกับการสนทนาระหว่าง "คนหูหนวกกับคนใบ้" ที่ยากจะเข้าใจตรงกันได้

ในรายงานหนังสือพิมพ์รัสเซียระบุว่า ในการสนทนาของทรัสส์กับลาฟรอฟ เธอได้พูดหลุดออกมาอย่างไม่ตั้งใจว่า อังกฤษจะไม่มีวันยอมรับอำนาจอธิปไตยของมอสโกเหนือดินแดนของรัสเซีย 2 แห่งคือ เมืองรอสตอฟ และเมืองโวโรเนจ 

นางทาเทียนา สตาโนวายา ผู้ก่อตั้งบริษัทวิเคราะห์การเมือง R.Politik ชี้ว่ารัสเซียฝันที่จะจัดการกับผู้นำที่แข็งแกร่งและมีอำนาจ แต่รัสเซียมองนางทรัสส์ผิวเผินเกินไป โดยเห็นว่าเป็นเพียงตัวแทนนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มาและก็ไป ไม่อาจจะจัดการรัสเซียได้ 

“เชื่อว่า รัฐบาลเครมลินจะมีความสุขมาก ถ้าได้เห็นนางทรัสส์ทำผิดพลาด และจะส่งกล่องของขวัญถึงเธอทันที” นักวิเคราะห์การเมือง R.Politik กล่าว 

ก่อนหน้านี้ รัสเซียกระโจนลงเล่นงานนางทรัสส์โดยทันที หลังจากที่เธอสับสนระหว่างทะเลดำกับทะเลบอลติก ประเด็นนี้จี้จุดให้มาเรีย  ซาคาโรวา โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกโรงชี้ให้เห็นถึง “ความโง่เขลาและด้อยปัญญา” ของนักการเมืองแห่งชนชาติแองโกล-แซกซอน

นักวิเคราะห์การเมืองคนเดิมหวังว่า นางทรัสส์จะคงจุดยืนของอังกฤษ ในฐานะหนึ่งในผู้สนับสนุนยูเครนอย่างกระตือรือร้นที่สุด ทั้งจัดหาอาวุธและการฝึกอบรมทางทหารให้แก่ยูเครน

ส่วนการเป็นปรปักษ์ของรัสเซียอาจไม่ได้ทำให้นายกฯทรัสส์กังวลมากนัก ในทางกลับกันมันมีประโยชน์ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะในช่วงที่เธอมุ่งมั่นพิสูจน์ตัวตนของเธอ ในฐานะผู้นำที่แข็งแกร่งกล้าเผชิญหน้ากับมอสโก ซึ่งพยายามอยู่เหนือยูเครน

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเยือนรัสเซียเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นางทรัสส์แสดงให้เห็นแล้วว่า เมื่อได้เผชิญหน้ากับนายลาฟรอฟ เธอสามารถยืดหยัดอย่างเด็ดเดียว จะทำให้เธอมีประสบการณ์มากขึ้น โดยท้าทายรัสเซียว่า ไม่อาจข่มขู่ใครด้วยการใช้กองทัพประชิดชายแดนยูเครน แม้สองสัปดาห์ให้หลัง รัสเซียบุกยูเครนก็ตาม