ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลง 2.09 ดอลล์แม้สหรัฐเผยสต็อกลดลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 2.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล

อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 500,000 บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย และส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฟดจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ

ด้านนางอิสซาเบล ชนาเบล กรรมการอีซีบี ระบุเช่นกันว่า อีซีบีจะใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาดโลก

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่จีนประกาศล็อกดาวน์ในเมืองเสิ่นเจิ้นและต้าเหลียน ซึ่งจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในจีน

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 5 ก.ย.เพื่อพยุงราคาในตลาด