หุ้น ‘บีวายดี’ ดิ่งหนัก หลัง'บัฟเฟตต์'ลดถือครอง

หุ้น ‘บีวายดี’ ดิ่งหนัก หลัง'บัฟเฟตต์'ลดถือครอง

หุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน “บีวายดี” ร่วงแรง หลังผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด “เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์” ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ลดการถือหุ้นท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเตรียมเท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ราคาหุ้น บีวายดี ผู้ผลิตรถอีวีของจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ร่วงลงมากถึง 13% หนึ่งวันหลังเอกสารยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เผยว่า เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ลดการถือครองจาก 20.04% มาอยู่ที่ 19.92% ปิดตลาดราคาลดลง 7.9% ขณะที่หุ้นในตลาดเสิ่นเจิ้นปิดลบ 7.4% รวมแล้วหุ้นบีวายดีถูกขายไปราว 1.33 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 47 ล้านดอลลาร์

บริษัทผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในจีนถูกทิ้งให้ต้องดิ้นรนหลังจากมาตรการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาลทำให้ซัพพลายเชนปั่นป่วน โรงงานทั่วประเทศต้องหยุดการผลิตหลายสัปดาห์

แม้สัปดาห์นี้บีวายดีที่มีฐานปฏิบัติการในเสิ่นเจิ้นรายงานรายได้แข็งแกร่ง แต่ก็มีข่าวลือว่า บัฟเฟตต์ นักลงทุนเจ้าตำนานชาวอเมริกัน ผู้อยู่เบื้องหลังเบิร์กเชียร์อาจหาทางทิ้งหุ้นบีวายดีทั้งหมด

เบิร์กเชียร์ซื้อบีวายดีครั้งแรก 225 ล้านหุ้นในปี 2551 และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด ขณะนี้บีวายดีคือผู้ผลิตรถอีวีรายใหญ่สุดของจีน คู่แข่งคนสำคัญของเทสลา

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างเอกสารยื่น กลต.ของทั้งสองบริษัทว่า ระหว่างวันที่ 30 มิ.ย.-24 ส.ค.เบิร์กเชียร์ขายหุ้นบีวายดีราว 6.3 ล้านหุ้น บีวายดีกล่าวกับสื่อจีนว่า ไม่จำเป็น “ต้องตีความมากเกินไป” ในการขายหุ้นครั้งนี้ และว่าบริษัทยังดำเนินการตามปกติ ไม่มีความเคลื่อนไหวสำคัญให้ต้องเปิดเผย

เมื่อวันจันทร์ (29 ส.ค.) บีวายดีรายงานรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นสามเท่ามาอยู่ที่ 3.6 พันล้านหยวน (521 ล้านดอลลาร์) จากปีก่อน เอาชนะความปั่นป่วนของซัพพลายเชนอันเป็นผลจากโควิดระบาดและเศรษฐกิจจีนชะลอตัวได้

บริษัทระบุในเอกสารที่ยื่น กลต.ว่า ผลผลิตและยอดขายช่วงครึ่งปีแรกทุบสถิติ รายได้พุ่งขึ้น 66% เมื่อเทียบเป็นรายปีมาอยู่ที่ 1.51 แสนล้านหยวน บีวายดีเป็นผู้นำตลาดยานยนต์พลังงานใหม่ หกเดือนแรกครองสัดส่วนตลาด 24.7%

“นักลงทุนอาจตีความว่า นี่คือการเริ่มต้นยุติถือหุ้นบีวายดีของเบิร์กเชียร์ ดิฉันมองว่า เป็นไปได้ที่นักลงทุนรายใหญ่สุดรายหนึ่งของโลกอาจทำกำไรบางส่วนหลังจากผ่านไปนานกว่าหนึ่งทศวรรษโดยเฉพาะในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดของเขา เปอร์เซ็นต์ดีมาก” บริดเจ็ต แมคคาร์ธีย์ นักวิเคราะห์ตลาดจากเฮดจ์ฟันด์ “สโนว์บุลแคปิตอล” กล่าวกับบลูมเบิร์ก

นักวิเคราะห์บางคนโต้แย้งว่า พื้นฐานอันแข็งแกร่งของบีวายดี ผนวกกับความพยายามพัฒนาภาคพลังงานสีเขียวของรัฐบาลปักกิ่ง หมายความว่า บริษัทยังมีโอกาสเติบโต

“แม้ระยะสั้นราคาหุ้นผันผวน แต่มีคุณค่าน่าลงทุนด้วยตัวแบบธุรกิจที่มั่นใจได้ในระยะกลางถึงระยะยาว” แอนดี หว่อง ผู้จัดการกองทุนจากLW Asset Management Advisors ในฮ่องกงให้ความเห็น