เปิด 5 ธุรกิจที่มีรายได้พุ่งในยุคเงินเฟ้อ

เปิด 5 ธุรกิจที่มีรายได้พุ่งในยุคเงินเฟ้อ

หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาเงินเฟ้ออย่างทั่วถึง ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการใช้ชีวิตของผู้คนอย่างหนัก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ เพราะมีอุตสาหกรรมบางประเภทได้ประโยชน์จากภาวะเงินเฟ้อเและมีกำไรมากขึ้น

เว็บไซต์บีบีซี นำเสนอรายงานที่กล่าวถึงภาคครัวเรือนและธุรกิจในอังกฤษ รวมถึงหลายประเทศทั่วโลกว่า กำลังเผชิญปัญหาเงินเฟ้ออย่างทั่วถึง  ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการใช้ชีวิตของผู้คนอย่างหนัก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ เพราะมีอุตสาหกรรมบางประเภทได้ประโยชน์จากภาวะเงินเฟ้อเและมีกำไรมากขึ้น  ภาคธุรกิจเหล่านั้น ได้แก่

1. บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่

เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติและราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ราคาน้ำมันขายส่งแพงขึ้นประมาณ100 ดอลลาร์/บาร์เรล เกิดจากความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นและความกังวลต่ออุปทานน้ำมันจากสงครามยูเครน บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่หลายแห่งทั่วโลกจึงมีรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เช่น บริษัทน้ำมันซาอุฯ อารามโค ทำสถิติกำไรสูงสุดในไตรมาสสอง 

ส่วนบีพี มีกำไรกว่า 6.9 พันล้านยูโร  และเชลล์มีกำไร 9 พันล้านยูโร 

2. ธุรกิจเหมือง

หลังเกิดสงครามในยูเครน หลายประเทศพยายามหาทางเลือกทดแทนก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียและความกังวลต่อรัสเซียที่อาจระงับขนส่งก๊าซไปยุโรปช่วงฤดูหนาว ทำให้ถ่านหินเป็นทางเลือกที่ไม่คาดคิดว่าจะกลับมานิยมอีกครั้ง

 บริษัทเหมืองแร่ถ่านหินอย่างเกลนคอร์ ทำกำไรได้เพิ่มขึ้น 2 เท่า มากกว่า 15,000 ล้านยูโรในช่วงครึ่งปีแรก อีกทั้งรัฐบาลอังกฤษยังขอร้องบรรดาธุรกิจพลังงานถ่านหินให้ชะลอการปิดตัวโรงงานออกไปอีก

3.ธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์

ในภาวะสงครามยูเครน ซัพพลายเชนด้านนี้เป็นเสาหลักในการจัดหาอาหารให้แต่ละพื้นที่ที่ต้องการ และช่วยเหลือหลายประเทศให้เข้าถึงแหล่งสำรองอาหารทั้งข้าวและธัญพืช ซึ่งความขาดแคลนอาหารส่งผลให้ราคาข้าวสาลีพึ่งสูงขึ้น 25% มากกว่าปีก่อน 

อีกทั้งมื้ออาหารหลักมีราคาแพงขึ้นตามมา แต่ธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์ กลับมีกำไรจากราคาอาหารแพง โดยบริษัทแปรรูปอาหารเอดีเอ็ม มีกำไรเพิ่มขึ้น 60% ในไตรมาสล่าสุด 

 และบริษัทแปรรูปอาหารและสินค้าเกษตรคาร์กิล มีกำไรเพิ่มขึ้น 23% มูลค่า 165,000 ล้านยูโรจากงบการเงินล่าสุด

4.ธุรกิจขนส่ง

แม้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจและซัพพลายเชนหลายภาคส่วนชะลอตัวลง แต่ธุรกิจขนส่งกลับเฟื่องฟูอย่างมาก ค่าระวางหรือค่าขนส่งพุ่งสูงขึ้น จากความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วงล็อกดาวน์โควิด-19 

 ข้อมูลของหน่วยงานวิเคราหะ์ตลาดดริวรี (Drewry) เผยว่า อุตสาหกรรมขนส่งด้วยตู้คอนเทนเนอร์มีกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 500,000 ล้านดอลลาร์มากกว่าสองปีที่แล้ว

 ด้านบริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางเรือรายใหญ่อันดับสองของโลกอย่าง AP Møller-Maersk ก็ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรในไตรมาสสาม

5.ธุรกิจนาฬิกาหรูและไวน์ชั้นเยี่ยม

สำหรับคนที่สามารถผลาญเงินในช่วงภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจหดตัว การลงทุนทางเลือกให้ได้รับผลตอบแทนดีคงหาได้ยาก จึงเปลี่ยนไปลงทุนอย่างอื่นแทน โบรกเกอร์ของไนท์แฟรงค์ รายงานว่า มูลค่าการลงทุนในนาฬิกาหรูและไวน์ชั้นเยี่ยมพุ่งขึ้น 16% เมื่อปีที่แล้ว งานศิลปะเพิ่มขึ้น 13% วิสกี้และเหรียญต่าง ๆ เพิ่มขึ้น 19% แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนเดิมพันกับของสะสม เพราะคุณค่าสิ่งของเหล่านี้จะแซงหน้าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่ง 'บอร์โดซ์' ผู้จำหน่ายไวน์ชั้นเยี่ยมที่ใหญ่ที่สุดในโลกมียอดขายเพิ่มขึ้น 37% ในครึ่งปีแรก