‘เอกสารปธน.สหรัฐ’ สมบัติรัฐบาลกลาง- ไม่ใช่ของส่วนตัว

‘เอกสารปธน.สหรัฐ’ สมบัติรัฐบาลกลาง- ไม่ใช่ของส่วนตัว

หลายคนเกิดข้อสงสัยในใจว่าทำไมเอกสารของอดีตผู้นำสหรัฐจึงไม่ใช่สมบัติส่วนตัว หลังมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานสืบสวนกลางสหรัฐ(เอฟบีไอ) ใช้หมายค้นเข้าไปหาหลักฐาน ที่เป็นข้อมูลลับในบ้านของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

เมื่อเดือนก.พ.สำนักข่าวเอพี รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐ(National Archives and Records Administration)หรือ นารา ว่า พบเอกสารที่มีข้อมูลลับของทำเนียบขาวบรรจุอยู่ในกล่อง 15 ใบ ที่ถูกนำไปเก็บที่ มาร์-อะ-ลาโก ซึ่งเป็นบ้านของทรัมป์ในฟลอริดา แต่ไม่เป็นที่เเน่ชัดว่ากระทรวงยุติธรรมและเอฟบีไอได้ดำเนินการสืบสวนเหตุดังกล่าวต่อหรือไม่

แต่คำถามคือ เหตุใดเอกสารของประธานาธิบดีที่เกี่ยวกับการทำงานในตำแหน่ง เช่น บันทึกการโทรศัพท์เข้า-ออก และจดหมายที่เขียนด้วยลายมือ จึงไม่ใช่ของส่วนตัวของประธานาธิบดี แต่เป็นของรัฐบาลกลาง และอยู่ภายใต้การดูเเลของหน่วยงานหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

“เมแกน โรอัน กูธอน” รักษาการรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า ข้อมูลเกี่ยวกับประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นสมบัติของรัฐบาลอเมริกัน  ไม่ว่าเอกสารของประธานาธิบดีจะมาจากการมอบให้ บริจาค หรือยึดมาได้ ของเหล่านี้เป็นของรัฐบาลกลาง ตามอำนาจของกฎหมายที่เรียกว่า Presidential Records Act ปี2521
 

กฎหมายฉบับดังกล่าวของสหรัฐ ระบุว่า ทันทีที่ประธานาธิบดีพ้นตำแหน่ง เอกสารของประธานาธิบดีทั้งหมดจะถูกโอนให้อยู่ในการดูเเลของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ และหากมีการสร้างห้องสมุดประธานาธิบดีหลังการออกจากตำแหน่งของผู้นำคนใด เอกสารของห้องสมุดเหล่านั้นก็อยู่ในการดูเเลของหน่วยงานนี้
 

โรอัน กูธอน กล่าวว่าจากเอกสารทั้งหมดมีความจำเป็นต่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และเรื่องสิทธิของคนอเมริกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ผู้ดำรงตำแหน่งจากการเลือกตั้งต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนแต่กว่าสหรัฐจะมีระบบเก็บเอกสารของประธานาธิบดีอย่างเป็นระบบและมีกฎหมายบัญญัติที่ชัดเจน ประวัติศาสตร์สหรัฐต้องผ่านบทเรียนที่สำคัญมามาก

แต่เดิมนั้น เอกสารของผู้นำสหรัฐถูกกำหนดให้เป็นของส่วนตัวตั้งแต่ประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนเเรกของสหรัฐ จนถึงประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์

และในยุคประธานาธิบดีเเฟรงคลิน ดี รูสเวลต์ ก็เริ่มบริจาคเอกสารช่วงการดำรงตำแหน่งของตนในปี 2483 ให้กับทางการเพื่อเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ หลังจากนั้นประธานาธิบดีคนต่อๆมามักทำเช่นเดียวกัน จนถึงสมัยประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ที่หาทางทำลายเอกสารในช่วงที่บริหารประเทศ