เหล็กถูกรัสเซียพ่นพิษดัมพ์ราคาตลาดเอเชีย

เหล็กถูกรัสเซียพ่นพิษดัมพ์ราคาตลาดเอเชีย

เหล็กถูกรัสเซียพ่นพิษดัมพ์ราคาตลาดเอเชีย โดยขณะนี้บริษัทไชนา สตีล คอร์ปของไต้หวัน กำลังรวบรวมหลักฐานที่จำเป็นเพื่อเตรียมใช้มาตรการตอบโต้พฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมจากรัสเซีย

ตอนนี้บรรดาผู้ผลิตเหล็กในเอเชียกำลังเจอบททดสอบที่ท้าทายอย่างมาก เมื่อรัสเซียส่งออกเหล็กราคาถูกเข้ามาขายตัดราคาในอุตสาหกรรมเหล็กหลายประเทศในเอเชีย

 ปริมาณเหล็กราคาถูกจากรัสเซียที่ไหลทะลักเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียในขณะนี้ สร้างความวิตกกังวลให้กับบรรดาผู้ผลิตเหล็กในเอเชีย เนื่องจากสร้างแรงกดดันด้านราคา จนทำให้หนึ่งในผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของเอเชีย อย่างไชนา สตีล คอร์ป ออกมาเตือนว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจนำไปสู่การใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อตอบโต้ทางการค้า

กลุ่มผู้ผลิตเหล็กในเอเชีย ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวด้านการค้าเหล็กทั่วภูมิภาคเอเชีย ระบุว่า รัสเซียกำลังส่งเหล็กเข้าไปในประเทศฝั่งตะวันออกมากขึ้น หลังจากมาตรการคว่ำบาตรของบรรดาชาติตะวันตกทำให้รัสเซียไม่สามารถเข้าถึงตลาดฝั่งตะวันตกได้

ขณะที่สงครามในยูเครนส่งผลให้การส่งออกในภูมิภาคทะเลดำต้องหยุดชะงักลง ซึ่งการกระทำแบบนี้ของรัสเซียยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดซึ่งได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากภาวะอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงในประเทศจีน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ขณะนี้บริษัทไชนา สตีล คอร์ปของไต้หวัน กำลังรวบรวมหลักฐานที่จำเป็นเพื่อเตรียมใช้มาตรการตอบโต้พฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรม

ขณะที่บริษัทโตเกียว สตีล แมนูแฟคเจอริง ของญี่ปุ่นระบุว่า จีนอาจจะหันมาสั่งซื้อเหล็กราคาถูกจากรัสเซียเมื่ออุปสงค์ภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว แทนการนำเข้าเหล็กจากเอเชีย

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดเหล็กขณะนี้ มีความคล้ายคลึงกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ ไล่ตั้งแต่ตลาดถ่านหินไปจนถึงน้ำมันดิบ เนื่องจากรัสเซียต้องการหาผู้ซื้อรายใหม่ในช่วงเวลาที่รัสเซียถูกประเทศทั่วโลกคว่ำบาตรหรือปิดล้อมทางการค้า
 

ที่ผ่านมา รัสเซีย ส่งออกเหล็กส่วนเกินในประเทศโดยเฉพาะเหล็กประเภทบิลเลต (billet) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งแปรรูปไปยังตุรกี แต่ขณะนี้โรงถลุงเหล็กของรัสเซียกำลังผลักดันที่จะขายเหล็กราคาถูกให้กับจีน และประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย

บริษัทไชนา สตีล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของไต้หวันเช่นเดียวกับบริษัทยูเคส สตีล คอร์ปของสหรัฐ ระบุว่า บริษัทกำลังจับตาผลิตภัณฑ์เหล็กรีดร้อนของรัสเซียที่ไหลทะลักเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียในขณะนี้ หลังจากมีรายงานว่ารัสเซียเสนอขายเหล็กชนิดดังกล่าวในราคาถูก

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บรรดาผู้ผลิตเหล็กประเภทบิลเลตทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พากันตัดสินใจลดกำลังการผลิต ซึ่งหมายความว่าบริษัทเหล่านี้จะสั่งซื้อวัตถุดิบตั้งต้นจากประเทศต่างๆน้อยลง รวมทั้งจากญี่ปุ่น

“การหลั่งไหลเข้ามาของเหล็กที่ผลิตในรัสเซียเป็นตัวแปรใหม่ที่สร้างความท้าทายแก่อุตสาหกรรมเหล็กในเอเชียอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ”โซอิชิโร สึดะ ผู้บริหารที่ดูแลด้านการจัดซื้อประจำโตเกียว สตีล ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

หลังจากเกิดกระแสไหลบ่าของเหล็กราคาถูกจากรัสเซีย  ราคาเศษเหล็กของญี่ปุ่นก็ปรับตัวร่วงลงมากถึงกว่าหนึ่งในสี่ นับตั้งแต่ปรับตัวขึ้นในเดือนเม.ยและมีแนวโน้มที่ราคาเศษเหล็กจะร่วงลงอีก หรือดีที่สุดก็ยังคงมีราคาทรงตัวที่ปัจจุบัน

แต่ถึงแม้รัสเซียจะถูกกดดันจากชาติตะวันตก จนต้องใช้วิธีส่งออกเหล็กราคาถูกเข้าไปขายดัมพ์ราคาในประเทศอื่นๆจนเป็นปัญหาในขณะนี้ แต่หากมองภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กในรัสเซียแล้วจะเห็นว่าเป็นอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง อยู่ในฐานะที่สามารถแข่งขันกับเหล็กจากประเทศอื่นๆได้  โดยที่ผ่านมา ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า บริษัทผู้ผลิตเหล็กของรัสเซียยังมีสถานภาพที่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการแข่งขันจากบรรดาผู้ส่งออกเหล็กของจีนได้

 "กลุ่มผู้ผลิตเหล็กของรัสเซียสามารถผูกขาดการแข่งขันด้านต้นทุนกับคู่แข่งจากประเทศอื่นๆได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะต้องเจอกับบริษัทผู้ส่งออกเหล็กรายใหญ่จากจีน เนื่องจากรัสเซียมีแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญในประเทศ  เช่น สินแร่เหล็กและถ่านหินโค้กเป็นจำนวนมาก ขณะที่จีนจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบดังกล่าวกว่า 50%

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ผลิตเหล็กของจีนยังมีลักษณะการดำเนินงานที่กระจัดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งภาวะดังกล่าวจะทำให้ผู้ส่งออกเหล็กของจีนขาดอำนาจต่อรองกับบรรดาซัพพลายเออร์ด้านวัตถุดิบรายใหญ่ๆ

“ภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กของรัสเซียได้รับประโยชน์จากต้นทุนการผลิตที่ต่ำ เนื่องจากรัสเซียมีต้นทุนด้านพลังานและแรงงานที่ไม่สูงมากนัก และถึงแม้ว่าต้นทุนด้านแรงงานของจีนจะต่ำเช่นกัน แต่ผู้ผลิตจีนยังคงต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น”

ฟิทช์ ยังบอกด้วยว่า กลุ่มผู้ผลิตเหล็กของรัสเซียจะยังคงมีสถานภาพที่แข็งแกร่งในตลาดโลก เนื่องจากมีอุปสงค์ในประเทศอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งในด้านโครงการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และการขยายตัวด้านผลผลิตอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง

แต่การทำสงครามกับยูเครนของรัสเซียก็เปิดโอกาสให้แก่อุตสาหกรรมเหล็กของจีนด้วยเช่นกัน โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมาว่าในเดือนมี.ค.จีนส่งออกอะลูมิเนียมดิบมากถึง 45,260 ตัน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ปี 2553 และอะลูมิเนียบดิบที่ส่งออกนั้นเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมดถูกส่งไปยังเนเธอร์แลนด์

การส่งออกอะลูมิเนียมจากจีนไปยังยุโรปที่พุ่งสูงเป็นพิเศษ สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของซัพพลายเชนกำลังเกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลจากสงครามรัสเซียยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่