ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบ 47 จุดหลังพุ่งแรงวานนี้

ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบ 47 จุดหลังพุ่งแรงวานนี้

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(20ก.ค.)ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบ 47 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพักฐาน หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากวานนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 47.79 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 31,874.84 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 23.21 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 3,959.90 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 184.50 จุด หรือ 1.58% ปิดที่ 11,897.65 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 700 จุดวานนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทสลา และสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์หลังปิดตลาดวันนี้

ขณะนี้บริษัทราว 12% ในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว ซึ่งราว 68% ในจำนวนดังกล่าวได้รายงานกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 4.2% ในไตรมาส 2 ขณะที่รายได้พุ่งขึ้น 10.2% รวมทั้งมีกำไรเพิ่มขึ้น 9.9% ในปีนี้

ด้านสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (เอ็มบีเอ) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 6.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว แตะระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2543 โดยได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ปรับตัวขึ้น

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 2/65 จากเดิมที่คาดการณ์ในวันที่ 15 ก.ค.ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.5%

ตัวเลขคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ทั้งในไตรมาส 1 และ 2 ซึ่งแสดงว่าสหรัฐเข้าเกณฑ์นิยามของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน

เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันที่ 27 ก.ค. ก่อนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 28 ก.ค.