สหรัฐรับคำร้องกว่า 300 รายการขอให้เก็บภาษีจีนต่อ

สหรัฐรับคำร้องกว่า 300 รายการขอให้เก็บภาษีจีนต่อ

รัฐบาลสหรัฐได้รับคำร้องกว่า 300 รายการให้คงภาษีสินค้าจีนที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกเก็บไว้ต่อไป

ตามที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าจีนปีละราว 3.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้ที่จีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและบีบบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี ซึ่งบางตัวกำลังจะหมดอายุในวันพุธ (6 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นถ้ารัฐบาลวอชิงตันไม่ขยายต่อ

ขณะนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) กำลังทบทวนคำร้องจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แม้เพียงหนึ่งคำร้องก็ต้องตรวจสอบและการเก็บภาษีต้องดำเนินต่อไป ซึ่งนับถึงเย็นวันอังคาร (5 ก.ค.) USTR ได้รับคำร้องกว่า 300 รายการสำหรับภาษี 1 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะสิ้นสุดลงในวันพุธ และเกือบ 80 รายการสำหรับภาษีรอบต่อไปที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 23 ส.ค.

เว็บไซต์ USTR ไม่ได้ระบุว่าคำร้องจากบริษัทต่างๆ แสดงความเห็นเรื่องใด แต่แหล่งข่าวรายหนึ่งยืนยันกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า กว่า 300 คำร้องขอให้เก็บภาษีต่อไป

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังพิจารณาว่าจะยกเลิกภาษีบางตัวที่ประธานาธิบดีทรัมป์เคยเก็บหรือไม่ อย่างไร หลังไบเดนถูกกดดันหนักให้ช่วยเหลือประชาชนท่ามกลางเงินเฟ้อพุ่งสูง แต่คาดว่าเขาจะคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนก่อน

ประธานาธิบดีไบเดนอาจยกเลิกภาษีจีนเมื่อใดก็ได้ แต่รัฐบาลของเขามีความเห็นแตกต่างกัน

แคเธอรีน ไท่ USTR กล่าวว่า เธอลังเลที่จะยกเลิกผลประโยชน์ที่ภาษีมีให้ ขณะที่เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โต้แย้งว่า ภาษีบางตัว“ไม่ตอบสนองเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์” อีกทั้งการยกเลิกก็อาจช่วยบรรเทาเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 40 ปี สร้างความเสียหายให้กับครัวเรือนอเมริกันได้

เมื่อวันจันทร์ (4 ก.ค.) เยลเลนจัดการหารือร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีหลิวเหอของจีนเรื่องที่จีน “ทำการค้าไม่เป็นธรรม” วันรุ่งขึ้น โฆษกทำเนียบขาวแจ้งว่า ยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องภาษี

“ทีมงานประธานาธิบดีกำลังพิจารณาต่อเนื่องถึงทางเลือกที่เราจะเดินไปข้างหน้า เราต้องการมั่นใจว่าเดินถูกทาง” โฆษกแถลง