ตลาดหุ้นเอเชียเปิดร่วง หวั่นแบงก์ชาติทั่วโลกขึ้นดอกเบี้ยฉุดศก.ถดถอย

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดร่วง หวั่นแบงก์ชาติทั่วโลกขึ้นดอกเบี้ยฉุดศก.ถดถอย

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดร่วงลงตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (16 มิ.ย.) โดยดาวโจนส์ดิ่งหลุดจากระดับ 30,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 25,988.20 จุด ร่วงลง 443 จุด หรือ -1.68%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,716.74 จุด ลดลง 128.69 จุด หรือ -0.62% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,265.51 จุด ลดลง 19.87 จุด หรือ -0.60%

ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกต่างปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี

ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี ขณะที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ -0.25% จากระดับ -0.75% ซึ่งเป็นการขึ้นครั้งแรกในรอบ 15 ปี นอกจากนี้ ธนาคารกลางฮังการี บราซิล ไต้หวัน ฮ่องกง และอาร์เจนตินา ต่างก็ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน

ทอม เฮนลิน นักวิเคราะห์จากบริษัทแอสเซนท์ ไพรเวท เวลธ์ กรุ๊ปกล่าวว่า การที่ธนาคารกลางทั่วโลกแห่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย และทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนชะลอตัวลง

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านดิ่งลง 14.4% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 1.549 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564 โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ดิ่งลงสู่ระดับ -3.3 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 หลังจากแตะระดับ +2.6 ในเดือนพ.ค.

นักลงทุนจับตาธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันนี้