'ไต้หวัน'จัดรำลึก 33 ปี 'เทียนอันเหมิน'

'ไต้หวัน'จัดรำลึก 33 ปี 'เทียนอันเหมิน'

ประชาชนหลายร้อยคนรวมตัวกันในนครไทเปของไต้หวัน รำลึกการปราบปรามนองเลือดผู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่งเมื่อ 33 ปีก่อน

วันที่ 4 มิ.ย. เป็นวันครบรอบเหตุการณ์ทหารจีนใช้กำลังปราบปรามเหตุไม่สงบนำโดยนักศึกษาบริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อปี 1989 ทางการจีนไม่เคยเผยจำนวนผู้เสียชีวิต แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ตัวเลขน่าจะอยู่ที่หลักหลายพัน

ด้วยเหตุนี้การรำลึกเหตุการณ์เทียนอันเหมินจึงทำไม่ได้ในจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนฮ่องกงปีนี้ทางการระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงป้องกันไม่ให้มีสัญลักษณ์การประท้วงใดๆ ได้ไต้หวันจึงเป็นพื้นที่เดียวที่พูดภาษาจีนและสามารถจัดงานรำลึกเทียนอันเหมินได้อย่างเปิดเผย

นักกิจกรรมร่วมจัดงานในนครไทเป ประกอบ “เสาหลักแห่งความน่าละอาย” ชิ้นใหม่ หรือรูปปั้นรำลึกถึงผู้ประท้วงที่เทียนอันเหมิน ที่มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของฮ่องกงสั่งรื้อถอนออกจากมหาวิทยาลัยเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่เคยตั้งอยู่นานกว่า 20 ปี

เมื่อวางรูปปั้นเรียบร้อยแล้วผู้ร่วมงานร่วมกันส่งเสียงสนับสนุนฮ่องกงดังกึกก้อง

“นี่คือสัญลักษณ์บ่งบอกว่าประชาธิปไตยล้ำค่าขณะเดียวกันก็เปราะบางมาก ประชาชนผู้สนใจประชาธิปไตยจำเป็นต้องยืนหยัดเพื่อสิ่งนี้ ไม่ให้ฝ่ายอำนาจนิยมในทุกๆ ที่คิดว่า ประชาชนไม่สนใจ” เจเรมี เจียง นักเขียนวัย 27 ปีให้ความเห็นกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ขณะมาร่วมงานที่จัตุรัสอิสรภาพในไทเป

ที่ฮ่องกง แคร์รี หล่ำ ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า การจัดงานรำลึกการปราบปรามประชาชนในปี 1989 ผิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ

วานนี้ที่วิกตอเรียปาร์ก ที่ประชาชนเคยจัดงานรำลึกเทียนอันเหมินทุกปีก่อนโควิด-19 ระบาด ทางการปิดพื้นที่หลายส่วน พร้อมเตือนประชาชนไม่ให้รวมตัวกันอันเป็นเป็นการละเมิดกฎหมาย

ตำรวจฮ่องกงหลายร้อยนายบางคนมาพร้อมกับสุนัขตำรวจ พากันลาดตระเวนและตรวจพื้นที่สวน พอตกกลางคืนก็ระดมเปิดไฟใส่สนามฟุตบอลที่ว่างเปล่า

ฮ่องกงเคยจุดเทียนรำลึกเทียนอันเหมินครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2019มีผู้ร่วมงานกว่า 180,000 คนแต่ปีนี้ วิกเตอร์ ชาวฮ่องกงวัย 57 ปี ระบุ “ทุกคนยังคงปิดปากเงียบเพราะกลัวโดนจับ”

ทั้งนี้ เดือน มิ.ย.2020 จีนออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง ลงโทษการกระทำยุยงปลุกปั่น ก่อการร้าย และสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ มีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต รัฐบาลปักกิ่งอ้างว่าจำเป็นต้องออกกฎหมายฉบับนี้มาฟื้นฟูเสถียรภาพฮ่องกง หลังจากเกิดเหตุประท้วงรัฐบาลในปี 2019