จีนเผย 33 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เสียหายหนักจากโควิดระบาด

จีนเผย 33 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เสียหายหนักจากโควิดระบาด

คณะรัฐมนตรีจีนเผย 33 มาตรการครอบคลุมทั้งการเงิน การคลัง การลงทุน และอุตสาหกรรม เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่เสียหายหนักจากโควิด เตรียมจับตารัฐบาลมณฑลปฏิบัติตามนโยบาย เซี่ยงไฮ้ยุติล็อกดาวน์ยาวนานสองเดือน ธุรกิจต่างชาติยังไม่มั่นใจหวั่นกลับไปใช้มาตรการรุนแรงอีก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน วานนี้ (31 พ.ค.) สภาแห่งรัฐจีน เผยรายละเอียดชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สภาแห่งรัฐกล่าวถึงในการประชุมเมื่อสัปดาห์ก่อน เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงแนวทางการเติบโตของจีนหลังมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวดเล่นงานเศรษฐกิจ  บั่นทอนเป้าหมายจีดีพีปีนี้โต 5.5% ดังนั้นเพื่อพลิกฟื้นการลงทุนและการบริโภค จีนจะส่งเสริมพัฒนาการที่ดีของบริษัทแพลตฟอร์ม ที่คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างเสถียรภาพการจ้างงาน

พร้อมกันนั้นบริษัทแพลตฟอร์มได้รับการกระตุ้นให้สร้างสิ่งแปลกใหม่ในหลายสาขา อาทิ คลาวด์คอมพิวติง ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีบล็อกเชน ถือเป็นสัญญาณล่าสุดชี้ว่า จีนกำลังผ่อนคลายการปราบปรามภาคส่วนนี้

จีนจะขยายการลงทุนภาคเอกชน เร่งก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและกระตุ้นการซื้อรถยนต์และเครื่องใช้ในบ้านเพื่อสร้างเสถียรภาพการลงทุน

ในด้านนโยบายการเงินและการคลัง จีนจะส่งเสริมประสิทธิภาพการเงินผ่านตลาดทุน ด้วยการสนับสนุนบริษัทจีนให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ส่งเสริมให้บริษัทแพลตฟอร์มที่มีคุณสมบัติครบจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ

สภาแห่งรัฐยังให้คำมั่นลดต้นทุนกู้ยืมแท้จริงต่อไป พร้อมเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐานให้โครงการใหญ่ๆ ให้มากขึ้น

ส่วนการเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินต่อเศรษฐกิจ จีนจะเร่งรัฐบาลท้องถิ่นออกพันธบัตรพิเศษและให้เงินสดสนับสนุนบริษัทที่ว่าจ้างบัณฑิตจบใหม่ เพิ่มภาคส่วนที่ได้รับการลดภาษี อนุญาตให้บริษัทในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการควบคุมโควิด-19 เลื่อนการจ่ายประกันสังคม

นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น มาตรการสร้างหลักประกันด้านพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร และสร้างเสถียรภาพซัพพลายเชน

อีกหนึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปรากฏออกมาในรูปสินทรัพย์ดิจิทัล เว็บไซต์ bitcoinist.com รายงานว่า เมืองเสิ่นเจิ้นแจกจ่ายดิจิทัลหยวน (e-CNY) จำนวน 30 ล้านหยวน ในซองสีแดงผ่านการสุ่มแจกตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.65   เพื่อฟื้นฟูการใช้จ่ายของผู้บริโภคท่ามกลางเศรษฐกิจที่ซบเซาหลังจากการล็อคดาวน์ในช่วงโควิด-19ที่ผ่านมา

การแอร์ดรอปหยวนดิจิทัลใส่ซองแดง มูลค่ารวมประมาณ 4.5 ล้านดอลลาร์ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ส่งตรงถึงมือชาวเสิ่นเจิ้น เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารหลายแห่งกับสำนักงานพาณิชย์เทศบาลเสิ่นเจิ้น 

ผู้ใช้จะต้องลงชื่อเข้าใช้ผ่านแอพพลิเคชั่น ‘เหม่ยถวน’ และลงทะเบียนเพื่อมีสิทธิ์เข้าถึงเพื่อรับรางวัลหยวนดิจิทัล มูลค่า 88, 100 หรือ 128 หยวน นำไปซื้อสินค้าในแอพกว่า 15,000 ร้าน 

ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าหยวนดิจิทัลสามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพ สามารถนำมาใช้ช่วยให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นก้าวหน้าไปพร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพของบริการทางการเงินได้ ทำให้หลายเขตกำลังวางแผนที่จะปล่อยแอร์ดรอปเช่น เขตหนานซาของกวางโจวมีแผนที่จะเสนอเงินอิเล็กทรอนิกส์10 ล้านหยวนเพื่อช่วยเพิ่มการใช้จ่าย

ปัจจุบัน เสิ่นเจิ้นเป็นหนึ่งในสามเมืองของจีนที่อนุญาตให้ผู้อยู่อาศัยชำระภาษีเทศบาลและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับภาษีผ่านหยวนดิจิทัล

ส่วนที่เซี่ยงไฮ้ วานนี้ทางการเริ่มรื้อถอนรั้วรอบอาคารที่พัก และรื้อเชือกที่ตำรวจใช้กั้นจัตุรัสและอาคาร เตรียมพร้อมยกเลิกล็อกดาวน์ในเวลาเที่ยงคืน หลังจากประชาชน 25 ล้านคนถูกบังคับให้อยู่แต่ในบ้านมานานสองเดือน

ตั้งแต่วันนี้ (1 มิ.ย.) เซี่ยงไฮ้เข้าสู่การควบคุมโรคระบาดตามปกติ ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าเปิดให้บริการอีกครั้ง ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต่ำกลับไปทำงานที่ออฟฟิศได้ รถไฟให้บริการตามปกติ เพิ่มเที่ยวบินในประเทศแต่สถานที่สาธารณะยังจำกัดจำนวนคนที่ 75% ประชาชนจะเข้าไปในสถานที่ดังกล่าวต้องแสดงผลตรวจพีซีอาร์ภายใน 72 ชั่วโมงได้ผลเป็นลบ

ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศใหญ่ประเทศเดียวที่ใช้นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” กำจัดการระบาดให้ได้ไม่ว่าจะแลกกับอะไรก็ตาม แต่โควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่ติดต่อได้ง่ายก็เสี่ยงกลับมาได้อีกเสมอ

นายจูเลียน แมคคอร์แมค ประธานหอการค้าอังกฤษในจีนกล่าวว่า เซี่ยงไฮ้ควบคุมโควิดได้โดยต้องใช้ต้นทุนส่วนบุคคลและเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ยังไม่มีหลักประกันว่าการล็อกดาวน์จะไม่กลับมาอีก

นายท็อด เพียร์สัน กรรมการผู้จัดการคาเมล ฮอสพิทอลิที กรุ๊ป ซึ่งดำเนินการร้านอาหาร บาร์ และยิมในและรอบเซี่ยงไฮ้หวังว่า การยุติล็อกดาวน์จะช่วยรีสตาร์ทเศรษฐกิจได้

กิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีนที่เคยซบเซาในเดือน เม.ย.ฟื้นตัวขึ้นในเดือน พ.ค. ผลจากศูนย์การผลิตใหญ่ค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด แม้ว่าการจำกัดการเดินทางยังคงกดความต้องการและการผลิต

วานนี้เซี่ยงไฮ้รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 31 คน ลดลงจาก 67 คนในวันก่อนหน้า สะท้อนถึงเทรนด์ขาลงทั่วจีนที่ผู้ติดเชื้อไม่ถึง 200 คน ถือเป็นสัดส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับในประเทศส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม การยุติล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ไม่ได้หมายความว่าผู้คนจะกลับไปใช้ชีวิตได้เหมือนก่อนโควิด เสมียนธนาคารหลายคนเผยว่า พวกเขายังต้องสวมชุดป้องกันอันตรายและเฟซชิลด์เพื่อรับลูกค้าในวันนี้

เสมียนคนหนึ่งกล่าวว่า เขาต้องเตรียมข้าวของจำเป็นบางอย่างมาที่ทำงานด้วย เผื่อเพื่อนร่วมงานติดโควิดแล้วพนักงานต้องถูกกักตัวในที่ทำงาน

การล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดการประท้วงอย่างที่ไม่ค่อยมีบ่อยนัก ประชาชนเคาะหม้อเคาะกะทะนอกหน้าต่างแสดงความไม่พอใจกับมาตรการเข้มงวด หลายคนแสดงความโกรธเคืองทางการผ่านโซเชียลมีเดีย ความเกรี้ยวกราดของสาธารณชนเกิดขึ้นในปีนี้ที่สำคัญมากสำหรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงคาดกันว่าเขาจะดำรงตำแหน่งเป็นวาระที่ 3 ในฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) นี้