มือปืนกราดยิงเท็กซัสเหยื่อบูลลี่หนักในโรงเรียน

มือปืนกราดยิงเท็กซัสเหยื่อบูลลี่หนักในโรงเรียน

โศกนาฏกรรมกราดยิงที่โรงเรียนประถมศึกษาร็อบบ์ ในเมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัส สหรัฐ ฝีมือหนุ่มวัย18ปี ที่เพื่อนสนิทเผยว่าเป็นคนโดดเดี่ยว ถูกบูลลี่อย่างหนักทุกช่องทาง ก่อนจะก่อคดีสะเทือนขวัญที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกัน

ครอบครัวของเหยื่อที่โรงเรียนประถมร็อบบ์ต้องการคำตอบว่า เมื่อมีการแจ้งเหตุร้ายไปที่ 911 ตั้งแต่เวลา 11.32 น. ของวันพุธ (25พ.ค.) แต่กว่าที่“ซัลวาดอร์ รามอส” จะถูกปลิดชีพ ก็ปาเข้าไปเวลา 13.00 น. เท่ากับว่า เขาหลบอยู่ในโรงเรียนนานกว่า 1 ชั่วโมง 

ด้าน “โทนี กอนซาเลส” ส.ส.เขตยูวัลดี ชี้แจงว่า รามอสเผชิญหน้ากับตำรวจราวครึ่งชั่วโมง หลังก่อเหตุยิงนักเรียนและครูแล้ว โดยการเกลี้ยกล่อมใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพื่อให้นักเรียนที่เหลือออกจากพื้นที่โดยปลอดภัย

แม้มีนิสัยเก็บตัว แต่รามอสก็มีเพื่อนสนิท โดยสื่อดังของสหรัฐอย่างวอชิงตัน โพสต์ รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของสตีเฟน กราเซีย เพื่อนสมัยเกรด 8 ที่โรงเรียนมัธยมยูวัลดีว่า รามอสถูกบูลลี่หนักมาก และจากคนจำนวนมากด้วย ตรงกับที่หลายแอคเคาท์ที่ผุดขึ้นในโซเชียล มีเดีย ระบุว่า รามอสถูกบูลลี่มาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เรื่องพูดติดอ่าง รสนิยมทางเพศ ถูกเหยียดหยามเรื่องฐานะทางบ้าน 

โดยเฉพาะเรื่องเสื้อผ้า ทำให้เขากลายเป็นคนเก็บกด ส่วนกับกราเซีย เขาชอบเล่นเกมยิงปืน เช่น Call of Duty กับ Fortnite และบาสเกตบอลที่สวนสาธารณะ แต่หลังจาก กราเซียย้ายบ้าน พฤติกรรมของรามอสก็แย่ลงเรื่อยๆ เขาเคยปรากฏตัวพร้อมรอยกรีดตามใบหน้า โดยอ้างว่า ถูกแมวข่วนก่อนจะยอมรับว่า ใช้มีดกรีดเองและทำเพื่อ “ความสนุก” 

บางทีก็ขับรถไปกับเพื่อนอีกคนตอนกลางคืน และยิงปืนบีบีกันหรือไม่ก็ขว้างไข่ใส่รถยนต์ของคนอื่น เพื่อนอีกคน บอกว่า เวลาไปโรงเรียน รามอสสร้างความหวาดกลัวให้เพื่อนคนอื่น ทั้งพฤติกรรมข่มขู่ และบาดแผลบนใบหน้า

รามอสยังเปลี่ยนแปลงตัวเอง ด้วยการไว้ผมยาว สวมเสื้อผ้าสีดำกับรองเท้าบู๊ทสไตล์ทหาร และเริ่มหยุดเรียน ขณะเดียวกันก็มีปัญหากับทางบ้าน หลังทะเลาะกับแม่ก็ย้ายไปอยู่ที่บ้านยาย 

เพื่อนบ้านคนหนึ่งบอกว่า เขายิงยายเพื่อระบายความโกรธที่ตัวเองเรียนไม่จบมัธยมปลาย ในขณะที่เพื่อนๆ เตรียมร่วมพิธีสำเร็จการศึกษาในวันศุกร์นี้ (27 พ.ค.)

ส่วนรถปิกอัพที่เขาขับไปชนที่หน้าโรงเรียนประถมศึกษาร็อบบ์เป็นของตากับยาย ตาบอกว่า รามอสขับรถไม่เป็นและไม่มีใบขับขี่ ก่อนเกิดเหตุ เขาหยิบปืนไรเฟิล AR-15 สวมเสื้อเกราะ วิ่งเข้าไปทางประตูด้านทิศใต้ของโรงเรียน ทิ้งปืนอีกกระบอกไว้ในรถ กับถุงบรรจุกระสุนไว้นอกโรงเรียน ห้องเรียนแรกที่เขาผ่านเข้าไปว่างเปล่า แต่มีประตูบานเลื่อนที่เปิดเข้าไปยังห้องเรียนที่มีนักเรียนเกรด 4 และยิงเด็กไป 19 คน กับครูอีก 2 คน ก่อนจะถูกวิสามัญฯ

เพื่อนร่วมงานที่ร้านฟาสต์ฟู้ด “เวนดีส์” เปิดเผยต่อเดลี บีสท์ว่า รามอสเป็นคนก้าวร้าว บางครั้งก็สวมนวมเดินไปในสวนสาธารณะและชวนคนแปลกหน้ามาสู้กับเขา และบันทึกภาพเอาไว้ บางทีก็หยาบคายกับพนักงานหญิง ส่งข้อความไม่เหมาะสมไปให้ 

ส่วนอีกคนบอกว่า พอได้ยินว่าเขาเป็นมือปืนที่ก่อเหตุ เธอแทบไม่แปลกใจ เขามักจะพูดด้วยว่า เกลียดแม่กับยาย เพราะไม่ยอมให้สูบกัญชาหรือทำอะไรตามใจตัวเอง เมื่อต้นเดือนนี้ เขาเพิ่งก่อเหตุวิวาทกับเพื่อนร่วมงานและลาออก โดยบอกว่า ไม่จำเป็นต้องใช้เงินอีกต่อไปแล้ว แต่เขาจะไปทำอะไรที่“ยิ่งใหญ่”

แม้ว่ามือปืนผู้ก่อเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมครั้งล่าสุด จะมีปมมาจากการถูกบูลลี่แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากปัญหาการมีอาวุธปืนไว้ครอบครองได้อย่างง่ายดายของชาวอเมริกันด้วย ด้วยเหตุนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จึงระบุว่าถึงเวลาแล้วที่ชาวอเมริกันต้องลุกขึ้นยืนหยัดรณรงค์ควบคุมปืน และสภาคองเกรสควรออกกฎหมายควบคุมปืน หลังจากเกิดเหตุกราดยิงครั้งใหม่นี้

ประธานาธิบดีไบเดน แถลงเมื่อวันอังคาร(24พ.ค.)เกี่ยวกับเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมศึกษา ร็อบบ์ในเมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัสว่า ว่า “ผมเอือมระอาและเหนื่อยหน่ายเหลือเกิน เราต้องจัดการเรื่องนี้ อย่าบอกผมว่าเราทำอะไรไม่ได้กับการสังหารหมู่ครั้งนี้ เราต้องลุกขึ้นรณรงค์ควบคุมปืน และผมขอเรียกร้องให้สมาชิกสภารัฐสภาผ่านกฎหมายควบคุมปืน"

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนยังสั่งให้ลดธงชาติลงครึ่งเสาที่ทำเนียบขาว หน่วยราชการและสถานที่สาธารณะทุกแห่งจนถึงวันที่ 28 พ.ค. เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต