'ไบเดน'เปิดฉากเยือนเอเชีย-ญี่ปุ่นหวังจีบกลับทีพีพี

'ไบเดน'เปิดฉากเยือนเอเชีย-ญี่ปุ่นหวังจีบกลับทีพีพี

ประธานาธิบดีไบเดนเดินทางเยือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ค. เพื่อกระชับความร่วมมือในภูมิภาคและรับมือจีน พร้อมเปิดตัวกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก

หลังจากใช้เวลาหลายเดือนประสานพันธมิตรลงโทษรัสเซียรุกรานยูเครน ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ออกเดินทางเมื่อวันพฤหัสบดี (19 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เยือนเอเชียครั้งแรกเป็นเวลาห้าวัน มีกำหนดพบกับประธานาธิบดียุน ซ็อกยอลของเกาหลีใต้ที่กรุงโซลและนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว ซึ่งผู้นำทั้งสองต่างกังวลเรื่องเกาหลีเหนือและจีนเหมือนกับสหรัฐ

ที่ญี่ปุ่นไบเดนมีแผนพบผู้นำกลุ่มสี่ฝ่าย (Quad) ซึี่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียและนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียด้วย รวมถึงเปิดตัวกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (ไอพีอีเอฟ) ที่ถูกพูดถึงมากในการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐ สมัยพิเศษเมื่อสัปดาห์ก่อน
 

ไอพีอีเอฟ เป็นความร่วมมือส่งเสริมการเจรจาและการลงทุนข้ามประเทศ ว่าด้วยการค้า ห่วงโซ่อุปทานอันยืดหยุ่น โครงสร้างพื้นฐาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน มาตรการด้านภาษีและต่อต้านการทุจริต

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชาติอาเซียนต้องการมากที่สุดคือการเข้าถึงตลาดสหรัฐที่มีผู้บริโภคหลายร้อยล้านคน ตามที่เห็นชอบกันในข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก (ทีพีพี) ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นำสหรัฐถอนตัวออกไปในปี 2560 ซึ่งเงื่อนไขแบบนี้ไม่ได้กำหนดไว้ในไอพีอีเอฟ  ด้านเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นและนักวิเคราะห์คาดกันว่านายกฯ คิชิดะจะกดดันประธานาธิบดีไบเดนให้กลับมาร่วมในทีพีพีที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น “ซีพีทีพีพี” อีกครั้ง
 

กำหนดการเบื้องต้นในเกาหลีใต้ระหว่างวันที่ 20-22 พ.ค. สำนักงานประธานาธิบดียุน ซ็อกยอลเผยว่า หลังจากเดินทางถึงเกาหลีใต้วันศุกร์ (20 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นไม่นาน ประธานาธิบดีสหรัฐมีกำหนดไปเยือนโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ ด้านฮุนไดมอเตอร์ ที่มีแผนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในสหรัฐ คาดว่าจะประกาศแผนขณะไบเดนมาเยือน และไบเดนมีกำหนดหารือทวิภาคีและแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้

 เมื่อวันพุธ (18 พ.ค.) ทำเนียบขาวแถลงว่า ไบเดนจะไม่ไปเขตปลอดทหารที่แบ่งเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือในวันเดียวกัน เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะพบกับทหารอเมริกันและเกาหลีที่เคียงบ่าเคียงไหล่ป้องกันความมั่นคงร่วม แม้ทำเนียบขาวไม่ได้เผยรายละเอียดว่า ไบเดนจะไปพบทหารที่ใด สื่อต่างประเทศบางสำนักรายงานว่าไบเดนจะไปยังเขตปลอดทหาร

กำหนดการในญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 22-23 พ.ค. ประธานาธิบดีไบเดนพบนายกฯ คิชิดะ เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ผู้นำสองประเทศแถลงข่าวร่วมกัน ในวันจันทร์ (23 พ.ค.) ไบเดนจะแสดงสุนทรพจน์ในกรุงโตเกียวเกี่ยวกับไอพีอีเอฟ ที่จะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานในหลายประเด็น เช่น แรงงาน สภาพแวดล้อม และซัพพลายเชนโดยไบเดนและคิชิดะจะประกาศไอพีอีเอฟด้วยตัวเอง มีผู้นำประเทศอินโด-แปซิฟิกจำนวนหนึ่งร่วมด้วยทางออนไลน์ นักวิเคราะห์และนักการทูตคาดว่า อย่างน้อยหกประเทศน่าจะลงนามข้อตกลงไอพีอีเอฟ ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์

 ในโอกาสนี้ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติอ้างข่าวกรองสหรัฐเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจทดสอบนิวเคลียร์ ขีปนาวุธ หรือทั้งสองอย่าง ก่อน ระหว่าง หรือหลังการเยือนของไบเดน เร็วสุดอาจเป็นวันที่ 19 หรือ 20 พ.ค.นี้ แม้เกาหลีเหนือต้องรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ครั้งแรกก็ตาม 

ปีนี้รัฐบาลเปียงยางกลับมาทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) อีกครั้ง แต่ไม่เคยทดสอบนิวเคลียร์เลยนับตั้งแต่ปี 2560 

อันกิต ปันดา จากกองทุนบริจาคคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ ทวีตข้อความอธิบายถึงแรงจูงใจของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือว่า ตลอดสองปีที่ผ่านมาคิมใช้ความสำเร็จของอุตสาหกรรมกลาโหมเป็นไฟนำทางในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ แต่ไม่ว่าจะมีการทดสอบขีปนาวุธหรือนิวเคลียร์หรือไม่ รัฐบาลวอชิงตันและโซลยังพร้อมเสนอความช่วยเหลืออย่างไม่มีเงื่อนไขให้เกาหลีเหนือสู้โควิด