รัสเซียถูกกดดันหนัก-โลกรุมคว่ำบาตรรอบใหม่

รัสเซียถูกกดดันหนัก-โลกรุมคว่ำบาตรรอบใหม่

รัสเซียเจอแรงกดดันระลอกใหม่หลังสหรัฐ อังกฤษ และจี-7 รุมคว่ำบาตรรอบใหม่ สหรัฐแซงค์ชันสถานีโทรทัศน์-ผู้บริหารก๊าซพรอมแบงก์ อังกฤษเตรียมขึ้นภาษีนำเข้า“พลาตินัม-พัลลาเดียม” ส่วนจี-7 เตรียมห้ามหรือยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

สหรัฐ เปิดเผยว่าได้ออกมาตรการคว่ำบาตรสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย 3 แห่ง พร้อมทั้งออกคำสั่งห้ามไม่ให้บริษัทอเมริกันให้บริการด้านบัญชีและคำปรึกษาใด ๆ กับรัสเซีย ทั้งยังคว่ำบาตรผู้บริหารของ ธนาคารก๊าซพรอมแบงก์ เพื่อลงโทษการที่รัสเซียใช้กำลังบุกโจมตียูเครน

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า มาตรการดังกล่าวถือเป็นมาตรการชุดแรกที่คว่ำบาตรบริษัทก๊าซพรอม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกก๊าซรายใหญ่ของรัสเซียและเป็นบริษัทแม่ของธนาคารก๊าซพรอมแบงก์ ขณะที่สหรัฐและชาติพันธมิตรเลี่ยงที่จะใช้มาตรการที่ทำให้การส่งก๊าซไปยุโรปหยุดชะงัก

ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐให้สัมภาษณ์ว่า “มาตรการครั้งนี้ไม่ได้เป็นการคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบ เราไม่ได้อายัดทรัพย์สินของธนาคารก๊าซพรอมแบงก์ และไม่ได้ห้ามทำธุรกรรมกับธนาคาร สิ่งที่เราต้องการบอกคือ ก๊าซพรอมแบงก์ไม่ใช่สถานที่ ๆ ปลอดภัยสำหรับสินทรัพย์ และเราเลือกคว่ำบาตรเฉพาะผู้บริหารระดับสูงบางส่วนเพื่อสร้างความหวาดหวั่น”
 

นอกจากนี้ สหรัฐยังเพิ่มผู้บริหารอีก 8 คนของสเบอร์แบงก์ (Sberbank) ซึ่งถือครองทรัพย์สินรวมกันคิดเป็น 1 ใน 3 ของภาคธนาคารรัสเซียลงในบัญชีคว่ำบาตรด้วย ขณะที่ธนาคารมอสโก อินดัสเทรียล แบงก์ (Moscow Industrial Bank) และหน่วยงานในเครืออีก 10 แห่งก็ถูกเพิ่มชื่อในบัญชีคว่ำบาตรเช่นกัน

เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุด้วยว่า มาตรการควบคุมการส่งออกชุดใหม่มีเป้าหมายมุ่งลดระดับความพยายามของปธน.วลาดิมีร์ปูตินในการก่อสงคราม ครอบคลุมถึงการควบคุมการส่งออกเครื่องจักรอุตสาหกรรม, รถแทร็กเตอร์, สินค้าประเภทไม้, มอเตอร์ และพัดลม

มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เพิ่มแรงกดดันต่อประธานาธิบดีปูติน ที่มีคำสั่งเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครน และเกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้หารือทางออนไลน์ กับผู้นำกลุ่มจี7 รวมถึงประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเกี่ยวกับสงครามกับรัสเซีย
 

ด้านรัฐบาลอังกฤษ ประกาศว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าพลาตินัมและพาลาเดียมจากรัสเซียและเบลารุส ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ที่พุ่งเป้าตัดท่อน้ำเลี้ยงด้านการค้ามูลค่า 1.7 พันล้านปอนด์ (2.10 หมื่นล้านดอลลาร์) และเพื่อกดดันประธานาธิบดีปูติน ให้ยุติการทำสงครามในยูเครน

รัฐบาลอังกฤษจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ประมาณ 35% รวมถึงพลาตินัมและพัลลาเดียม พร้อมกับสั่งห้ามการส่งออกสินค้า เช่น เคมีภัณฑ์ พลาสติก ยาง และเครื่องจักรไปยังรัสเซีย ซึ่งมีมูลค่ารวมกัน 250 ล้านปอนด์ (310 ล้านดอลลาร์) และรัฐบาลอังกฤษจะออกกฎหมายเพื่อบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ในไม่ช้านี้

ในส่วนของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตแพลตินัมและพัลลาเดียมรายใหญ่ของโลก ยืนกรานว่าการโจมตียูเครนเป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย ซึ่งมุ่งเป้าทำให้ยูเครนเป็นเขตปลอดทหารและขจัดระบอบนาซี

“ริชี ซูนัค” รัฐมนตรีกระทรวงคลังอังกฤษกล่าวว่า อังกฤษจะคว่ำบาตรการนำเข้าและส่งออกสินค้ามูลค่ากว่า 4,000 ล้านปอนด์ เพื่อสกัดความพยายามในการทำสงครามของปธน.ปูติน ถือเป็นมาตรการคว่ำบาตรระลอกที่ 3 นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน

ขณะที่บรรดาผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมทั้ง 7 หรือ จี7 ให้คำมั่นสัญญาว่าจะสั่งห้ามหรือยุติการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดในการกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานแถลงการณ์ของจี7 เมื่อวันอาทิตย์ (8 พ.ค.) ว่า “เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะยุติการพึ่งพาพลังงานรัสเซียด้วยการยุติหรือสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย โดยเราจะรับประกันว่าเราสามารถจัดการเรื่องดังกล่าวได้ทันกาลและเป็นระเบียบ พร้อมใช้วิธีการที่จะทำให้โลกมีเวลาเพียงพอในการหาอุปทานทดแทน”

นอกจากนี้ จี7 ยังระบุว่า สมาชิกจะใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อห้ามหรือป้องกันการจัดหาบริการสำคัญต่อสิ่งที่รัสเซียพึ่งพาเพื่อโดดเดี่ยวรัสเซียจากเศรษฐกิจทุกภาคส่วน

จี7 จะเดินหน้าและยกระดับการส่งเสริมการต่อต้านกลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่สนับสนุนประธานาธิบดีปูติน ในการทำสงครามกับยูเครนด้วยการออกมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคลต่าง ๆ เพิ่มเติม

ทำเนียบขาว มั่นใจว่า “พันธสัญญาของกลุ่มจี7 จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเส้นเลือดหลักของเศรษฐกิจรัสเซียและตัดท่อน้ำเลี้ยงที่ปธน.ปูตินต้องใช้ในการทำสงคราม”