“กัมพูชา - อินโดนีเซีย - ไทย” ตีปี๊บจัดประชุมระดับโลก 3 เวทีในอาเซียน พ.ย.นี้

“กัมพูชา - อินโดนีเซีย - ไทย” ตีปี๊บจัดประชุมระดับโลก 3 เวทีในอาเซียน พ.ย.นี้

มิติใหม่อาเซียน เมื่อกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย และไทยออกแถลงการณ์ร่วมจัดประชุมใหญ่ระดับภูมิภาคและระดับโลก 3 เวทีที่จะมีขึ้นในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ต่อเนื่องกันไปในเดือน พ.ย.2565

กัมพูชา อินโดนีเซีย และไทย จะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมสำคัญระดับผู้นำที่จะมีขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 3 เวทีในปีนี้ ได้แก่การประชุมผู้นำอาเซียนและที่เกี่ยวข้อง วันที่ 11 - 13 พ.ย. การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (G20) วันที่ 15-16 พ.ย. และการประชุมผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) วันที่ 18 - 19 พ.ย.2565

กระบวนการในการประชุมอาเซียน G20 และเอเปค คล้ายคลึงกัน ซึ่งสร้างโอกาสพิเศษแก่ประเทศ/เศรษฐกิจที่เข้าร่วม เพื่อร่วมกันพัฒนาวาระระดับโลกและระดับภูมิภาค รวมถึงความพยายามในการนำสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุมมาสู่ประชาชนของเราทุกคน

เหตุนี้ ไฮไลต์การประชุมอาเซียนที่ว่า "“A.C.T. : Addressing Challenges Together” มุ่งมั่นจัดการกับความท้าทายที่เราเผชิญและเพื่อรักษาพลังของการสร้างประชาคมอาเซียนด้วยความรู้สึกร่วมแรงร่วมใจ เราจะเสริมสร้างความยืดหยุ่นของอาเซียน เมื่อเผชิญกับความไม่แน่นอนทั่วโลก และรักษาบทบาทสำคัญของอาเซียนในสถาปัตยกรรมระดับภูมิภาค ที่เน้นการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์บนหลักการของการเคารพซึ่งกันและกันและผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน การเร่งความพยายามฟื้นจากผลกระทบของโควิด-19 การส่งเสริมการรวมตัวของอาเซียนและความสามารถในการแข่งขันสำหรับการเติบโตในระยะยาวและครอบคลุมในบริบทของ 4IR การเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพของประชาชนและการคุ้มครองทางสังคมเป็นหนึ่งในสิ่งที่ให้ความสำคัญสูงสุด

ส่วน G20 มีหัวข้อหลักว่า “Recover Together, Recover Stronger” มุ่งอำนวยความสะดวกในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งและครอบคลุมทุกคน โดยประธานาธิบดีอินโดนีเซียมุ่งมั่นสร้างความมั่นใจว่า G20 จะเป็นประโยชน์ไม่เฉพาะกับประเทศสมาชิก แต่ยังรวมถึงทั่วโลกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนา ที่ระบุประเด็นสำคัญ 3 ประการคือ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของสถาปัตยกรรมสุขภาพโลก การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน เพื่อให้ G20 สามารถทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการฟื้นตัวทั่วโลกที่แข็งแกร่งและครอบคลุม

สำหรับเอเปค เป็นเวทีเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก ยังคงเดินหน้าการรวมกลุ่มกันในภูมิภาคภายใต้ธีมปี 2565 ว่า “Open. Connect. Balance.” สะท้อนเป้าหมายและความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิก เพื่อจัดการกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากโรคระบาดใหญ่ และความขัดแย้งที่มีการแตกสาขาออกไปทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาวิสัยทัศน์สำหรับชุมชนเอเชียแปซิฟิกที่เปิดกว้าง มีพลัง ยืดหยุ่น และสงบสุข ในฐานะที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเปคได้เรียกร้องให้มีการพูดคุยเกี่ยวกับเขตการค้าเสรีของเอเชียแปซิฟิก  สนับสนุนให้กลับมาท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและราบรื่น โดยเน้นย้ำถึงความครอบคลุมและความยั่งยืน ผ่านปรับใช้แบบจำลองเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วย ภูมิภาคและทั่วโลกให้ฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19 ด้วย

ในฐานะประธานการประชุมที่สำคัญๆ ในปีนี้ เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่ามีจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือ  ขณะที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเสริมสร้างความเป็นศูนย์กลาง ความน่าเชื่อถือ และการมีส่วนรวมของอาเซียน ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและ ความพยายามระดับโลก