‘กูเกิล’ เปิด ‘Cloud Region' ในไทย ‘ขยายลงทุน-หนุนศก.ดิจิทัล’

‘กูเกิล’ เปิด ‘Cloud Region' ในไทย ‘ขยายลงทุน-หนุนศก.ดิจิทัล’

บิ๊กเทคคอมพานีโลก “กูเกิล” ขยายการลงทุนในไทย ปักธงสร้าง คลาวด์อินฟราสตรักเจอร์ “Cloud Region” รองรับความต้องการบริการคลาวด์ที่เติบโตต่อเนื่อง น่าจับตามองว่า การขยับตัวอย่างมีนัยสำคัญครั้งนี้จะสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการเทคโนโลยีไทยได้มากน้อยเพียงใด

แจ็คกี้ หวาง ผู้อำนวยการ กูเกิล ประจำประเทศไทย แสดงวิสัยทัศน์ว่า Cloud Region แห่งใหม่นี้ ถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญในประเทศไทยของกูเกิล เพื่อรองรับการเติบโตของฐานลูกค้าไทย ตลอดจนบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรม ทั้งยังเป็นอีกส่วนสำคัญของการยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจไทยสู่เฟสต่อไป กูเกิล ยังคงให้ความสำคัญกับพาร์ทเนอร์ชิปที่แข็งแกร่งกับประเทศไทย ตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่มุ่งผลักดันให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยี ภายใต้แนวคิด “Leave No Thai Behind”

“ครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่สำคัญของการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของกูเกิลในประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งเสริมโอกาสในการเติบโตแบบครอบคลุมที่จะไม่ทิ้งคนไทยไว้ข้างหลัง”

 

ที่ผ่านมา กูเกิลทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ธุรกิจ ชุมชน และนักการศึกษาในประเทศไทย เพื่อเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ร่วมผลักดันการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล พร้อมส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีในระดับภูมิภาค

ชูดิจิทัลหนุนแผนพัฒนาเศรษฐกิจ

สำหรับ การขยายการลงทุนด้วยการสร้าง Cloud Region ในไทย กูเกิลต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ยอดเยี่ยม ปลอดภัย น่าเชื่อถือ ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของภาคธุรกิจ

 

ขณะเดียวกัน ผลักดันให้อีโคซิสเต็มขององค์กรและผู้ใช้งานเข้าใกล้กันมากขึ้น ครอบคลุมทั้งโปรแกรมเสิร์ช ยูทูบ แผนที่ เพลย์ คลาวด์ และอื่นๆ วางตำแหน่งเป็นพันธมิตรกับองค์กรท้องถิ่นทุกขนาด สามารถให้บริการตลาดภายในประเทศ สนับสนุนการส่งออก การเติบโตของภาคธุรกิจ รวมถึงการขยายบริการไปทั่วโลก

ด้านแนวทางการให้บริการ โฟกัสที่บริการสำหรับธุรกิจและระบบคลาวด์ศักยภาพสูงที่จำเป็นต่อองค์กร เพื่อเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ดิจิทัล และสร้างข้อได้เปรียบใหม่ๆ ในการแข่งขัน

ตลอดจนตอกย้ำเจตนารมณ์ของกูเกิลคลาวด์ที่ต้องการสนับสนุนแผนพัฒนาเศรษฐกิจในเฟสต่อไปของรัฐบาลไทย โดยกำหนดการเปิดบริการและสถานที่อย่างเป็นทางการจะประกาศให้ทราบอีกครั้งภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

รายงานจากผลวิจัยของ “AlphaBeta” ภายใต้การสนับสนุนของ “กูเกิล” เผยว่า หากใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ประเทศไทยอาจสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อปีได้สูงถึง 2.5 ล้านล้านบาท (79.5 พันล้านดอลลาร์) ภายในปี 2573 ซึ่งเทียบเท่ากับ 16% ของจีดีพีท้องถิ่นในปี 2563

ก่อนหน้านี้ กูเกิลคลาวด์ (Google Cloud) ได้ประกาศแผนสร้าง Cloud Region ในประเทศนิวซีแลนด์ มาเลเซีย และเม็กซิโก ซึ่งจะทยอยเปิดใช้งานตามหลัง Cloud Region 5 แห่ง ที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ ในกรุงเบอร์ลิน ดัมมาม โดฮา เทลอาวีฟ และตูริน โดยรวมปัจจุบันกูเกิลมี Cloud Region ทั้งหมด 34 แห่ง 103 โซน ที่เปิดใช้งานทั่วโลก

มองตลาดไทยมีศักยภาพ 

รูมา บาลาซูบรามาเนียน กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กูเกิล คลาวด์ เปิดมุมมองว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผลักดันให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการแข่งขันด้านดิจิทัลสูงที่สุดในโลก

โดยมีสองปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวจักรในการขับเคลื่อนการเติบโตดิจิทัลอีโคโนมี คือ “Consumerization” และ ความต้องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปช่วยสนับสนุนนโยบายรัฐเพื่อยกระดับบริการสำหรับภาคประชาชน

กูเกิล ระบุว่า มูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยไทยจะทะยานไปกว่า 5.7 หมื่นล้านดออลาร์ภายในปี 2568 ขณะที่ในภาพรวมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 3.63 แสนล้านดอลลาร์ และจะเพิ่มไปถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2573

นอกจากนี้ ไทยยังมีปัจจัยบวกจากการเพิ่มขึ้นของสตาร์ทอัพหน้าใหม่ๆ ในระบบนิเวศสตาร์ทอัพ รวมทั้งการที่ 9 ใน 10 ของคนไทยคุ้นเคยกับการใช้สมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวันก็ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความความคิดสร้างสรรค์ ความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ ตลอดจนการเปิดกว้างในการพร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ

เพิ่มโอกาสใหม่ๆ บนดิจิทัล

เอ็มดี กูเกิลคลาวด์อาเซียน เผยว่า การประกาศแผนติดตั้ง Cloud Region ในประเทศไทย กูเกิลคลาวด์วางเป้าหมายที่จะส่งเสริมนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการรุกหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของประเทศ

อาทิ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และส่งมอบระบบโครงสร้างคลาวด์ที่จำเป็นต่อการปรับเปลี่ยนและเติบโตของภาคธุรกิจ ทั้งในด้านการใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด การทำงานแบบไฮบริด หรือการมีแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดที่มีการพัฒนาอยู่เสมอ

มากกว่านั้น มุ่งสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางดิจิทัลในประเทศไทยและเพื่อประเทศไทย รวมถึงโอกาสในการขยายโครงสร้างคลาวด์ เพื่อยกระดับประเทศไทยไปสู่กลุ่มประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูงที่มาพร้อมกับนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในอนาคตเมื่อระบบเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเชื่อมั่นว่าจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับการปฏิบัติงานขององค์กรในท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีความหน่วงต่ำ ขณะที่แผนการสร้างระบบและกระจายปริมาณงานไปใน 3 โซน จะทำให้การให้บริการมีความปลอดภัย เป็นไปอย่างราบรื่น ป้องกันไม่ให้การบริการหยุดชะงัก สามารถกู้คืนได้เมื่อเกิดความเสียหาย

นอกจากนี้ องค์กรต่างๆ ยังสามารถเข้าถึงระบบควบคุมที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าศูนย์เก็บข้อมูลจะได้รับความคุ้มครองโดยระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสูงสุด ซึ่งรวมถึงข้อมูลเฉพาะที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าหลักกลุ่มธุรกิจการเงิน โทรคมนาคม หน่วยงานภาครัฐ ครอบคลุมองค์กรขนาดใหญ่ ไปจนถึงวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม รวมถึงสตาร์ทอัพ

ที่ผ่านมา กูเกิลคลาวด์ ได้รับความไว้วางใจ และมีส่วนแบ่งการตลาดจากองค์กรขนาดใหญ่ในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมไปถึงบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์, แอสเซนด์ มันนี่, บิ๊กซี, โฮมโปร, ธนาคารกสิกรไทย, กรุงศรี คอนซูมเมอร์, ธนาคารกรุงไทย, บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (โรบินฮู้ด), ปูนซีเมนต์ไทย, ทีดี ตะวันแดง และ ทรู ดิจิทัล ฯลฯ