ปส.วางกรอบเทคโนโลยีนิวเคลียร์ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระบบกำกับที่รัดกุมที่สุด

ปส.วางกรอบเทคโนโลยีนิวเคลียร์ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระบบกำกับที่รัดกุมที่สุด

ปส. ยกระดับความปลอดภัยด้วยกฎหมายและระบบกำกับดูแล พร้อมเดินหน้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาตรฐานปลอดภัยขนาดเล็ก (SMR) เพื่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตประชาชน

ศ.ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม  (อว.) กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ครั้งที่ 1/2568

ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงต่าง ๆ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา ทั้งวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ เกษตรศาสตร์ และนิติศาสตร์ เข้าร่วมประชุม

โดยมีนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) เป็นกรรมการและเลขานุการฯ ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

มติที่ประชุม “เน้นย้ำความปลอดภัยของประชาชนต้องมาก่อน การพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระบบกำกับที่รัดกุมที่สุด”

และร่วมกันพิจารณานโยบายและมาตรการสำคัญด้านการกำกับดูแลพลังงานนิวเคลียร์และรังสีของประเทศให้มีความปลอดภัย โปร่งใส และสอดคล้องตามมาตรฐานสากล ให้กำกับและขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ อย่างใกล้ชิด

โดยรัฐบาลมุ่งผลักดันให้ประเทศไทยมีระบบกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์ที่เข้มแข็ง ครอบคลุม และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล 

ศ.ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้คณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติได้ร่วมกันพิจารณาประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับบทบาทการกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์และรังสีของประเทศในหลายด้าน

ปส.วางกรอบเทคโนโลยีนิวเคลียร์ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระบบกำกับที่รัดกุมที่สุด

ทั้งการเตรียมความพร้อมการกำกับดูแลโรงไฟฟ้า Small Modular Reactor (SMR) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มเข้ามามีบทบาทสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ด้านพลังงานสะอาดของประเทศในอนาคต

โรงไฟฟ้า SMR มีความปลอดภัยสูง ช่วยเสริมความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบไฟฟ้า ลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิง และสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในระยะยาวยังช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจและการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศ

ปส.วางกรอบเทคโนโลยีนิวเคลียร์ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระบบกำกับที่รัดกุมที่สุด

โดย ปส. กระทรวง อว. อยู่ระหว่างกำหนดกรอบการอนุญาตสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ การควบคุมดูแลสถานที่จัดการกากกัมมันตรังสีและเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานสากล

เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่ประชาชนก่อนการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้จริง ซึ่งเป็น 1 ในนโยบายสำคัญของ อว. ที่เกี่ยวข้องกับ Net Zero

ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา (ร่าง) พระราชบัญญัติความรับผิดทางแพ่งต่อความเสียหายทางนิวเคลียร์ พ.ศ. .... ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญในการคุ้มครองประชาชนอย่างแท้จริง และช่วยเสริมความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานด้านนิวเคลียร์ของประเทศ การลงทุนจากต่างประเทศ 

นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการฯ เปิดเผยว่า นอกจากนี้ยังร่วมพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศ

ปส.วางกรอบเทคโนโลยีนิวเคลียร์ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระบบกำกับที่รัดกุมที่สุด

ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) และสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ครอบคลุม 3 ประเด็นสำคัญเร่งด่วน ได้แก่

ความพร้อมด้าน SMR อุตสาหกรรมธาตุหายาก และเทคโนโลยีฟิวชัน รวมทั้งประเด็นสำคัญในระยะยาว ภายใต้นโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ของโลกอนาคต  

ที่ประชุมยังเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแล ได้แก่ คณะอนุกรรมการสรรหาและวิเคราะห์ข้อสอบเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี และคณะอนุกรรมการด้านการแพทย์ 

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้เน้นย้ำบทบาทสำคัญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีของประเทศ

โดยให้ ปส. เร่งพัฒนาระบบอนุญาต การประเมินความเสี่ยง การติดตามควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยของบุคลากรและสถานประกอบการ รวมถึงยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ของประเทศไทย

ผ่านการพัฒนากฎหมาย ตลอดจนสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนากำลังคนผู้เชี่ยวชาญ การเตรียมความพร้อมรองรับเทคโนโลยีนิวเคลียร์สมัยใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้ประเทศสามารถก้าวสู่การใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน.