วว.ส่ง Thai Cosmetopoeia ตราสัญลักษณ์การันตีนวัตกรรมเครื่องสำอางไทย

Thai Cosmetopoeia ตราสัญลักษณ์โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมไทยด้วยการสร้างสรรค์คุณค่าเครื่องสำอางตามเอกลักษณ์ท้องถิ่น

โดยนำเรื่องราวภูมิปัญญาท้องถิ่น อัตลักษณ์ของพื้นที่ เศรษฐกิจชุมชน บรรจุอยู่ในเครื่องสำอางแต่ละชิ้นที่ผ่านการพัฒนาเป็นรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ “นวัตอัตลักษณ์เครื่องสำอางไทย”

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ร่วมกับภาคเอกชนเปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai Cosmetopoeia เมื่อปี 2563 เป็นการนำวัตถุดิบผลอะโวคาโด จาก อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

มาผ่านการสกัดด้วยเทคโนโลยีเฉพาะและทดสอบประสิทธิภาพต่อผิวหนัง ในการต้านอนุมูลอิสระ ชะลอริ้วรอย และต้านการเกิดเม็ดสีผิว นับเป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตรและเป็นการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ ช่วยลดการนำเข้าที่เป็นรูปธรรม

เครื่องสำอางจากพื้นถิ่น

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากโครงการ Thai Cosmetopoeia ที่ วว.ร่วมขับเคลื่อนกับผู้ประกอบการและกลุ่มวิสาหกิจในพื้นที่ตามเอกลักษณ์ท้องถิ่น 

อาทิ เครื่องสำอางจากน้ำพุร้อนเค็ม จ.กระบี่ เป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบสำหรับผิวหน้าในรูปแบบของสเปรย์น้ำแร่ ซีรั่มบำรุงผิว ครีมกันแดดและผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกาย

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากอะโวคาโด จากการพัฒนาสารสกัดเพื่อใช้ประโยชน์ด้านเครื่องสำอางโดยวิสาหกิจชุมชนอะโวคาโดแปลงใหญ่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

นอกจากนี้ยังมีเครื่องสำอางจากสารสกัดเมล็ดมะขาม จ.เพชรบูรณ์ และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฟังก์ชันจากมะขามหวาน จ.เพชรบูรณ์ 

ขณะที่วิสาหกิจชุมชนน้ำเกี๋ยน จังหวัดน่าน ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการสกัดสมุนไพรระดับชุมชน การวิเคราะห์คุณสมบัติของสารสกัด ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันจากตรีผลา เทคโนโลยีการผลิตสารสกัดตรีผลา และผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมและบำรุงผมจากมะไฟจีน

Thai Cosmetopoeia เป็นโครงการที่นำนวัตกรรม ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาผสมกับอัตลักษณ์ของทรัพยากรท้องถิ่นไทย  (Innovation + Identity)

เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปสร้างจุดเด่น หรือสร้างโอกาสในการแข่งขันเชิงธุรกิจ จึงเป็นการทำงานเกือบครบทุกมิติ

และเป็นการรวมจุดแข็งของแต่ละหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีพี่ใหญ่ในแวดวงธุรกิจมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนร่วมด้วย

Concept ของโครงการนี้ คือ ทุกโครงการต้อง คืนกำไรสู่สังคมอย่างยั่งยืน Sustainable Creation of Shared Values

หากมีการนำเอาทรัพยากรไปใช้ประโยชน์ ผู้ใช้ประโยชน์จะต้องคืนหรือทดแทนให้กับทรัพยากรหรือสิ่งแวดล้อมที่ใช้ไป เพื่อให้เป็นต้นทุนและสร้างสมดุลอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต 

อีกทั้งหากเกิดการใช้ประโยชน์ในทรัพยากรในท้องถิ่น ก็จะส่งผลต่อการจ้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ ลดการกระจุกตัวของงานในเมืองลง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม 

โครงการมีระยะเวลา 5 ปี มีขอบเขตความร่วมมือในการร่วมกันดำเนินการศึกษาวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการปลูก สายพันธุ์ กระบวนการแปรรูป การสกัด การทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพและเภสัชวิทยา ของพืชเป้าหมาย

เพื่อใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและเวชสำอาง รวมทั้งการทดสอบประสิทธิภาพและการประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และร่วมกันสนับสนุน ผลักดัน ให้เกิดการนำผลงานวิจัยหรือผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยที่เกิดจากความร่วมมือนี้ไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์

“...การใช้ตราสัญลักษณ์ Thai Cosmetopoeia  ของ วว. ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงมาตรฐาน ความน่าเชื่อถือ และเอกลักษณ์ของความเป็นไทย

ซึ่งสามารถเป็นพลังสำคัญในการสร้างความแตกต่างและเพิ่มขีดความสามารถบนฐานทรัพยากรไทย สู่การแข่งขันของเครื่องสำอางไทยบนเวทีนานาชาติ

นอกจากนี้ยังมีความหมายในเชิงเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากจะมีส่วนช่วยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นให้เกิดมูลค่าเพิ่ม มีการเชื่อมโยงเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อย ให้เข้าสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย

และจะสามารถกระจายรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ และร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึง และเกิดการเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน...” 

ความเชี่ยวชาญของมืออาชีพ

ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ วว.กล่าวว่า ในบริบทการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากสมุนไพรไทย วว. ขับเคลื่อนโดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร (ศนส.) ที่มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา บริการวิจัย วิเคราะห์ทดสอบ บริการที่ปรึกษา สร้างสรรค์นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากสมุนไพรอย่างครบวงจร โดยมุ่งเน้นความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เวชสำอางและผลิตภัณฑ์ยาจากสมุนไพร 

 วว. นำความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ในด้านนี้ดำเนินโครงการ Thai Cosmetopoeia  มุ่งวางรากฐานของระบบนิเวศนวัตกรรมด้านเครื่องสำอางของไทย ที่ผสานความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) เข้ากับภูมิปัญญาและทรัพยากรท้องถิ่น

ซึ่งประเทศไทยมีความโดดเด่นและมีศักยภาพสูง โดยเฉพาะความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) ที่สร้างความได้เปรียบที่ดีกว่าประเทศอื่น

ประเทศไทยถือเป็นฮับในการผลิตเครื่องสำอางที่สำคัญในอาเซียน โดยมีปัจจัยการันตีคือ ความน่าเชื่อถือ กระบวนการผลิตที่ครบครันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์ ทำให้เครื่องสำอางที่ผลิตในไทยได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง.