ย้อนเส้นทาง 10 ปีการพัฒนา IoT ของไทย จากก้าวแรกของ NETPIE สู่การเชื่อมโลก AI+IoT

NETPIE แพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับการพัฒนา Internet of Things (IoT) สัญชาติไทย พัฒนาโดยเนคเทค เปิดให้บริการฟรีแก่สาธารณชนครั้งแรกในปี 2558
KEY
POINTS
- NETPIE แพลตฟอร์มคลาวด์ IoT สัญชาติไทย ที่พัฒนาโดยเนคเทค-สวทช. เปิดตัวครั้งแรกในปี 2558 เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานให้นักพัฒนาและภาคอุตสาหกรรมสร้างนวัตกรรม
- ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา NETPIE ถูกนำไปประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายภาคส่วน เช่น อุตสาหกรรม เกษตรอัจฉริยะ และการแก้ปัญหาสาธารณูปโภค
- ปัจจุบันได้ต่อยอดจาก IoT สู่ AIoT (AI+IoT) ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์ม "Daysie" ที่ช่วยให้อุปกรณ์สามารถวิเคราะห์และตัดสินใจได้เองที่ปลายทาง (Edge Computing)
ในโอกาสครบรอบ 10 ปี “NETPIE” (เน็ตพาย) แพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับการพัฒนา Internet of Things (IoT) สัญชาติไทย หลังจากเปิดให้บริการฟรีแก่สาธารณชนครั้งแรกในปี 2558
เนคเทคจึงเปิดพื้นที่จัดกิจกรรม “10 ปี IoT ไทย: จาก NETPIE สู่อนาคตแห่งการเชื่อมต่อสรรพสิ่งด้วย AIoT” ย้อนรำลึกถึงเส้นทางการพัฒนา IoT ของไทยและเปิดมุมมองอนาคตการประยุกต์ใช้ AI ผสาน IoT (AIoT) ยกระดับอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวันในยุคดิจิทัล
16 ก.ย.2558 วันที่ NETPIE ปรากฏตัวต่อสาธารณะ เนคเทคปล่อยรุ่นแรกสู่ผู้ใช้ พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง IoT device ที่เชื่อมต่อกันได้ แม้จะยังไม่สมบูรณ์ มีคำบ่น มีเสียงผิดหวัง แต่พวกเขารู้ดีว่าการเปลี่ยนผ่านไม่ใช่เรื่องของ “ความพร้อม” เพียงวันเดียว มันต้องใช้ “ความเชื่อ” และ “ความต่อเนื่อง”
เพราะ NETPIE ไม่ได้แค่เปลี่ยนเทคโนโลยีแต่กำลังเปลี่ยน “วิธีคิด” จากการรอซื้อของสำเร็จรูปไปสู่การลงมือสร้างโลกอัจฉริยะของตัวเอง
โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับ IoT
NETPIE (Network Platform for Internet of Everything) คือแพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับการพัฒนา Internet of Things (IoT) สัญชาติไทย พัฒนาโดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
เพื่อให้การเชื่อมต่อและสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ IoT ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ผู้ใช้งานสามารถจัดการและควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ผ่านแดชบอร์ด เพื่อประยุกต์ใช้ในการพัฒนาโซลูชันอัจฉริยะในหลากหลายภาคส่วน
NETPIE เปิดให้บริการฟรีแก่สาธารณชนครั้งแรกในปี 2558 โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ที่รองรับการพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ด้าน IoT
สำหรับทั้งนักพัฒนา ธุรกิจสตาร์ตอัป และภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการสร้างระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะโดยไม่ต้องลงทุนด้านระบบหลังบ้านเอง ด้วยความสามารถที่ครบถ้วนและใช้งานได้จริง
NETPIE เติบโตเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่นักพัฒนา ครูอาจารย์ Maker และภาคเอกชนไทยนำไปต่อยอดใช้งานอย่างแพร่หลายในหลากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจบริการ เกษตรอัจฉริยะ ไปจนถึงเมืองอัจฉริยะ
เพื่อรองรับการใช้งานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและตอบโจทย์ความต้องการทางอุตสาหกรรม
กระทั่งต่อมาทีมวิจัยและพัฒนาบางส่วนจากเนคเทค สวทช. ได้ก่อตั้งบริษัท เน็กซ์พาย (NEXPIE) จำกัด ขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างมืออาชีพภายใต้การอนุญาตให้ใช้สิทธิ (Licensing) แพลตฟอร์ม NETPIE จากเนคเทค – สวทช.
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการในระยะยาว พร้อมตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาประเทศอย่างเต็มประสิทธิภาพ
พลิกวิกฤติด้วย NETPIE
จากเสียงร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ที่ในอดีตน้ำประปาไม่ไหล หรือไหลอ่อนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากระบบผลิตน้ำ ณ หน่วยบริการ อ.แม่วาง ขัดข้องหรือหยุดชะงัก
จากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับหรือไฟฟ้ากะพริบ ด้วยหน่วยบริการ อ.แม่วาง เป็นสถานีผลิตน้ำขนาดเล็กอยู่ห่างไกลจากสำนักงานใหญ่ ประมาณ 60 กิโลเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานใหญ่ไม่ทราบสถานะของเครื่องจักรกล การเข้ามาตรวจสอบสถานะดังกล่าวจะเกิดขึ้นต่อเมื่อประชาชนร้องเรียนเข้ามา
ทาง กปภ. สาขาเชียงใหม่ (พ.) จึงตัดสินใจเลือกใช้ NETPIE มาประยุกต์ใช้สร้างนวัตกรรม สามารถลดข้อร้องเรียนในการแจ้งน้ำไหลอ่อนหรือน้ำไม่ไหลได้ เนื่องจากเรามีการผลิตน้ำที่ต่อเนื่องมากกว่าเดิม
จาก IoT สู่ AIoT “Daysie”
จาก IoT สู่ AIoT: เมื่ออุปกรณ์ไม่ได้แค่เชื่อมต่อ แต่เริ่ม “ฉลาด” เวลาผ่านไป 10 ปี วันนี้อุปกรณ์ไม่ได้แค่เชื่อมโยงกัน แต่มันเรียนรู้ วิเคราะห์และตัดสินใจได้เอง
นี่คือก้าวต่อไปของ NETPIE “จาก IoT สู่ AIoT” หัวใจสำคัญของระบบอัจฉริยะในอนาคต ที่ไม่ได้แค่ส่งข้อมูล แต่ “เข้าใจบริบท” และ “ตอบสนองได้อย่างอัจฉริยะ”
เราไม่ได้หยุดแค่การเชื่อมต่อหลอดไฟแต่กำลังเชื่อมเมือง ฟาร์ม โรงงานและระบบธุรกิจให้กลายเป็นเครือข่ายอัจฉริยะ ที่เรียนรู้และปรับตัวไปพร้อมกับผู้ใช้งาน
“Daysie” แพลตฟอร์มช่วยสร้างแอปพลิเคชัน IoT สำหรับติดตั้งบนอุปกรณ์ Edge Computing โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องเขียนโปรแกรมใดๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับการพัฒนาแอปพลิเคชันในกลุ่มเทคโนโลยี AIoT (Artificial Intelligence of Things)
เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสร้างแอปพลิเคชันได้โดยไม่ต้องมีพื้นฐานการเขียนโปรแกรม พร้อมดาวน์โหลดไปติดตั้งบนอุปกรณ์ Edge Computing ได้ด้วยตนเอง
ปัจจุบันนำไปทดลองใช้งานในหลากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม เช่น การพัฒนาอุปกรณ์ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ด้วยภาพถ่ายหรือเสียง การวิเคราะห์เสียงเครื่องจักรเพื่อตรวจหาความผิดปกติล่วงหน้า และงานอื่น ๆ ที่ต้องอาศัยการตัดสินใจจากข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่ปลายทาง
AIoT จึงถือเป็นการ “กระจายสมอง” ให้แทรกซึมในทุกองค์ประกอบของระบบ IoT เช่น ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานในสายการผลิต ที่อุปกรณ์ Edge Computing หนึ่งสามารถตรวจพบความผิดปกติในเครื่องจักร แล้วสื่อสารกับอุปกรณ์ Edge ตัวอื่นที่ควบคุมกระบวนการผลิตในช่วงก่อนหน้า เพื่อชะลอความเร็วให้เหมาะสม ลดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโดยรวม.
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “Daysie” ได้ที่ https://daysie.io/







