NIA ทำอย่างไร ‘ปักหมุดแบรนด์นวัตกรรมไทย‘ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

NIA ทำอย่างไร ‘ปักหมุดแบรนด์นวัตกรรมไทย‘ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

NIA สร้างเครือข่ายพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมไทยกับ ประเทศกลุ่มยุโรป เสริมแกร่ง ระบบนิเวศ - ทุน – ตลาด ‘ปักหมุดแบรนด์นวัตกรรมไทย’ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

KEY

POINTS

  • NIA สร้างเครือข่ายพันธมิตรกับประเทศในยุโรป เดินเกม ‘ปักหมุดแบรนด์นวัตกรรมไทย’ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล 
  • นำเสนอศักยภาพสตาร์ตอัปไทยในเวทีนานาชาติ เช่น Scaleup Impact! กับสวีเดน และ Vienna Startup Package กับออสเตรีย เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ
  • ส่ง 3 สตาร์ตอัปไทยเข้าร่วมงาน ViennaUp 2025 Tasted Better / Botnoi / Moom

 

 

 

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เดินหน้ายกระดับสตาร์ตอัปและผู้ประกอบการนวัตกรรมไทยให้เติบโตสู่เวทีโลก ภายใต้บทบาท “ผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม” เพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับประเทศที่มีระบบนิเวศนวัตกรรมแข็งแกร่งโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรป

ผ่านโครงการความร่วมมือกับหลากหลายประเทศ เช่น สวีเดน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ ฯลฯ ที่จะช่วยเปิดโอกาสให้ธุรกิจนวัตกรรมไทยเข้าถึงตลาด โครงสร้างพื้นฐาน และแหล่งทุนระดับโลก พร้อมยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า หนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จของนวัตกรรมไทย คือ การสร้างการยอมรับในระดับสากล ตลอดจนการขยายตลาดและสร้างโอกาสให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ
นวัตกรรมไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศ

จึงเป็นโจทย์ที่ NIA กำหนดให้เป็นแนวทางส่งเสริมสตาร์ตอัปและเอสเอ็มอีไทยให้สามารถก้าวสู่เวทีโลกมากขึ้น ผ่านการทำงานเชิงรุกทั้งการสร้างความร่วมมือกับประเทศชั้นนำด้านนวัตกรรม

เพื่อเชื่อมโยงกับเงินทุน โครงสร้างพื้นฐานระดับสากล โอกาสทางธุรกิจ และเครือข่ายพันธมิตร ตลอดจนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่จะช่วยยกระดับศักยภาพนวัตกรรมไทยให้เติบโตและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา NIA ได้เชื่อมโยงเครือข่ายนวัตกรรม สร้างความร่วมมือ และทำงานกับหน่วยงานพันธมิตรจากหลากหลายประเทศอย่างเข้มข้น

เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ บุคลากร สร้างโอกาสการขยายธุรกิจและการระดมทุน รวมถึงสร้างช่องทางและพื้นที่ให้นวัตกรรมไทยได้มีโอกาสไปโชว์ศักยภาพในเวทีระดับนานาชาติ

โดยเน้นทำงานกับกลุ่มประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับนวัตกรรมไทยทั้งมิติเศรษฐกิจและสังคม 

NIA ได้ดำเนินโครงการ Scaleup Impact! Thailand-Sweden Global Startup Acceleration Program ซึ่งเป็นความร่วมมือของ NIA และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม

เพื่อบ่มเพาะและเร่งสร้างสตาร์ตอัปไทยในสาขา Impact Tech ที่มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมสู่การเชื่อมโยงเครือข่ายในตลาดนอร์ดิกได้เพิ่มขึ้นผ่านกิจกรรม “Thailand Pitch Day”

สตาร์ตอัปไทยในสาขาการแพทย์และสุขภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว เทคโนโลยีเชิงลึก ดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) IoT และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จำนวน 12 ทีม เข้าร่วมโชว์ศักยภาพและนำเสนอไอเดียธุรกิจสุดเข้มข้นต่อนักลงทุน

โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนในภูมิภาคนอร์ดิก หน่วยงานภาครัฐของไทยและสวีเดน เครือข่ายภาคธุรกิจ และกลุ่มคนไทยในสวีเดนเข้าร่วมงานกว่า 100 คน

ทั้งยังเป็นโอกาสในการแสวงหาแหล่งเงินทุนที่ยั่งยืน เนื่องจากตลาดดังกล่าวมีการระดมทุนจากแหล่งเงินทุนภายในเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 29.6 เป็นร้อยละ 38.3 และมีความมั่นคงในระยะยาว 

กลุ่มที่มีการลงทุนสูงสุดได้แก่ พลังงาน/เทคโนโลยีสีเขียว วิทยาศาสตร์ชีวภาพปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งรอบการระดมทุนที่เกี่ยวข้องกับ AI ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024

NIA ทำอย่างไร ‘ปักหมุดแบรนด์นวัตกรรมไทย‘ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

แสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุน และเป็นภาคส่วนที่ใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรปสำหรับการระดมทุนของสตาร์ตอัป โดยมีจำนวนดีลเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 และกลุ่ม Fintech & Enterprise Solutions และ Robotics

โดยเฉพาะในเดนมาร์กที่มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์กลางความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึง Gaming หนึ่งในอุตสาหกรรมที่กลุ่มนอร์ดิกมีความแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาความแข็งแกร่งของระบบนิเวศสตาร์ตอัปและนวัตกรรมนอร์ดิก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและการสนับสนุนจากภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ

รวมถึงโครงสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และการลงทุนที่เหนียวแน่น ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ในการพัฒนานโยบายของไทยได้ในอนาคต เช่น เงินทุนสนับสนุน เงินกู้ โครงการเร่งการเติบโต วีซ่าผู้ประกอบการ ฯลฯ

NIA ทำอย่างไร ‘ปักหมุดแบรนด์นวัตกรรมไทย‘ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

จากการติดตามผลการดำเนินงานภายหลังเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว คาดการณ์ว่าสตาร์ตอัปจะสามารถสร้างรายได้หรือได้รับการลงทุนมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท

โครงการ Vienna Startup Package โปรแกรมสนับสนุนผู้ประกอบการจากต่างประเทศของกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง NIA กับ Vienna Business Agency และ Advantage Austria เปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปจากทั่วทุกมุมโลกได้เข้าไปอยู่ในระบบนิเวศสตาร์ตอัปของเวียนนา เพื่อทดลองตลาดและสำรวจโอกาสทางธุรกิจในยุโรป 

NIA ได้ส่ง 3 สตาร์ตอัปไทยเข้าร่วมงาน ViennaUp 2025 ได้แก่ 

1.Tasted Better แป้งทางเลือกที่มีค่าดัชนีน้ำตาล ซึ่งสามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทสำเร็จ อยู่ระหว่างการขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่น 

2.Botnoi ผู้ให้บริการเทคโนโลยี AI แบบครบวงจร ทั้ง AI Chatbot, AI Voicebot, Data Scientist และให้คำปรึกษาด้าน AI โดยมีโอกาสนำร่องร่วมกับสถานทูตไทยในกรุงเวียนนา

NIA ทำอย่างไร ‘ปักหมุดแบรนด์นวัตกรรมไทย‘ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

และยังได้เข้าร่วมกับองค์กรส่งเสริมการค้าอย่างเป็นทางการของออสเตรีย ‘Advantage Austria’ ในไทย ที่เปิดโอกาสการเข้าถึงโครงการสนับสนุนและเครือข่ายด้านการค้าและการลงทุน 

3.Moom สตาร์ตอัปด้านครีเอทีฟเทคที่ใช้เทคโนโลยี Regenerative AI ช่วยวางแผนและแก้ปัญหาการออกแบบภายใน 

ViennaUp 2025 งานที่รวบรวมสตาร์ตอัป นักลงทุน บริษัทขนาดใหญ่ นักสร้างสรรค์ ผู้ที่สนใจเทคโนโลยี หน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างเครือข่าย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสร้างความร่วมมือ ผ่านเวทีสัมมนา กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ

และกิจกรรม Startup Pitches ของสตาร์ตอัปออสเตรียและนานาชาติในสาขา GreenTech และ DeepTech 

NIA ทำอย่างไร ‘ปักหมุดแบรนด์นวัตกรรมไทย‘ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

NIA ยังได้หารือกับองค์กรส่งเสริมนวัตกรรมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หรือ Innosuisse เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการสนับสนุนธุรกิจนวัตกรรมและสตาร์ตอัป และการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ

Innosuisse เป็นหน่วยงานสนับสนุนเงินทุนเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงระหว่างภาควิจัย ภาคธุรกิจ และเครือข่ายนวัตกรรมระดับโลก ตลอดจนการให้คำปรึกษาและการฝึกอบรม 

นอกจากนี้ ยังขับเคลื่อนโครงการนวัตกรรมขนาดใหญ่ที่เชื่อมภาคธุรกิจกับงานวิจัย การให้ทุนสนับสนุนเอสเอ็มอี ตรวจสอบแนวคิดนวัตกรรม รวมถึงการสนับสนุนสตาร์ตอัปที่พร้อมขยายตลาดผ่านโปรแกรม Scale-Up Coaching

เรียกได้ว่ามีบทบาทและพันธกิจสอดคล้องกับ NIA ทั้งการผลักดันนวัตกรรมผ่านกลไกสนับสนุนทางการเงิน การฝึกอบรม บ่มเพาะ การให้คำปรึกษาผู้ประกอบการ และสร้างเครือข่ายกับนานาชาติ 

ทั้งนี้ ยังได้หารือกับเครือข่ายอุทยานนวัตกรรมสวิตเซอร์แลนด์ตะวันตก (Switzerland Innovation Park Network West EPFL) เพื่อสนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการและดีพเทคสตาร์ตอัปไทยผ่านโครงการ Swisstech Discovery Program

โดยเฉพาะโปรแกรม Soft-Landing ที่เปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติเข้าถึงระบบนิเวศของสวิตเซอร์แลนด์ โดยไม่จำเป็นต้องจัดตั้งบริษัทในประเทศ 

พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ เช่น พื้นที่ทำงานในอุทยานนวัตกรรม การให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ และการเข้าถึงเครือข่ายของ EPFL, Campus Biotech, และพันธมิตรชั้นนำทั่วโลก

 NIA มีโครงการ Startup Thailand และ Global Startup Hub ที่สามารถต่อยอดความร่วมมือกับ EPFL Innovation Park เพื่อแลกเปลี่ยนบริการสนับสนุนดีพเทคสตาร์ตอัประหว่างสองประเทศ และช่วยให้สตาร์ตอัปไทยได้เรียนรู้และเติบโตในตลาดระดับสากล

นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการเปิดประตูให้สตาร์ตอัปไทยได้เรียนรู้ เติบโต และขยายโอกาสในระดับสากล ผ่านระบบนิเวศนวัตกรรมที่เข้มแข็งของสวิตเซอร์แลนด์

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่ NIA ได้สร้างเครือข่ายพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมไทย เพื่อ ‘ปักหมุดแบรนด์นวัตกรรมไทย’ ให้กลายเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ที่ไม่เพียงเร่งการเติบโตของนวัตกรรมในประเทศ แต่ยังส่งต่อศักยภาพสู่ตลาดโลกอย่างเป็นรูปธรรม.