ทีมวิจัย MIT พัฒนาแคปซูลรูปดาว กินสัปดาห์ละครั้ง คุมอาการนาน 7 วัน

ทีมวิจัย MIT พัฒนาแคปซูลรูปดาว กินสัปดาห์ละครั้ง คุมอาการนาน 7 วัน

สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และสตาร์ตอัป Lyndra Therapeutics พัฒนาแคปซูลรูปดาวที่สามารถค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร และปล่อยยาได้นาน 7 วัน เปลี่ยนวิธีการใช้ยาสำหรับผู้ป่วยจิตเวชที่ต้องพึ่งพาการกินยาทุกวัน ให้กลายเป็นการดูแลที่ต่อเนื่องมากกว่าเดิม

การกินยาทุกวัน ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง มันอาจไม่ใช่แค่เรื่องวินัย แต่เป็นเรื่องของพลังใจที่ค่อยๆ ร่อยหรอ เมื่อทุกวันคือการเริ่มต้นใหม่ และการกินยาคือเครื่องหมายของความเจ็บป่วยที่ยังอยู่

นั่นคือเหตุผลที่ทีมนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และสตาร์ตอัป Lyndra Therapeutics ลงมือพัฒนา “ยาเม็ดเดียวต่อสัปดาห์” เพื่อให้การดูแลตัวเองไม่ต้องทำซ้ำซากทุกเช้า และไม่ใช่ภาระในทุกวัน

จิโอวานนี ทราเวอร์โซ  (Giovanni Traverso) หัวหน้าทีมวิจัยจาก MIT เปิดเผยว่า เทคโนโลยีนี้ตอบโจทย์ปัญหาใหญ่ของระบบสาธารณสุข คือ การที่ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมักลืมกินยาหรือหยุดกินยาด้วยตนเอง ซึ่งส่งผลให้อาการกำเริบและต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลซ้ำ

แคปซูลดังกล่าวบรรจุยาริสเพอริโดน (Risperidone) ซึ่งเป็นยามาตรฐานในการรักษาโรคจิตเภท (Schizophrenia) เมื่อผู้ป่วยกลืนแคปซูลเข้าไป โครงสร้างพิเศษภายในจะกางตัวออกเป็นรูปดาวหกแฉกในกระเพาะอาหาร ทำให้แคปซูลไม่สามารถผ่านไปยังลำไส้เล็กได้ทันที โดยระหว่างที่ค้างอยู่ในกระเพาะ แคปซูลจะค่อยๆ ปล่อยยาออกมาในปริมาณคงที่ตลอด 7 วัน จากนั้นโครงสร้างดาวจะเริ่มสลายตัวและถูกขับออกจากร่างกายตามปกติ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ

ปกติแล้วยาริสเพอริโดน ผู้ป่วยจะต้องกินทุกวัน หรือไม่ก็ต้องเข้ารับการฉีดทุก 2 - 8 สัปดาห์ แต่การฉีดยาไม่ใช่ทางเลือกที่ทุกคนสะดวกใจ และการกินทุกวันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอาการด้านความจำ สมาธิ หรืออารมณ์ที่แปรเปลี่ยนไม่แน่นอน

การศึกษาทางคลินิกระยะสุดท้าย (Phase III) ดำเนินการกับผู้ป่วย 83 รายในสหรัฐ แสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจ โดยระดับยาในเลือดของผู้ป่วยคงที่ตลอด 5 สัปดาห์ของการติดตาม และอาการทางจิตเวชยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

ผลข้างเคียงที่พบมีเพียงกรดไหลย้อนและอาการท้องผูกเล็กน้อยในช่วงแรก ซึ่งหายไปเองโดยไม่ต้องหยุดการรักษา สัดส่วนผู้ป่วยที่ปฏิบัติตามการรักษาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการกินยาแบบทุกวัน

ทีมวิจัยกำลังเตรียมเอกสารยื่นขออนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) คาดว่าจะได้รับอนุมัติภายในปี 2027 - 2028 หากผ่านกระบวนการตรวจสอบเรียบร้อย

นอกจากยารักษาโรคจิตเภทแล้ว Lyndra Therapeutics วางแผนพัฒนาเทคโนโลยีเดียวกันนี้กับยาประเภทอื่น รวมถึงยาคุมกำเนิด ยาต้านไวรัส และยารักษาโรคเรื้อรังต่างๆ เพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมผู้ป่วยกลุ่มอื่น

ตลาดยาจิตเวชขยายตัวต่อเนื่อง คาดโต 57% ในรอบ 8 ปี

ตามรายงานของ Straits Research บริษัทวิจัยตลาดและให้คำปรึกษา ระบุว่า ตลาดยาโรคจิตเภททั่วโลกกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นคง เริ่มต้นที่ปี 2024 ตลาดมีมูลค่าอยู่ที่ 7.88 พันล้านดอลลาร์ และปี 2025 นี้ คาดว่าจะขยายตัวเป็น 8.28 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเติบโตประมาณ 5% ในหนึ่งปี

บริษัทวิจัยคาดว่าภายในปี 2033 ตลาดจะขยายตัวไปถึง 12.33 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่าในช่วง 8 ปีข้างหน้า ตลาดจะเติบโตเกือบ 57% จากขนาดปัจจุบัน

อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 5.10% การเติบโตในระดับนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการยาที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้น การรับรู้และการเข้าถึงการรักษาที่ดีขึ้น รวมถึงการพัฒนายาใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

อ้างอิง: MIT และ New Atlas