จริยธรรมเอไอ อยู่ที่เราหรืออัลกอริธึม | คิดอนาคต

จริยธรรมเอไอ อยู่ที่เราหรืออัลกอริธึม | คิดอนาคต

AI หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้น และกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกช่วงชีวิต ตั้งแต่การเรียน การทำงาน ไปจนถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคม

เราไม่อาจมองเอไอเป็นเครื่องมือที่ไร้จิตใจได้อีกต่อไป เพราะทุกวัน AI เข้ามามีบทบาทตัดสินใจแทนเรามากขึ้น โดยที่เราอาจไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

ในการประชุมระดับโลกอย่าง Global Forum on the Ethics of AI 2025 ที่จัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ คำถามหนึ่งที่กำลังถูกหยิบยกขึ้นมาคือ “เรากำลังออกแบบเอไอเพื่อควบคุมโลก หรือเพื่ออยู่ร่วมกับโลกใบนี้อย่างเข้าใจ?” มนุษย์คือผู้สร้างเอไอ แล้วมนุษย์จะรับผิดชอบต่อสิ่งที่สร้างขึ้นมาอย่างไร? เพราะเอไอไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่มนุษย์ใส่ข้อมูล ภาษา และทัศนคติของตนลงไปในระบบเหล่านี้ สิ่งที่เอไอแสดงออก จึงสะท้อนกลับมาถึงค่านิยมของเรา

Yuval Harari เคยชี้ให้เห็นว่าเอไอถูกออกแบบมาเพื่อให้รู้สึกว่าเข้าใจเราราวกับเป็นเพื่อนสนิท เอไอเรียนรู้จากพฤติกรรมของมนุษย์ และตอบสนองด้วยกลไกที่ทำให้เราอยากอยู่กับเอไอนานๆ ผ่านการกดไลก์ คำชม หรือการแนะนำที่ตรงใจ

ยิ่งเราเชื่อในประสิทธิภาพและการแข่งขันมากเท่าไร ระบบก็จะยิ่งทำงานแบบนั้นมากขึ้น แต่ถ้าเราให้ความสำคัญกับความเปราะบาง ความเข้าใจ และความหลากหลาย เอไอก็อาจถูกออกแบบให้เห็นมนุษย์ในแง่มุมที่ลึกซึ้งกว่าเดิม

นักคิดอย่าง Abeba Birhane เสนอว่า การออกแบบเอไอควรเริ่มจากการยอมรับว่า “ความไม่แน่นอน” เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องลบหรือควบคุม เธอชวนให้มองจริยธรรมไม่ใช่แค่กฎเกณฑ์ แต่คือความสัมพันธ์ การฟัง และการเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอเรียกว่า “จริยธรรมเชิงสัมพันธ์”

แนวคิดที่ยืนยันว่าเอไอไม่ใช่เพียงเรื่องของอัลกอริธึม แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรู้สึก อำนาจ และความเปราะบางในสังคม ถ้าเราสร้างเอไอโดยไม่ใส่ใจความเป็นมนุษย์ที่เปราะบางและซับซ้อน มันก็จะยิ่งตอกย้ำอคติและความไม่เป็นธรรมในสังคมแทนที่จะเยียวยามัน

 

ปัญหาคือ เราแทบไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนออกแบบเอไอ และที่สำคัญ เอไอกำลังเปลี่ยนเราอย่างไร ในประเทศไทยเริ่มเห็นระบบเอไอที่ใช้ในการคัดกรองแรงงาน ตัดสินใจให้สินเชื่อหรือจัดอันดับพนักงานส่งอาหาร แต่ผู้ใช้กลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเบื้องหลัง ไม่รู้ว่าผู้ออกแบบใช้ข้อมูลอะไร ตัดสินอย่างไร และจะคัดค้านได้หรือไม่ บ่อยครั้ง เรายัง “ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไม่รู้” เพราะสิ่งที่เห็นถูกปรับแต่งให้รู้สึกว่านี่คือเรื่องปกติโดยที่ไม่มีโอกาสได้ตั้งคำถาม

การไว้ใจระบบที่ไม่เปิดเผย อาจอันตรายกว่าที่คิด แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้สร้างความเชื่อมั่นต่อเอไอ แต่หากเป็นความเชื่อมั่นที่ไม่ได้เปิดพื้นที่ให้คนตัวเล็กในสังคมพูด ความไว้ใจนั้นก็อาจกลายเป็นความเงียบที่กดทับมากกว่าการยอมรับอย่างแท้จริง

สิ่งที่เรียกว่ายุติธรรมหรือปลอดภัยไม่ควรถูกนิยามจากมุมมองของคนกลุ่มเดียว แต่ควรเปิดทางให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้ามาร่วมกำหนดนิยามเหล่านั้นด้วย

คำถามจึงกลับมาว่า เราจะออกแบบอนาคตของเอไออย่างไร? หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้มองเห็นความซับซ้อนของอนาคตได้ คือ Reflexive Foresight Matrix ซึ่งชวนให้พิจารณาแรงผลักดัน 3 ด้านไปพร้อมกัน 

ด้านแรกคือโครงสร้าง เช่น กฎหมายและนโยบาย ที่หลายครั้งถูกออกแบบจากส่วนกลาง โดยขาดการรับฟังเสียงของกลุ่มชายขอบ แม้ประเทศไทยจะมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แต่ก็ยังไม่มีมาตรการควบคุมการใช้เอไอที่มีอำนาจตัดสินใจแทนมนุษย์ ผู้ใช้งานไม่มีสิทธิขอคำอธิบายจากระบบ แม้จะได้รับผลกระทบโดยตรง โครงสร้างทางกฎหมายจึงยังไม่พร้อมสำหรับยุคที่เอไอกลายเป็นกลไกกำกับชีวิตคน

 

ด้านที่สองคือวัฒนธรรม ซึ่งมักยกย่องความมีประสิทธิภาพเป็นคุณค่าหลักของสังคม เราให้ความสำคัญกับความเร็ว ความแม่นยำ และผลลัพธ์ที่จับต้องได้ จนอาจลืมไปว่า การทำงานของมนุษย์มีสิ่งที่เครื่องจักรไม่มี เช่น อารมณ์ ความลังเล และความเข้าใจในความซับซ้อนของมนุษย์ด้วยกัน

แรงงานเริ่มรู้สึกว่าตนเองด้อยค่ากว่าเครื่องจักร และพยายามแข่งขันกับระบบ มากกว่าจะเรียนรู้ร่วมกับเอไอ วัฒนธรรมนี้ยิ่งตอกย้ำแนวคิดเรื่องผลิตภาพแบบเส้นตรง ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับชีวิตจริงของคนส่วนใหญ่

ด้านสุดท้ายคือพลังในการกระทำ หรือ agency หมายถึงศักยภาพของแต่ละคนในการเลือก ตั้งคำถาม หรือต่อต้านระบบที่ไม่เป็นธรรม ไม่ใช่แค่อิสระในเชิงทฤษฎี แต่คือความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม หรือแม้แต่กำหนดนิยามใหม่ให้กับสิ่งที่เรายึดถือเป็นปกติในโลกที่เอไอกำลังนิยามสิ่งเหล่านั้นแทนเรา

เมื่อสามด้านนี้ไม่สมดุลกัน เช่น มีเทคโนโลยีแต่ขาดวัฒนธรรมแห่งความเข้าใจ หรือมีกฎหมายแต่ไม่มีพื้นที่ให้คนทักท้วง อนาคตที่สร้างขึ้นก็อาจกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่มีใครอยากอยู่

คำถามสุดท้ายจึงชัดขึ้นเรื่อยๆ เราอยากอยู่ในโลกที่มนุษย์ถูกกำหนดโดยอัลกอริธึมหรือไม่? การตัดสินใจของเราวันนี้จะหล่อหลอมคำว่าความเป็นมนุษย์ในวันข้างหน้า ถ้ายอมรับว่าเอไอเป็นส่วนหนึ่งของเรา เราก็ย่อมต้องรับผิดชอบต่อมัน ทั้งในฐานะผู้สร้าง ผู้ใช้ และผู้ที่อยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกัน อนาคตจริยธรรมของเอไอจึงอยู่ที่ว่าเราจะกล้าร่วมกันออกแบบอย่างไร

 

จริยธรรมเอไอ อยู่ที่เราหรืออัลกอริธึม | คิดอนาคต