โชว์ความล้ำ! กับงานวิจัยใช้ได้จริง ในงาน “วันนักประดิษฐ์ 2568”

โชว์ความล้ำ! กับงานวิจัยใช้ได้จริง ในงาน “วันนักประดิษฐ์ 2568”

โชว์ความล้ำ! กับ 2 งานวิจัยใช้ได้จริงในงาน “วันนักประดิษฐ์ 2568” “ระบบจัดการจราจรอวกาศ” รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ระดับดี รางวัลการวิจัยแห่งชาติ 2568 และโครงการ “Smart Safety Zone 5G เพื่อการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนน” รางวัล Best International Invention Award จากโรมาเนีย

KEY

POINTS

  • 2 กุมภาพันธ์   “ วันนักประดิษฐ์ ” ของไทย  เพื่อน้อมรำลึกถึงวันประวัติศาสตร์ในการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรการประดิษฐ์ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช   ซึ่งเป็นการออกสิทธิบัตรแด่พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลก
  • “ระบบจัดการจราจรอวกาศ” (ZIRCON) จาก GISTDA  ใช้ในการแจ้งเตือนโอกาสการชนระหว่างดาวเทียมของไทย กับวัตถุอวกาศ ในวงโคจรใกล้เคียงกัน
  • โครงการ “ Smart  Safety  Zone 5G  เพื่อการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนน”  เป็นการพัฒนาระบบเฝ้าระวังอัจฉริยะ สําหรับการสืบสวนอุบัติเหตุบนท้องถนน  
  • ปัจจุบันโครงการได้ติดกล้องไปแล้ว 56 ตัว  ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดีจากประชาชนที่รู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น 

2 กุมภาพันธ์   “วันนักประดิษฐ์ ” ของไทย  เพื่อน้อมรำลึกถึงวันประวัติศาสตร์ในการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรการประดิษฐ์ “เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย” หรือ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” แด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  

ซึ่งเป็นการออกออกสิทธิบัตรแด่พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลก และทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย”

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช.  ได้จัดงาน “วันนักประดิษฐ์” ขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี 

โชว์ความล้ำ! กับงานวิจัยใช้ได้จริง ในงาน “วันนักประดิษฐ์ 2568”

ในปีนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 26  ภายใต้แนวคิด  “สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมไทย: ความท้าทายของประเทศ” มีหน่วยงานด้านการประดิษฐ์คิดค้นทั้งใน และต่างประเทศ  นำผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมเข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการกว่า 2,000 ผลงาน  

วันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2568  หรือ Thailand Inventor’s Day 2025  จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 6 กุมภาพันธ์ 2568 เข้าชมฟรี...ที่  Event Hall 102 – 104  ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ   กล่าวว่า   วช. พร้อมส่งเสริม และสนับสนุนบุคลากรในการวิจัยและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์-นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ  เพื่อนำผลงานไปสู่การร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

งานวันนักประดิษฐ์  ถือเป็นเวทีระดับชาติที่เปิดโอกาสให้ผลงานด้านการประดิษฐ์คิดค้นของคนไทยได้รับการเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนอย่างกว้างขวาง 

โชว์ความล้ำ! กับงานวิจัยใช้ได้จริง ในงาน “วันนักประดิษฐ์ 2568”

อีกทั้งยังเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการประดิษฐ์คิดค้น การวิจัย และนวัตกรรม ระหว่างนักประดิษฐ์ไทยกับนักประดิษฐ์จากนานาชาติ  ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนและนักประดิษฐ์รุ่นใหม่ ในการพัฒนาผลงานที่มีคุณภาพและศักยภาพสูงยิ่งขึ้นไปในอนาคต

ในปีนี้  นิทรรศการที่น่าสนใจนอกจาก “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ แล้ว ยังมีนิทรรศการแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม จาก 6 กลุ่ม   นิทรรศการรางวัลการวิจัยแห่งชาติ นิทรรศการสิ่งประดิษฐ์สู่การใช้ประโยชน์  มหกรรมสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมนานาชาติ (IPITEx2025)  

และยังมีเวทีการประกวดที่จะกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนที่มีความสามารถในด้านการประดิษฐ์คิดค้น ให้สร้างผลงานและสามารถต่อยอดไปใช้ประโยชน์ในมิติ ต่าง ๆ ได้

โชว์ความล้ำ! กับงานวิจัยใช้ได้จริง ในงาน “วันนักประดิษฐ์ 2568”

  ทั้ง “ I-New Gen Award 2025” การประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับเยาวชน ในระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษาและอุดมศึกษา   และที่พิเศษ  ก็คือ “การประกวดโครงงานนักประดิษฐ์รุ่นจิ๋ว  

หรือ I-New Gen Junior Award 2025 “  สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6  ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อวางรากฐานการเป็นนักคิดค้นตั้งแต่วัยเยาว์   

 สำหรับการจัดแสดงผลงานของนักวิจัยไทย  มีหลากหลายผลงานที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศ รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้กับการให้บริการด้านความปลอดภัยแก่ประชาชน   อย่างเช่น 

โชว์ความล้ำ! กับงานวิจัยใช้ได้จริง ในงาน “วันนักประดิษฐ์ 2568”

ผลงาน  “ระบบจัดการจราจรอวกาศ” ที่มีชื่อเรียกว่า “ ZIRCON” จากทีมวิจัยเทคโนโลยีอวกาศ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)   หรือ  GISTDA 

ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการแจ้งเตือนโอกาสการชนระหว่างดาวเทียมของไทย ทั้งดาวเทียมไทยโชต (THEOS -1) และดาวเทียม THEOS-2 กับวัตถุอวกาศ ในวงโคจรใกล้เคียงกัน   

ระบบ “ZIRCON (เซอร์คอน)”  ได้มีการใช้งานจริงตั้งแต่ปี 2563  จนถึงปัจจุบัน   ผลงานดังกล่าวได้รับรางวัล “ผลงานประดิษฐ์คิดค้น ระดับดี รางวัลการวิจัยแห่งชาติ”  ประจำปีงบประมาณ 2568

ดร.สิทธิพร ชาญนำสิน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเทคโนโลยีอวกาศ GISTDA  เปิดเผยว่า ระบบจัดการจราจรอวกาศ เดิมไทยต้องใช้บริการแจ้งเตือนจากต่างประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึงปีละ 6 ล้านบาทต่อดาวเทียม1ดวง และต้องรอการแจ้งเตือน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการตัดสินใจและวางแผนหลบเลี่ยงได้ล่าช้า

GISTDA จึงพัฒนา “ ZIRCON”  ระบบจัดการจราจรอวกาศ ขึ้น  เพื่อให้สามารถพึ่งพาตัวเองได้ ประหยัดค่าใช้จ่ายและมีความมั่นคง ปลอดภัย 

 โดยระบบฯ ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์   ซึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือ ซอฟต์แวร์ที่มีความแม่นยำสูง ที่พัฒนาโดยทีมวิจัยของ GISTDA    สามารถแจ้งเตือนการชนระหว่างกันในอวกาศได้ล่วงหน้า 7วัน และสามารถแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงที่วัตถุอวกาศจะตกลงในประเทศไทย 

และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีการเพิ่มขีดความสามารถในการคำนวณที่เร็วมากขึ้น  ทีมวิจัยได้มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ให้ “ ZIRCON”  สามารถตรวจสอบการชนของทุกวัตถุในอวกาศได้  ซึ่งมีตัวเลขประมาณการว่ามีกว่า 5 หมื่นชิ้นที่สามารถ Tracking ติดตามได้ ส่วนที่มีขนาดเล็ก และ Tracking ไม่ได้ มีเป็นจำนวนหลายล้านชิ้น  

ทำให้ภารกิจต่อไปของ ZIRCON นอกจากจะใช้กับดาวเทียมของ GISTDA เองแล้ว  ยังสามารถให้บริการการจัดการจราจรอวกาศ กับดาวเทียมดวงอื่น ๆ ได้ทั้งในประเทศไทยและในระดับนานาชาติ 

โชว์ความล้ำ! กับงานวิจัยใช้ได้จริง ในงาน “วันนักประดิษฐ์ 2568”

ส่วนอีกหนึ่งผลงานที่น่าสนใจ  ซึ่งมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน และมีการนำร่องใช้งานจริงแล้ว ก็คือ  โครงการ “ Smart  Safety  Zone 5G  เพื่อการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนน”  ผลงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ   

พ.ต.ท.หญิง ฐิติพร  เรืองรอด  รอง ผกก.วป.ผอ.  หนึ่งในทีมวิจัย เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าว พัฒนาต่อยอดมาจาก “ Smart  Saffty  Zone 4.0” ซึ่งได้รับทุนจาก วช. ตั้งแต่ปี 2564   มีการดำเนินการขยายผลอย่างต่อเนื่อง

  โดยเบื้องต้นนำร่องใน 3 สถานีตํารวจต้นแบบคือ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง  สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี และสถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ ต่อมาได้ขยายผลไปยังสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ  สถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน  และสถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน  

โครงการดังกล่าวเป็นการพัฒนาระบบเฝ้าระวังอัจฉริยะ สําหรับการสืบสวนอุบัติเหตุบนท้องถนน  ซึ่งจะมีการติดกล้องวงจรปิด ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ในจุดเสี่ยงที่มีการเกิดอุบัติเหตุสูงในแต่ละพื้นที่ เพื่อใช้สําหรับการตรวจจับและเฝ้าระวังอุบัติเหตุบนท้องถนนที่จะเกิดขึ้น 

ข้อมูลที่ได้จะส่งผ่านระบบอินเทอร์เน็ตไปประมวลผลและแสดงผลไปยังพื้นที่ความรับผิดชอบของสถานีตํารวจนั้น ๆ   

ทั้งนี้การพัฒนาระบบได้มีการนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้ในการวิเคราะห์ สืบสวน ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม  เช่น สามารถสืบค้นผู้ต้องสงสัย  แจ้งเตือนเมื่อมีการข้ามเส้น ข้ามเขตเข้าในพื้นที่เป้าหมาย  ตรวจจับวัตถุต้องสงสัย ตรวจจับใบหน้าและทะเบียนรถ  และสามารถควบคุมกล้องส่องระยะไกล  

ปัจจุบันโครงการได้ติดกล้องไปแล้ว 56 ตัว  ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดีจากประชาชนที่รู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น และได้รับการอำนวยความยุติธรรมในด้านการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน 

ผลงานนี้คว้ารางวัลสิ่งประดิษฐ์นานาชาติดีเด่น  และอีกหลายรางวัลจากงานแสดงนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติ “ EURO POLITEHNICUS 2024” ที่ประเทศโรมาเนีย เมื่อ 22-24 พฤศจิกายน 2567.

โชว์ความล้ำ! กับงานวิจัยใช้ได้จริง ในงาน “วันนักประดิษฐ์ 2568”