บ.เทคฯ สิงคโปร์ ชี้ คนที่ใช้ AI เป็น มีโอกาสได้งานมากกว่าคนที่ใช้ไม่เป็น

บ.เทคฯ สิงคโปร์ ชี้ คนที่ใช้ AI เป็น มีโอกาสได้งานมากกว่าคนที่ใช้ไม่เป็น

บริษัทเทคฯ จากสิงคโปร์ เผยว่า เอไอไม่ได้เข้ามาแย่งงานมนุษย์ แต่คนที่ใช้เอไอไม่เป็นต่างหาก เสี่ยงถูกคนที่ใช้เอไอเป็นแย่งงาน

“AI จะไม่แย่งงานคุณ แต่คุณอาจถูกคนที่ใช้ AI เป็น แย่งงานแทน” ลอเรนส์ หลิว ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์จาก AI Singapore กล่าวไว้ระหว่างการอภิปรายงาน Salesforce’s World Tour Essentials

ยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทสำคัญกับหลายอุตสาหกรรม ผลสำรวจจาก Microsoft Work Trends Index ประจำปี 2024 ระบุว่า 45% ของพนักงานกังวลว่าเอไอจะมาแทนที่งานของพวกเขา แต่ 55% ของผู้นำองค์กรส่วนใหญ่ กลับกังวลเรื่องการขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถด้านเอไอ เพราะเชื่อว่าเอไอรักษาความสามารถในการแข่งขันได้

ผลสำรวจยังชี้ว่า อีก 71% ของผู้นำ ยินดีรับพนักงานที่มีประสบการณ์น้อย แต่มีทักษะด้านเอไอมากกว่าคนที่มีประสบการณ์โชกโชนแต่ไม่มีทักษะด้านเอไอเลย

หมุดหมายต่อไป เมื่อเอไอเข้ามาแล้ว เราจะนำมันมาปรับใช้เพื่อเพิ่มทักษะของตนเองอย่างไร รายงานจากสำนักข่าว CNBC Make It อธิบายว่า ทักษะที่สำคัญที่พนักงานทั่วโลกควรมีในยุคเอไอคือ ทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) 

เพราะส่วนใหญ่ คนมักเรียนรู้เอไอด้วยตนเอง ซึ่งมันเป็นเสมือนดาบสองคม หลิวเน้นย้ำว่า “ต้องระมัดระวังกับการใช้เครื่องมือ Large Language Models (LLMs) ที่ทำหน้าที่ ระบุ สรุป แปล พยากรณ์ และสร้างข้อมูล โดยใช้ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT ของ OpenAI, Copilot ของไมโครซอฟท์ และ Gemini ของกูเกิล การป้อนข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน ให้กับเอไอไม่ใช่เรื่องที่ดี” 

หลิวยังแสดงทัศนะเพิ่มอีกว่า ผู้คนมักใช้ ChatGPT ผิดวิธี เพราะหน้าตาเหมือนกับการค้นหาข้อมูลบนกูเกิล แต่จริง ๆ แล้ว มันไม่ใช่ เคล็ดลับสำคัญของการทำงานกับ LLMs คือ การตั้งคำถามหรือคำสั่ง (prompts) อย่างชัดเจน และให้ข้อมูลแก่เอไอมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“คุณต้องคลุกคลีกับเอไอเยอะ ๆ คิดซะว่าเอไอเป็นเด็กฝึกงานที่ขยันมาก แต่ก็อาจจะทำผิดพลาดได้บ้าง ลองนึกภาพ ถ้าคุณสั่งงานเด็กฝึกงาน คงไม่สั่งเด็กฝึกงานแค่ประโยคเดียวแล้วจบ เพราะเด็กฝึกงานอาจงงว่าต้องทำอย่างไร เราใช้วิธีการค่อย ๆ อธิบายเป็นลำดับขั้นตอน เอไอก็เช่นเดียวกัน 

พนักงานยังคงต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญในสายงานของตนเอง แต่งานง่าย ๆ  อย่างการค้นหาข้อมูลจาก 20 ไฟล์ ตอนนี้เอไอสามารถทำแทนได้แล้ว ก็ให้มันทำแทน เอไอสามารถช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น ถึงแม้ว่าตอนนี้เครื่องมืเอไออาจดูเป็นของแปลกใหม่ แต่ภายในปีหน้าการใช้เอไอจะกลายเป็นเรื่องพื้นฐาน เหมือนกับการใช้โปรแกรมตรวจคำผิดใน Microsoft Word ที่หลายคนก็สามารถใช้เป็น”

อ้างอิง: cnbc make it