Unisus ช่วยอสังหาลดคาร์บอน ดันระบบ ‘น้ำดื่ม-แอร์’ ส่วนกลาง

Unisus ช่วยอสังหาลดคาร์บอน ดันระบบ ‘น้ำดื่ม-แอร์’ ส่วนกลาง

ยูนิซัส (Unisus) หนุนอสังหาฯ รักษ์โลกด้วย 2 โซลูชันวางระบบ ‘น้ำดื่ม-แอร์’ เป็นรูปแบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง ชูลดค่าใช้จ่าย-สู้วิกฤติโลกรวน เจ้าแรกของเมืองไทย

เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestias By MQDC) อภิมหาโปรเจกต์ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย เป็นภาคเอกชนรายแรกที่ใช้บริการจาก “ยูนิซัส” (Unisus) ในการออกแบบและติดตั้งระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางทั้งระบบน้ำดื่มและระบบทำความเย็น

โดยกำหนดแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือน พ.ย.2566 ขณะที่อีกหนึ่งโครงการคือ Cloud 11 โครงการมิกซ์ยูสบนถนนสุขุมวิทอยู่ระหว่างติดตั้งระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์

การสร้างระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางจะสร้างความแตกต่างได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็น ในแง่การลดขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดการใช้พลังงานโดยสิ้นเปลือง

อาทิ การวางระบบปรับอากาศและระบบน้ำดื่มให้แก่โครงการอสังหาฯ และอาคารมิกซ์ยูส ซึ่งมีผู้คนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก แม้จะเป็นเรื่องใหม่สำหรับเมืองไทย แต่หลายประเทศทั่วโลกใช้งานอย่างแพร่หลาย เพราะนอกจากจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรของผู้อยู่อาศัยแล้ว ยังลดค่าใช้จ่ายของโครงการได้อย่างมหาศาล

Unisus ช่วยอสังหาลดคาร์บอน ดันระบบ ‘น้ำดื่ม-แอร์’ ส่วนกลาง

ระบบผลิตความเย็น

เกชา ธีระโกเมน ประธานกรรมการบริษัทยูนิซัสฯ กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราตระหนักถึงภาวะวิกฤติทางสภาพอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโลกที่น่าอยู่และยั่งยืนขึ้น จึงเป็นที่มาของงานบริการออกแบบและติดตั้งระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง 2 โซลูชัน

คือ ระบบทำความเย็นและระบบบริหารจัดการน้ำดื่มแบบรวมศูนย์ สามารถลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40,000 ตันต่อปี และลดการใช้พลังงาน

โดยเฉพาะระบบผลิตความเย็น เป็นนวัตกรรมที่ใช้น้ำเย็นทำระบบปรับอากาศ จะผลิตจากเครื่องทำความเย็น (ชิลเลอร์) ในอาคารสาธารณูปโภคส่วนกลาง (Central Utility Plant: CUP) ส่งผ่านท่อส่งน้ำไปยังอาคารต่างๆ จากนั้นจะผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยนพลังงานสำหรับใช้ปรับอากาศในแต่ละพื้นที่ และเมื่อน้ำมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นก็จะไหลกลับไปยัง CUP เพื่อสร้างความเย็นอีกครั้ง

ระบบดังกล่าวช่วยให้เครื่องปรับอากาศในแต่ละห้องของอาคาร ใช้สารทำความเย็นในปริมาณที่น้อยลงโดยเหลือเพียงที่ชิลเลอร์ อีกทั้งลดความร้อนและเสียงรบกวนของคอนเพรสเซอร์

เพราะการใช้ระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ทำให้ไม่ต้องติดตั้งชุดคอยล์ร้อน ส่วนการคิดค่าพลังงานจะคิดตามการใช้งานจริงผ่าน Smart Meter ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถตรวจสอบพลังงานความเย็นที่ใช้ไปแบบเรียลไทม์ผ่านทางสมาร์ตโฟน

“ระบบปรับอากาศจากน้ำเย็นช่วยประหยัดพลังงานประมาณ 20% ขณะเดียวกันแอร์ติดตามบ้านทั่วไปจะลดใช้พลังงานได้ประมาณ 35% จากการจัดเก็บข้อมูล พบว่า ระบบดังกล่าวสามารถลดอัตราการปล่อยคาร์บอน 3.0-4.0 หมื่นตันคาร์บอน และลดอัตราการใช้พลังงานได้มากกว่าครึ่งของระบบทำความเย็นปกติ”

Unisus ช่วยอสังหาลดคาร์บอน ดันระบบ ‘น้ำดื่ม-แอร์’ ส่วนกลาง

น้ำดื่มแบบรวมศูนย์

ส่วนระบบบริหารจัดการน้ำดื่มแบบรวมศูนย์ มีการทำงานเดียวกันกับระบบผลิตความเย็น ผู้อยู่อาศัยในโครงการสามารถดื่มน้ำที่สดและสะอาด มาตรฐานสากลจากก๊อกน้ำภายในห้องส่วนตัวได้ทันที ด้วยการวางระบบจัดการน้ำผ่าน 3 องค์ประกอบ ได้แก่ โรงผลิตน้ำดื่ม เครือข่ายท่อส่งน้ำดื่ม และก๊อกน้ำดื่มอัจฉริยะที่แยกจากน้ำประปา 

น้ำดื่มจะถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีการกรองและฆ่าเชื้อโรคแบบหลายขั้นตอนตามมาตรฐาน NSF เพื่อให้ได้น้ำสะอาดบริสุทธิ์และสดใหม่ตลอดเวลา ทั้งนี้ น้ำดื่มจะไหลผ่านท่อสเตนเลสมาตรฐาน Food Grade ซึ่งติดตั้งระบบ UV Sterilizer เพื่อรักษาคุณภาพน้ำจากโรงผลิตมาถึงห้องพัก และที่ก๊อกน้ำอัจฉริยะก็มี UV Sterilizer ฆ่าเชื้อโรคอีกครั้ง

ระบบยังมีฟังก์ชันปล่อยน้ำทิ้งภายใน 24 ชั่วโมง หากเจ้าของห้องภายในอาคารหรือยูนิตนั้นๆ ไม่ได้ใช้น้ำ (ซึ่งเป็นผลมาจากการไม่อยู่ห้อง หรือไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ) เพื่อไม่ให้เกิดน้ำค้างท่อ เพื่อให้ผู้ใช้น้ำได้รับน้ำที่ผลิตสดใหม่ตลอดเวลา

“ข้อดีของระบบคือ ความสดและสะอาดปลอดภัยที่เทียบเท่าน้ำดื่มบรรจุขวด แต่สะดวกสบายกว่าการซื้อน้ำหรือการติดตั้งเครื่องกรองน้ำส่วนตัว เพราะไม่ต้องคอยสั่งซื้อหรือบำรุงรักษาเครื่องและเปลี่ยนไส้กรอง เช่นเดียวกับระบบผลิตความเย็น

ระบบนี้จะมีการคิดค่าน้ำดื่มตามการใช้งานจริงจาก Smart Meter โดยสามารถตรวจสอบปริมาณน้ำดื่มที่ใช้ไปแบบเรียลไทม์ และยังช่วยลดขยะบรรจุภัณฑ์จากการซื้อน้ำดื่มและเปลี่ยนไส้กรอง” เกชากล่าว

ลดการปล่อยคาร์บอนอย่างยั่งยืน

ด้าน กมล ตันพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูนิซัส กล่าวเสริมว่า บริษัทเล็งเห็นความสำคัญในการดำเนินธุรกิจแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าสู่การเป็นผู้นำด้าน District Utility System ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของเอเชีย สร้างสรรค์ระบบสาธารณูปโภคที่ขับเคลื่อนการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นลบอย่างเป็นรูปธรรม 

จึงมองหาการใช้พลังงานทดแทน การดักจับก๊าซคาร์บอนเพื่อไปสู่จุดที่เป็น Carbon Negative รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตกับบริษัทที่ต้องการชดเชยคาร์บอน เพราะปัจจุบันบริษัทดำเนินการตรวจวัดอัตราคาร์บอนที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีการชดเชยคาร์บอนที่ปล่อยออกไป เพื่อไม่ให้กระทบกับสิ่งแวดล้อม