Vision Pro กับกลยุทธ์ของ Apple | พสุ เดชะรินทร์

Vision Pro กับกลยุทธ์ของ Apple | พสุ เดชะรินทร์

สัปดาห์ที่แล้วข่าวในวงการธุรกิจและเทคโนโลยีที่สร้างกระแสไปทั่วโลก โดยเฉพาะกับสาวกของ Apple คือการเปิดตัว Vision Pro สินค้าตัวใหม่ล่าสุดที่ถือเป็นสินค้าในรูปแบบใหม่จริงๆ ในรอบ 8 ปี หลังจากที่ออก Apple Watch มาในปี 2558

ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของ Apple นี้ มีทั้งเสียงชื่นชมและตั้งข้อสงสัย ถ้าท่านผู้อ่านสนใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของ Vision Pro สามารถไปติดตามได้จากเพจของ Apple หรือสื่อทั้งหลายได้ สัปดาห์นี้อยากจะชวนมาดูในอีกมุมมองหนึ่งว่าการออก Vision Pro ของ Apple นั้นสอดคล้องกับกลยุทธ์หลักของ Apple อย่างไร

ลองมาทบทวนดูกลยุทธ์ของ Apple กันก่อน นักวิชาการหรือตำราต่างๆ ก็มักจะวิเคราะห์กลยุทธ์ของ Apple ออกมาในลักษณะที่คล้ายกัน โดยประกอบไปด้วย

  1. มุ่งเติบโตโดยการสร้างระบบนิเวศหรือ Ecosystem ที่ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของ Apple เชื่อมต่อและทำงานร่วมกันได้แบบไร้ตะเข็บ
  2. มุ่งพัฒนานวัตกรรมในสินค้าใหม่ๆ ที่มีลักษณะของการบูรณาการระหว่างเทคโนโลยีที่ทันสมัย การออกแบบที่สวยงาม และ ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน
  3. มุ่งเน้นการเติบโตในบริการมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลักษณะของแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น iCloud, Apple Music, Apple TV, Apple Pay เป็นต้น
  4. วางตำแหน่งสินค้าและบริการด้วยคุณภาพที่สูง เป็นแบรนด์ชั้นดี และราคาก็สูงด้วย
  5. ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้งาน

จากกลยุทธ์หลักๆ ทั้งห้าประการข้างต้น คำถามถัดมาคือ Vision Pro นั้นสอดคล้องกับกลยุทธ์หลักๆ ของ Apple หรือไม่? ซึ่งตอบแบบสั้นๆ ก็คือ “เป็น”

Vision Pro กับกลยุทธ์ของ Apple | พสุ เดชะรินทร์

Apple ไม่ได้มองว่า Vision Pro เป็นเพียงแค่แว่น AR/VR เท่านั้น แต่เป็นคอมพิวเตอร์ในรูปแบบใหม่ ที่ผสมผสานโลกดิจิทัลเข้ากับโลกจริงที่อยู่รอบตัว และทำให้โลกดิจิทัลไม่ถูกจำกัดด้วยหน้าจอสี่เหลี่ยมอีกต่อไป

มีสื่อมวลชนบางส่วนที่ได้รับเลือกให้ไปทดลอง Vision Pro และเสียงตอบรับล้วนออกมาในด้านบวกและตื่นเต้นทั้งสิ้น

ในมุมด้านกลยุทธ์ Vison Pro ตอบโจทย์กลยุทธ์ทั้ง 5 ข้อของ Apple ข้างต้นอย่างชัดเจน เช่น สามารถเชื่อมต่อและใช้งานกับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของ Apple ได้อย่างต่อเนื่องราบรื่น ทำให้ระบบนิเวศของ Apple สมบูรณ์ขึ้น ซอฟต์แวร์หลัก ใน Vision Pro ก็เป็นตัวเดียวกับที่มีในอุปกรณ์ของ Apple ทั้งหมด 

หรือการเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้มีโอกาสสัมผัสและทดลองต่างชื่นชมทั้งในด้านเทคโนโลยี คุณภาพ การออกแบบ และความสวยงาม หรือ การตั้งราคาสูงมาก ที่ 3,499 ดอลลาร์หรือไม่ต่ำกว่า 120,000 บาท ซึ่งก็เป็นการกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูงไปในตัว

Apple หวังว่าในอนาคต Vision Pro จะปฏิวัติและสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับทั้งโลกการทำงานและความบันเทิง จริงอยู่ที่ราคาเปิดตัวจะสูงมาก และเหมือนจะไม่ได้มีความต้องการใช้ในช่วงแรก

แต่ผลิตภัณฑ์ของ Apple ในอดีตหลายตัวก็เริ่มต้นที่การสร้างความต้องการใช้ให้เกิดขึ้น อย่างเช่น iPad ที่ก่อนหน้าจะเปิดตัวก็ไม่ได้มีความต้องการใช้เกิดขึ้น หรือเมื่อเปิดตัวแล้วก็มองว่าเป็นเพียงแค่อุปกรณ์เพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ประจำตัวของผู้บริหารจำนวนมาก

อาจจะมีข้อสงสัยว่าถ้าผลิตภัณฑ์ยังมีราคารที่สูง (มาก) อยู่ และกว่าจะวางจำหน่ายก็ต้นปีหน้า ทำไมรีบเปิดตัว? คำตอบน่าจะเป็นในเรื่องกลยุทธ์ของ Apple ที่เปิดตัวขึ้นมาก่อน เพื่อดึงดูดบรรดาผู้พัฒนาแอปให้พัฒนาแอปสำหรับ Vision Pro เพราะจากประสบการณ์ของ Apple ในอดีต

ผลิตภัณฑ์ใหม่จะเป็น The next big thing ได้จริงหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวฮาร์ดแวร์อย่างเดียว แต่จะต้องพร้อมและสมบูรณ์ไปด้วยซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันที่มาสนับสนุนเพื่อเติมเต็มระบบนิเวศให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

สุดท้ายก็ต้องจับตาดูกันนะครับว่า ในอนาคต Vision Pro จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ได้จริงหรือไม่ และเมื่อไร?