20 เครื่องในไทย! ส่องความเจ๋ง Nothing Phone (3a) Community Edition

20 เครื่องในไทย! ส่องความเจ๋ง Nothing Phone (3a) Community Edition

เจาะลึก "Nothing Phone (3a) Community Edition" สมาร์ตโฟนสุดเฟี้ยวที่ "แฟนคลับ" เป็นคนสร้าง มีแค่ 20 เครื่องในไทย

KEY

POINTS

  • Nothing Phone (3a) Community Edition เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นพิเศษที่พัฒนาร่วมกับคอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน มีจำนวนจำกัดเพียง 1,000 เครื่องทั่วโลก และนำเข้ามาจำหน่ายในไทยเพียง 20 เครื่องเท่านั้น
  • Nothing Phone (3a) Community Edition มีดีไซน์ตัวเครื่องโดดเด่น ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยียุค 90 และ 2000 มาในโทนสีเขียวฟอสฟอรัส (Phosphorescence) ที่ให้ความรู้สึกย้อนยุค
  • ไม่เพียงแค่ดีไซน์ แต่ซอฟต์แวร์ วอลเปเปอร์ และอุปกรณ์เสริมอย่าง "ลูกเต๋า" ก็เป็นผลงานการออกแบบจากคอมมูนิตี้ผู้ใช้งานจริง
  • Nothing Phone (3a) Community Edition วางจำหน่ายในไทยราคา 14,499 บาท (256GB) วันที่ 14 ธันวาคมนี้ ที่ Nothing Store One Bangkok ที่เดียวเท่านั้น

ปกติแล้วเรามักจะเห็นแบรนด์เทคโนโลยียักษ์ใหญ่เป็นผู้กำหนดทิศทางดีไซน์และฟีเจอร์ต่างๆ ให้เราใช้ฝ่ายเดียว แต่สำหรับ Nothing แบรนด์อินดี้สัญชาติอังกฤษที่มีปรัชญาการทำของให้คูลและแตกต่าง กลับเลือกที่จะทำในสิ่งที่ท้าทายกว่านั้นด้วยการเปิดตัว Nothing Phone (3a) Community Edition โปรเจกต์ที่ฉีกกฎการผลิตสมาร์ตโฟนแบบเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง เพราะนี่คือผลงานที่เกิดจากการระดมสมองและฝีมือของคอมมูนิตี้ผู้ใช้งานจริง ตั้งแต่ดีไซน์ตัวเครื่อง ซอฟต์แวร์ ไปจนถึงกลยุทธ์การตลาด

ความพิเศษของมือถือรุ่นนี้ความเป็นแรร์ไอเทมที่นักสะสมต้องตาลุกวาว เพราะถูกผลิตขึ้นมาเพียง 1,000 เครื่องทั่วโลก และโควตาสำหรับประเทศไทยนั้นมีเพียงแค่ 20 เครื่อง เท่านั้น

20 เครื่องในไทย! ส่องความเจ๋ง Nothing Phone (3a) Community Edition

ดีไซน์ที่พาเราย้อนเวลากลับไปสู่อนาคต

งานดีไซน์ฮาร์ดแวร์ของรุ่นนี้คือไฮไลต์ที่ต้องพูดถึงเป็นอันดับแรก ผลงานชนะเลิศจาก Emre Kayganacl ได้พาเราฉีกหนีจากความจำเจของสมาร์ตโฟนยุคปัจจุบัน ด้วยการหยิบจับกลิ่นอายความสุนทรีย์ของเทคโนโลยียุค 90 และปี 2000 มาปัดฝุ่นใหม่ ตัวเครื่องมาในโทนสีเขียวฟอสฟอรัส (Phosphorescence) ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพาในวัยเด็ก หรืออุปกรณ์ Gadget ยุคบุกเบิกที่ดูมีความ "Nostalgia" แต่ยังคงรักษาเส้นสายความล้ำสมัยแบบ Futuristic อันเป็นเอกลักษณ์ของ Nothing Phone (3a) เอาไว้อย่างครบถ้วน การเลือกใช้คู่สีและการจัดวางองค์ประกอบด้านหลังเครื่องทำให้มันดูโดดเด่นสะดุดตา และแตกต่างจากทุกรุ่นที่เคยมีมา

อินเตอร์เฟซที่ "คลีน" แต่มีกิมมิคซ่อนอยู่

เมื่อภายนอกเท่แล้ว ภายในก็ต้องไปในทิศทางเดียวกัน ซอฟต์แวร์ของ Nothing Phone (3a) Community Edition ได้ Jad Zock มาเป็นผู้รับผิดชอบงานดีไซน์หน้าจอล็อคสกรีนและวอลเปเปอร์ สิ่งที่น่าสนใจคือการออกแบบนาฬิกาบนหน้าจอที่ปรับแต่งได้ โดยใช้ฟอนต์ที่มีน้ำหนักหลากหลายระดับเพื่อลดความรกทางสายตา ช่วยให้ผู้ใช้งานโฟกัสกับข้อมูลสำคัญได้ทันทีโดยไม่รู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ยังมีความลับเล็กๆ ซ่อนอยู่แบบ Easter Eggs นั่นคือวอลเปเปอร์ชุดพิเศษที่มีให้เลือกถึง 4 เวอร์ชั่น ทั้งโทนสีน้ำเงินและสีม่วง ซึ่งถูกออกแบบมาให้เชื่อมโยงกับเลนส์กล้องหน้า สร้างมิติที่ลึกซึ้งระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้อย่างลงตัว

20 เครื่องในไทย! ส่องความเจ๋ง Nothing Phone (3a) Community Edition

"ลูกเต๋า" อุปกรณ์เสริมที่มีมากกว่าความสวยงาม

อีกหนึ่งความเซอร์ไพรส์ของโปรเจกต์นี้คืออุปกรณ์เสริมที่ไม่ใช่แค่เคสหรือหูฟัง แต่คือ "Dice" หรือลูกเต๋า ผลงานการออกแบบของ Ambrogio Tacconi และ Louis Aymond แนวคิดนี้ลึกซึ้งกว่าที่ตาเห็น เพราะลูกเต๋าเป็นสัญลักษณ์ที่อยู่คู่มนุษยชาติมากว่า 5,000 ปี สื่อถึงโอกาส กลยุทธ์ และการละเล่นร่วมกัน ซึ่งตรงกับคอนเซปต์ Community อย่างที่สุด ดีไซน์ของลูกเต๋านี้ใช้ฟอนต์ Ndot 55 อันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ผสานความแม่นยำเข้ากับสุนทรียะแบบจุดวงกลม สะท้อนให้เห็นว่าแม้แต่ของชิ้นเล็กๆ ก็เล่าเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ได้ 

การตลาดแบบ "Made Together" ที่ทุกคนคือเจ้าของ

สุดท้ายคือแคมเปญการตลาดที่ร้อยเรียงทุกอย่างเข้าด้วยกันภายใต้แนวคิด "Made Together" โดย Sushruta Sarkar แคมเปญนี้ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การขายของ แต่เป็นการเฉลิมฉลองพลังของความคิดสร้างสรรค์และการทำงานร่วมกันระหว่างแบรนด์กับแฟนคลับ มันคือการพิสูจน์ให้เห็นว่าเทคโนโลยีส่วนบุคคลควรถูกกำหนดโดยผู้ใช้งาน ไม่ใช่แค่นักลงทุนหรือผู้บริหาร การเปิดโอกาสให้คนทั่วไปมีส่วนร่วมตั้งแต่กระบวนการคิดไปจนถึงการขาย ทำให้ Nothing Phone (3a) Community Edition เป็นมากกว่าสินค้า แต่คือสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ยุคใหม่ระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค

ราคาและการวางจำหน่าย

สำหรับใครที่อยากครอบครองความลิมิเต็ดนี้ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เพราะ Nothing Phone (3a) Community Edition (ความจุ 256GB) จะวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วย ราคา 14,499 บาท โดยจะเปิดขายในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ ที่ Nothing Store One Bangkok เท่านั้น ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้หรือนักสะสม Gadget หายาก แนะนำให้รีบไปลงทะเบียนความสนใจล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ nothing.tech เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสสำคัญนี้