สะดวก+เสียงดี! 'Sennheiser HDB 630' หูฟังเสียงดีที่ไม่ต้องมีสาย

ประโยคที่ว่า "ถ้าอยากได้เสียงดีต้องเสียบสายเท่านั้น" กำลังจะกลายเป็นอดีต สำหรับชาว Audiophile หรือนักฟังเพลงสายลึก ปัญหาโลกแตกที่เราเจอมาตลอดคือต้องเลือกระหว่างความสะดวกคล่องตัวกับดีเทลเสียงที่ครบถ้วน แต่การเปิดตัวของ Sennheiser HDB 630 ในวันนี้ เหมือนเป็นการทุบกำแพงข้อจำกัดเดิมๆ ทิ้งไป ด้วยการนำเอามาตรฐานเสียงระดับ Reference Class มาใส่ไว้ในบอดี้ที่พกพาได้จริง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ต้องการเสพดนตรีคุณภาพสูงแบบ "High Fidelity" ได้ทุกที่ ไม่ว่าจะนั่งทำงานที่คาเฟ่หรือระหว่างการเดินทาง

KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที เห็นวิวัฒนาการของ Sennheiser มาตั้งแต่ตระกูล HD Series อันเลื่องชื่อ จนถึงโมเดลไร้สายยอดฮิตอย่าง Momentum 4 ต้องยอมรับว่า HDB 630 คือส่วนผสมที่กลมกล่อมที่สุดเท่าที่แบรนด์เคยทำมา ด้วยค่าตัวสองหมื่นเศษ จึงถูกวางตำแหน่งมาเพื่อคนที่จริงจังกับเรื่องเสียงแต่ไม่อยากแบก DAC/Amp พะรุงพะรัง หูฟังรุ่นนี้เป็นการหยิบเอาเทคโนโลยีเสียงระดับโปรจากโรงงานในไอร์แลนด์ มาผสานกับฟีเจอร์ยุคใหม่ได้อย่างแนบเนียน ใครที่เคยเมินหูฟังบลูทูธเพราะรู้สึกว่าเสียงยังไม่ใช่ เตรียมเปิดใจรับประสบการณ์ใหม่จากสิ่งเรากำลังจะเล่าได้เลย

ดีไซน์ Momentum 4 แต่หัวใจคือ Audiophile Made in Ireland

แม้ภายนอกของ Sennheiser HDB 630 จะดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยคล้ายกับรุ่น Momentum 4 ที่เน้นความสะดวกสบาย แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ Ear cup คือขุมพลังระดับตำนาน หัวใจสำคัญของรุ่นนี้คือ ทรานสดิวเซอร์ไดนามิกขนาด 42 มม. ที่ผลิตจากโรงงานล้ำสมัยในเมืองทูลลามอร์ ประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นฐานการผลิตเดียวกับหูฟังระดับท็อปของแบรนด์ การจูนเสียงของรุ่นนี้จึงฉีกแนวจากหูฟังตลาดทั่วไป โดยเน้นความใสสะอาดและความเที่ยงตรง (Fidelity) เป็นหลัก ให้เสียงกลางที่เนียนละมุน เสียงร้องสมจริง และไดนามิกที่ตอบสนองฉับไวราวกับฟังจากห้องมาสเตอร์

ในแง่สรีรศาสตร์ Sennheiser ตีโจทย์แตกด้วยการเลือกใช้วัสดุ Protein Leatherette จาก IDEATEX™ ประเทศญี่ปุ่นบริเวณแถบคาดศีรษะ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มสบายและความทนทาน ประกอบกับดีไซน์แบบปิด (Closed-back) ที่ช่วยกันเสียงรบกวนภายนอก ทำให้ HDB 630 เป็นหูฟัง Audiophile ที่ใส่แล้วไม่อยากถอด น้ำหนักเบาพอที่จะใส่ฟังเพลินๆ ได้ยาวนานโดยไม่ล้าหู ซึ่งหาได้ยากในหูฟังที่เน้นคุณภาพเสียงระดับนี้

เทคโนโลยี Crossfeed และการปรับจูนเสียงที่ก้าวข้ามขีดจำกัด

ไฮไลท์ที่ทำให้ Sennheiser HDB 630 น่าสนใจกว่าคู่แข่งคือฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์ที่ดึงเอาเทคโนโลยีจากรุ่นพี่ระดับเรือธงมาใช้ นั่นคือระบบ Crossfeed ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Sennheiser HE 1 ระบบนี้จะช่วยเกลี่ยสัญญาณเสียงซ้าย-ขวาให้ผสานกันอย่างนุ่มนวล สร้างมิติเสียง (Soundstage) ที่กว้างและโอบล้อมคล้ายกับการฟังเพลงผ่านลำโพงบ้านคุณภาพสูง ช่วยลดอาการล้าหูเมื่อฟังเพลงที่มีการแยกแชนเนลชัดเจนเป็นเวลานาน 

สำหรับสายที่ชอบปรับแต่งเสียงละเอียดๆ หูฟังรุ่นนี้มาพร้อม Parametric Equalizer แบบใหม่ที่เหนือชั้นกว่า EQ 5 แบนด์ทั่วไปในแอป Smart Control Plus คุณลงลึกปรับแก้ Bandwidth (ค่า Q), เลือกประเภทฟิลเตอร์ และจูนย่านความถี่ได้อย่างอิสระ ที่สำคัญคือการประมวลผลทั้งหมดเกิดขึ้นที่ตัวหูฟังโดยตรง ทำให้พรีเซ็ตเสียงที่คุณตั้งค่าไว้อย่างดีจะติดตามไปทุกที่ ไม่ว่าจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไหนก็ตาม และในอนาคตยังจะมีฟีเจอร์แชร์พรีเซ็ตผ่าน QR Code ให้คอมมูนิตี้ได้แลกเปลี่ยนแนวเสียงกันอีกด้วย

เสียงใสไร้รอยต่อ Wireless ที่เสียงดีเหมือน Wired

ต้องยอมรับว่า Sennheiser HDB 630 ปิดช่องโหว่เรื่องคุณภาพเสียงไร้สายได้อย่างชาญฉลาด ตัวหูฟังรองรับการเชื่อมต่อความละเอียดสูงผ่าน Bluetooth 5.2 และ aptX Adaptive ที่ให้ความเสถียรสูง แต่ทีเด็ดคือในกล่องแถม ดองเกิล USB Type-C มาให้ด้วย อุปกรณ์ตัวนี้จะช่วยปลดล็อกให้สมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณ (แม้รุ่นที่ไม่รองรับ Codec เทพๆ) ส่งสัญญาณเสียงความละเอียดสูงเข้าสู่หูฟังได้ทันที หรือถ้าอยากกลับสู่สามัญ ก็เสียบสาย USB-C หรือสาย Analog 3.5 มม. เพื่อฟังเพลงแบบ Hi-Res 24-bit / 96 kHz ได้เต็มสูบ

แบตเตอรี่อึดถึกทน

ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเตอรี่ไหล เพราะ Sennheiser HDB 630 ออกแบบมาให้ใช้งานได้ยาวนานถึง 60 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เรียกว่าชาร์จทีเดียวฟังได้ข้ามสัปดาห์ และถ้ารีบจริงๆ ระบบชาร์จเร็วเพียง 10 นาที ก็ให้คุณฟังต่อได้ยาวถึง 7 ชั่วโมง มาพร้อมระบบ Adaptive Noise Cancellation ที่ตัดเสียงรบกวนได้ขาด แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ และโหมดดูดเสียงภายนอกที่ชัดเจน เหมาะสำหรับพกพาไปเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกการเดินทาง

ราคาและการวางจำหน่าย

Sennheiser HDB 630 วางจำหน่ายแล้วในราคา 20,899 บาท หากอยากพิสูจน์ด้วยหูตัวเองว่า "Audiophile Wireless" ที่แท้จริงเป็นอย่างไร ไปทดลองฟังได้ที่งาน Audiophile Listening Session ร้านมั่นคงแก็ดเจ็ท สาขาสยามพารากอน วันนี้ถึง 22 พฤศจิกายน 2568