'Digital Tips Academy' เจาะกลยุทธ์ พลิกธุรกิจให้ 'รอดและรุ่ง' ในยุค AI

'Digital Tips Academy' เจาะกลยุทธ์ พลิกธุรกิจให้ 'รอดและรุ่ง' ในยุค AI

ยุคที่ “AI” กลายเป็นเงื่อนไขใหม่ของการแข่งขัน ผู้นำธุรกิจต้องกล้าที่จะตั้งคำถาม ออกแบบระบบ และมองเกมอนาคต “มัณฑิตา จินดา” ผู้ก่อตั้ง Digital Tips Academy ชี้ การพลิกธุรกิจยุค AI เริ่มจากการพลิกวิธีคิดของผู้นำ “เตรียมคน” ไม่ใช่ “ตัดคน”

KEY

POINTS

  • AI ไม่ใช่ความได้เปรียบ แต่คือความจำเป็นสำหรับธุรกิจ
  • การเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจาก "ผู้นำ" ที่กล้าเปลี่ยน และ "คน" ที่พร้อมเรียนรู้
  • กลยุทธ์สำคัญคือการ "เตรียมคน" ไม่ใช่ "ตัดคน" โดยเน้นพัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุค AI เช่น ความคิดสร้างสรรค์, การคิดเชิงวิพากษ์, ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) และความสามารถในการปรับตัว
  • สิ่งที่สร้างความแตกต่างให้ธุรกิจในยุค AI ไม่ใช่แค่การเข้าถึงเครื่องมือ แต่คือ "ความสามารถในการตั้งคำถาม" ที่ดีพอที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับองค์กร

“AI ไม่ใช่ความได้เปรียบ แต่คือความจำเป็น”

คำกล่าวจาก มัณฑิตา จินดา ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ Digital Tips Academy บนเวที SME Reinvention: พลิกธุรกิจให้รอดและรุ่งในยุค AI

เธอชี้ว่า การปรับตัวสู่ยุคใหม่ไม่ได้เริ่มจากเทคโนโลยี แต่เริ่มจาก “ผู้นำ” ที่กล้าเปลี่ยน และ “คน” ที่พร้อมเรียนรู้ เพื่อให้ธุรกิจใช้ AI สร้างการเติบโตอย่างมีจริยธรรมและยั่งยืน

วันนี้การใช้ AI กลายเป็นความจำเป็นสำหรับธุรกิจ ในฐานะผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจ คำถามสำคัญคือจะนำ AI มาช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไร

'Digital Tips Academy' เจาะกลยุทธ์ พลิกธุรกิจให้ 'รอดและรุ่ง' ในยุค AI

ปัจจุบัน การนำ AI มาใช้ในองค์กรมีการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากข้อมูลของแมคคินซีย์พบว่า ธุรกิจต่างๆ มีการนำ AI ไปใช้ในฟังก์ชันงานมากกว่าหนึ่งฟังก์ชันและแนวโน้มยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

มิติของการใช้งาน AI มีอยู่หลากหลาย ตั้งแต่การใช้งานในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการเป็นตัวเปลี่ยนเกม สร้างความเปลี่ยนแปลง และสร้างสิ่งใหม่ๆ

'Digital Tips Academy' เจาะกลยุทธ์ พลิกธุรกิจให้ 'รอดและรุ่ง' ในยุค AI

สำหรับบทบาทของผู้นำในยุค AI  ต้องให้ความสำคัญใน 3 เสาหลักคือ การออกแบบระบบ ตั้งคำถาม และมองเกมอนาคต

การพลิกธุรกิจให้รอดและรุ่งในยุค AI ต้องเริ่มจากผู้นำ เพราะการ Reinvent ธุรกิจจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีการ Reinvent ตัวผู้นำ

อีกทางหนึ่ง “เตรียมคน” ไม่ใช่เตรียม “ตัดคน” เพื่อให้เกิดการประยุกต์ใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่ไปกับการใช้อย่างมีจริยธรรมและความรับผิดชอบ

ทักษะที่จำเป็นในโลก AI

  • ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
  • การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking )
  • ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) และทักษะการสื่อสาร
  • ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy)
  • ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability)

ที่ผ่านมา ฟังก์ชันงานที่ AI สามารถสร้างผลกระทบและผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้สูงที่สุด คือ การตลาด การขาย รองลงมาคือ การวางกลยุทธ์, การเงิน, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ

ปัจจุบัน AI เข้ามาช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและประหยัดเวลาได้อย่างมหาศาล เช่น การสร้างสรรค์วิดีโอ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านคอนเทนต์และลดความจำเป็นในการจัดประชุม วางสคริปต์ หรือหาพรีเซนเตอร์จำนวนมาก

อีกประเด็นสำคัญที่ AI เข้ามาแก้ปัญหาได้อย่างดีคือ ช่องว่างระหว่างสิ่งที่องค์กรคิดว่าได้พัฒนาขึ้น กับสิ่งที่ลูกค้าได้รับ โดยเฉพาะด้าน “Personalization” หรือการนำเสนอเฉพาะบุคคล เกิดเป็น "Personalization at Scale" ที่สามารถส่งมอบได้ในวงกว้างมากขึ้น

จากการสำรวจพบว่า 71% ของผู้บริโภคต้องการให้แบรนด์มีการสื่อสารและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เป็น Personalization แต่มีเพียง 54% ของแบรนด์ที่สามารถทำได้จริง

มัณฑิตา วิเคราะห์ว่า ขณะนี้เป็นยุคที่ต้นทุนในการเข้าถึงคำตอบ และเครื่องมือ AI นั้นลดลงอย่างมาก ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้พอๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันฟรีหรือการลงทุนเพิ่มเติม

ดังนั้น สิ่งที่จะสร้างความแตกต่างและทำให้ธุรกิจเป็น “AI High Performers”  จึงไม่ใช่เพียงแค่การเข้าถึงเครื่องมือ แต่เป็น "ความสามารถในการตั้งคำถาม" ที่ดี ซึ่งจะต้องเป็นคำถามที่ใหญ่พอจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทั้งโลกและธุรกิจได้

ถึงเวลาที่จะต้องปรับเปลี่ยนมุมมอง จากการมอง AI เป็นเพียงเครื่องมือ ไปเป็นทรานส์ฟอร์เมชัน จากการทดลองไปเป็นการใช้ในระดับที่สเกลมากขึ้น และเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นเฉพาะด้านประสิทธิภาพ ไปสู่การเติบโตและอินโนเวชันมากขึ้น