พับแผนผุด 1,200 ศูนย์ดิจิทัลชุมชน "ไชยชนก" สั่งรื้อปรับใหม่ย้ำต้องคุ้มค่า

สดช. ระงับแผนตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชนเพิ่ม 1,200 แห่ง หลัง รมว.ดีอี “ไชยชนก ชิดชอบ” สั่งทบทวนความคุ้มค่า พร้อมปรับแนวทางพัฒนาให้เป็น “ศูนย์กลางเรียนรู้ดิจิทัลยุคใหม่” รองรับทักษะ AI และบริการภาครัฐออนไลน์ สานต่อภารกิจลดความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยีในชุมชน
KEY
POINTS
- "ไชยชนก ชิดชอบ" สั่งระงับแผนการจัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชนเพิ่มอีก 1,200 แห่ง
- ให้มีการทบทวนโครงการทั้งหมดเพื่อประเมินความคุ้มค่าในการลงทุน หลังจากโครงการดำเนินมากว่า 10 ปี และพฤติกรรมการใช้งานของประชาชนเปลี่ยนไป
- พบว่าศูนย์ฯ บางแห่งมีอัตราการใช้งานลดลง เนื่องจากประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ และเน็ตบ้านได้สะดวกขึ้น
- สดช. เตรียมรื้อแผนใหม่ โดยจะมุ่งเน้นการปรับปรุง และยกระดับศูนย์ดิจิทัลชุมชน 2,222 แห่งที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- แผนใหม่จะพัฒนาศูนย์ฯ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทักษะดิจิทัลขั้นสูง เช่น AI, การใช้ข้อมูล (Data Literacy) และความปลอดภัยไซเบอร์ แทนการเป็นแค่จุดให้บริการอินเทอร์เน็ต
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) เปิดเผยว่า สดช. เตรียมทบทวนแผนการจัดตั้ง “ศูนย์ดิจิทัลชุมชน” เพิ่มเติมอีก 1,200 แห่ง ตามแผนงานเดิม หลังได้รับนโยบายจากนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้ประเมินความคุ้มค่าของการลงทุน เนื่องจากโครงการนี้ดำเนินการมากว่า 10 ปีแล้ว จำเป็นต้องพิจารณาว่าศูนย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังตอบโจทย์การใช้งานของประชาชนหรือไม่
เขากล่าวว่า ในหลายพื้นที่ ศูนย์ดิจิทัลชุมชนมีบทบาทสำคัญในการเสริมทักษะเทคโนโลยี และเป็นแหล่งเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสำหรับประชาชนในชนบท แต่ขณะเดียวกัน บางศูนย์กลับมีอัตราการใช้งานลดลง เนื่องจากประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือหรือบริการเน็ตบ้านได้สะดวกขึ้น ทำให้ต้องมีการทบทวนว่า “ควรขยายต่อ” หรือ “ปรับปรุงของเดิมให้มีคุณค่ามากขึ้น”
ปัจจุบัน สดช. ได้จัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชนแล้ว 1,722 แห่งใน 77 จังหวัด และเปิดให้บริการเพิ่มอีก 500 แห่ง รวมเป็น 2,222 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้ “โครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์บริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง และเพื่อสังคม (USO) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล โดยศูนย์ฯ เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้ และฝึกอบรมทักษะดิจิทัล ให้บริการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตสาธารณะ และโครงข่ายความเร็วสูง
นายเวทางค์ กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ใหม่แต่ละแห่งใช้งบประมาณ 400,000 บาทต่อปี ซึ่งรวมถึงค่าอุปกรณ์ บุคลากร และการบำรุงรักษา ดังนั้นการขยายเพิ่มอีก 1,200 แห่งจึงต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมาก จำเป็นต้องมั่นใจว่าทุกแห่งจะสร้างประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน “รัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า การปรับปรุงศูนย์เดิมให้ตอบโจทย์ยุคดิจิทัลอัจฉริยะอาจให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนกว่าการขยายเพิ่มจำนวนเพียงอย่างเดียว” เขากล่าว
ทั้งนี้ สดช. อยู่ระหว่างจัดทำแผนยกระดับ “ศูนย์ดิจิทัลชุมชนยุคใหม่” ให้เป็นมากกว่าพื้นที่ใช้อินเทอร์เน็ต โดยจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การฝึกอบรมทักษะ AI, การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Literacy), การเรียนรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ และการเข้าถึงบริการภาครัฐผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Government Service) เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย
นอกจากนี้ สดช. ยังมีแผนร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เช่น ดีป้า (depa), กสทช., และผู้ให้บริการโทรคมนาคม เพื่อปรับโครงสร้างพื้นฐาน และเนื้อหาการเรียนรู้ของศูนย์ให้ทันสมัย เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ VR/AR สำหรับการเรียนรู้แบบเสมือนจริง และการนำระบบคลาวด์มาใช้ในการฝึกอบรมออนไลน์ เพื่อให้ศูนย์ดิจิทัลชุมชนเป็น “ประตูสู่โอกาสดิจิทัล” ของคนในทุกภูมิภาค
“ศูนย์ดิจิทัลชุมชนไม่ใช่เพียงจุดให้บริการ Wi-Fi แต่เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาคน สร้างความเท่าเทียม และเชื่อมต่อชุมชนไทยกับเศรษฐกิจดิจิทัลโลก” นายเวทางค์ กล่าวย้ำ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







