ใครๆ ก็บินได้! เจาะลึก 'DJI Neo 2' โดรนจิ๋ว 151 กรัม ที่ฉลาดล้ำ

เจาะลึก "DJI Neo 2" โดรนจิ๋วเบาเพียง 151 กรัม ที่เกิดมาเพื่อมือใหม่ พร้อมเซ็นเซอร์รอบทิศทาง ควบคุมด้วยท่าทาง เป็นโดรนเซลฟี่ที่ฉลาดที่สุด
KEY
POINTS
- DJI Neo 2 เป็นโดรนขนาดเล็กน้ำหนักเพียง 151 กรัม แต่มาพร้อมระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบทิศทาง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงที่ปกติมีในโดรนรุ่นใหญ่
- ออกแบบมาให้ทุกคนบินได้ง่าย โดยเน้นการควบคุมที่ไม่ต้องใช้รีโมต เช่น การสั่งงานด้วยท่าทาง (Gesture Control) การควบคุมด้วยเสียง และการขึ้น-ลงจอดบนฝ่ามือ
- มีกล้องคุณภาพสูงที่ถ่ายวิดีโอ 4K ได้สูงสุด 100fps พร้อมฟีเจอร์ติดตามตัว ActiveTrack ที่ฉลาดขึ้น และโหมด SelfieShot สำหรับการถ่ายภาพตัวเองโดยเฉพาะ
DJI ปล่อยของเด็ดออกมาอีกครั้ง กับการเปิดตัว DJI Neo 2 โดรนกล้องติดตามตัวที่กลับมาพร้อมนิยามใหม่ของคำว่า "บินง่าย" และ "ปลอดภัย" เป็นโดรนเซลฟี่ที่หลายคนคิดถึง แต่ได้รับการอัปเกรดแบบก้าวกระโดด ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาหวิวเพียง 151 กรัม แต่นี่คือครั้งแรกที่เราได้เห็นโดรนที่เบาและเล็กขนาดนี้ มาพร้อมกับระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบทิศทาง ซึ่งปกติเป็นฟีเจอร์ที่สงวนไว้สำหรับรุ่นใหญ่เท่านั้น
Neo 2 ไม่ได้เกิดมาเพื่อนักบินมือโปรที่ต้องการฟุตเทจระดับโปรดักชัน แต่ถูกสร้างมาเพื่อ "ทุกคน" เหมาะสำหรับพกพาไปเที่ยวกับครอบครัว, เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือทำคอนเทนต์ FPV สนุกๆ โดยถูกออกแบบมาให้เป็นกล้องติดตามตัวส่วนบุคคลที่ฉลาดล้ำ มีจุดขายสำคัญคือการควบคุมที่หลากหลายจนแทบไม่ต้องง้อรีโมต ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วยท่าทาง หรือแม้แต่การขึ้น-ลงจอดบนฝ่ามือ นี่คือโดรนที่พร้อมจะบันทึกทุกช่วงเวลาดีๆ ของคุณ โดยที่คุณไม่ต้องวุ่นวายกับการควบคุมที่ซับซ้อนอีกต่อไป
บินง่าย ปลอดภัย ไม่ต้องใช้รีโมต
หัวใจสำคัญของ DJI Neo 2 คือการ "ลดอุปสรรค" ในการบินสำหรับมือใหม่ DJI จัดเต็มระบบความปลอดภัยแบบ "ป้องกันสามชั้น" ประกอบด้วยระบบการมองเห็นรอบทิศทางแบบโมโนคิวลาร์, LiDAR ที่ด้านหน้า และระบบตรวจจับอินฟราเรดด้านล่าง ทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกันเพื่อตรวจจับสิ่งกีดขวางแบบเรียลไทม์ ทำให้การบินมั่นใจและปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการออกแบบที่รวมเอาที่ป้องกันใบพัดมาให้แบบรอบทิศทาง ทำให้มือใหม่ใช้งานได้อย่างไร้กังวล แต่ความเจ๋งที่แท้จริงคือวิธีควบคุม คุณปล่อยโดรนให้บินขึ้นจากฝ่ามือได้เลย และเมื่อถ่ายเสร็จ ก็มีฟีเจอร์ใหม่สุดคูลอย่าง "กลับสู่ฝ่ามือ" (Return to Palm) ที่โดรนจะระบุตำแหน่งฝ่ามือของเราและบินกลับมาลงจอดได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ การควบคุมด้วยท่าทาง (Gesture Control) ยังถูกยกระดับไปอีกขั้น คุณใช้ฝ่ามือข้างเดียวเพื่อควบคุมทิศทาง ซ้าย/ขวา หรือความสูง หรือใช้สองมือเพื่อสั่งให้โดรนบินเข้าใกล้หรือถอยห่าง โดยไม่ต้องแตะรีโมตเลย ยังไม่พอ Neo 2 ยังรองรับการควบคุมด้วยเสียง (Voice Control) ให้คุณสั่งงานผ่านสมาร์ตโฟนหรือหูฟังบลูทูธขณะกำลังทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ นี่คือการบินที่ง่ายดายและเป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ActiveTrack ที่ฉลาดขึ้น และโหมด SelfieShot ใหม่แกะกล่อง
ในฐานะโดรนติดตามตัว ฟีเจอร์ ActiveTrack ของ Neo 2 ได้รับการปรับปรุงให้ฉลาดขึ้นมาก มันเก่งกาจเป็นพิเศษในการถ่ายภาพที่ความสูงระดับต่ำ และการติดตามระหว่างทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเร็ว เช่น การวิ่ง หรือการปั่นจักรยาน โดยติดตามได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 12 m/s ในที่โล่ง และรองรับการติดตามถึง 8 ทิศทาง (รวมแนวทแยง) ทำให้ได้ช็อตที่ดูเป็นธรรมชาติและลื่นไหล ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน โดรนยังสลับไปโหมดติดตามด้านหลัง เพื่อให้ตัวแบบอยู่ในโฟกัสเสมอ
ฟีเจอร์เด็ดที่เปิดตัวใหม่คือ "SelfieShot" ที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพตัวเองโดยเฉพาะ ไม่ต้องง้อขาตั้งกล้องอีกต่อไป ผู้ใช้สลับระหว่างภาพครึ่งตัว, ภาพเต็มตัว และภาพระยะไกลได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้ หรือไปเที่ยวกับครอบครัว เพียงแค่แตะครั้งเดียว Neo 2 จะจัดองค์ประกอบภาพให้อัตโนมัติ และขยับกล้องหากจำเป็น เพื่อให้ได้ช็อตที่สมบูรณ์แบบที่สุด
สเปคกล้องจัดเต็ม และสมรรถนะการบินที่เกินตัว
แม้จะเป็นโดรนจิ๋ว แต่สเปคกล้องของ Neo 2 ก็ไม่ธรรมดา มันมาพร้อมเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1/2 นิ้ว ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2 พร้อมระบบกันสั่น 2 แกนใหม่ (ซึ่งน่าจะทำงานร่วมกับระบบกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์) เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดและมี noise ต่ำ แต่ไฮไลต์ที่แท้จริงคือความสามารถในการบันทึกวิดีโอ 4K ที่เฟรมเรตสูงสุดถึง 100fps ทำให้คุณสร้างสรรค์วิดีโอสโลว์โมชั่นที่เนียนตาและสวยงาม นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายวิดีโอแนวตั้งที่ความละเอียด 2.7K เอาใจสายโซเชียลเต็มที่ ด้านสมรรถนะการบินก็น่าประทับใจ ด้วยเวลาบินสูงสุด 19 นาที และความสามารถในการต้านแรงลมระดับ 5 ที่สำคัญคือมีหน่วยความจำภายในมาให้ถึง 49GB ทำให้การถ่ายโอนไฟล์ไปยังสมาร์ตโฟนผ่าน Wi-Fi ทำได้รวดเร็วสูงสุดถึง 80 MB/s โดยไม่ต้องใช้สายเคเบิลให้ยุ่งยาก
ทะยานสู่โลก FPV
Neo 2 ยังอัดแน่นด้วยโหมดถ่ายภาพอัจฉริยะที่ช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานระดับมืออาชีพได้ง่ายๆ ทั้ง QuickShots ที่มีโหมดคลาสสิกครบครันอย่าง Dronie, Circle, Helix และ Boomerang โหมด MasterShots ที่โดรนจะบินถ่ายและตัดต่อวิดีโอพร้อมเพลงประกอบให้เสร็จสรรพ , และ Dolly Zoom สำหรับสร้างเอฟเฟกต์ Hitchcock สุดตื่นตา แต่ทีเด็ดที่ทำให้ Neo 2 แตกต่างคือ มันไม่ได้ถูกจำกัดแค่การบินแบบทั่วไป ผู้ใช้จับคู่โดรนกับแว่นตา (Goggles) และตัวควบคุมการเคลื่อนไหว (Motion Controller) เพื่อสัมผัสประสบการณ์การบินแบบ FPV (มุมมองบุคคลที่หนึ่ง) ที่สมจริงและน่าตื่นเต้นได้ และสำหรับคนที่ยังต้องการบินไกล Neo 2 ก็ยังจับคู่กับรีโมตคอนโทรล DJI RC-N3 เพื่อให้ได้ระยะส่งสัญญาณไกลสุดถึง 10 กม. ได้เช่นกัน
ราคาและการวางจำหน่าย
DJI Neo 2 พร้อมให้สั่งซื้อแล้วตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ที่ DJI Experience Store และพาร์ตเนอร์ที่ได้รับอนุญาต โดยมีราคาเปิดตัวในไทยที่น่าสนใจมากๆ ดังนี้
- DJI Neo 2 (ชุดมาตรฐาน) ราคา 7,500 บาท
- DJI Neo 2 Fly More Combo (Drone Only) ราคา 9,300 บาท
- DJI Neo 2 Fly More Combo (ชุดคอมโบสุดคุ้ม) ราคา 12,600 บาท
- DJI Neo 2 Motion Fly More Combo (ชุดสำหรับสาย FPV) ราคา 18,300 บาท
ไปสัมผัสตัวจริงได้ที่ DJI Experience Store ทุกสาขา หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ (https://s.shopee.co.th/BLq)







