ขีดความสามารถดิจิทัลไทย 'ร่วง' สัญญาณอันตราย! ต้องเร่งปฏิรูปรับคลื่น AI

TMA เผยผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศทั่วโลก พบไทยร่วง 1 อันดับ สู่ที่ 38 “เทคโนโลยี” ตัวฉุด! ต้องเร่งปฏิรูปโครงสร้างรับมือยุค AI
KEY
POINTS
- ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของไทยประจำปี 2568 ร่วงลง 1 อันดับ มาอยู่ที่ 38
- สัญญาณเตือนถึงความไม่พร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI
- ปัจจัยหลักที่ฉุดอันดับโดยรวมคือ ด้าน "เทคโนโลยี" เนื่องจากคู่แข่งพัฒนาเร็วกว่า และการนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI มาใช้ยังล่าช้า
- อีกปัจจัยที่น่ากังวลคือ "ความพร้อมสำหรับอนาคต" สะท้อนความท้าทายในการปรับตัวด้านกฎระเบียบ และการใช้งานดิจิทัล โดยเฉพาะเรื่องลิขสิทธิ์ และความมั่นคงไซเบอร์
- งานเร่งด่วน ต้องเพิ่มการลงทุน R&D, แก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากร และปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
“ขีดความสามารถดิจิทัล” คือหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของการแข่งขันในยุคดิจิทัล “อันดับที่ร่วงลง” แม้เพียง 1 อาจไม่ใช่แค่ตัวเลขเล็กๆ แต่คือ สัญญาณเตือนว่าประเทศยังไม่พร้อมในการรับมือกับการ “เปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI” ที่กำลังพลิกโฉมเศรษฐกิจทั่วโลก
สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) เผยผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล "World Digital Competitiveness Ranking (WDCR)" ประจำปี 2568
โดยระบุว่า ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลถือเป็นหัวใจสำคัญของประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันเป็นองค์ประกอบในการสร้างความยืดหยุ่นของชาติเพื่อรับมือกับวิกฤติต่างๆ การกำหนดกรอบนโยบายดิจิทัลที่แข็งแกร่ง
รวมไปถึงการปรับแนวทางปฏิบัติด้านธุรกิจให้ยืดหยุ่น และการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะสูง คือ ปัจจัยจำเป็นในการเพิ่มศักยภาพของทุกประเทศในโลกยุคดิจิทัลที่เข้มข้นนี้
สำหรับประเทศไทยในปีนี้ ร่วงลง 1 อันดับสู่อันดับที่ 38 โดย “เทคโนโลยี” คือตัวฉุด! จำต้องเร่งปฏิรูปโครงสร้างรับมือยุค AI
ข้อมูลระบุว่า ปี 2568 ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 38 จาก 69 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งเป็นการลดลง 1 อันดับจากปีที่ผ่านมา
สาเหตุหลักของการลดลง มาจากการดิ่งลงอย่างมีนัยสำคัญของปัจจัยหลักด้าน เทคโนโลยี ซึ่งตกลงถึง 6 อันดับ จากอันดับที่ 23 ในปีก่อนหน้า มาอยู่ที่อันดับ 29 จากก่อนหน้านี้ปัจจัยด้านเทคโนโลยีนี้เคยเป็นจุดแข็งสำคัญของไทยมาก่อน
เมื่อพิจารณาปัจจัยย่อยภายใต้หมวดเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น กรอบกฎหมาย/กฎระเบียบ (Regulatory framework), เงินทุน (Capital), และกรอบโครงสร้างทางเทคโนโลยี (Technological framework) พบว่าอันดับลดลงทั้งหมด
เจาะลึก 3 ปัจจัยหลักฉุด 'ขีดความสามารถดิจิทัล' ไทย
1. ปัจจัยหลักด้านความรู้ (Knowledge) ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 37 ซึ่งถือว่าขยับดีขึ้น 3 อันดับ จากปีก่อนหน้าที่เคยอยู่อันดับ 40 การปรับตัวที่ดีขึ้นนี้มาจากปัจจัยย่อยด้านบุคลากรที่มีความสามารถ (Talent) และการฝึกอบรม และการศึกษา (Training and education)
2. ปัจจัยหลักด้านเทคโนโลยี (Technology) เป็นสาเหตุหลักที่ฉุดอันดับโดยรวมของประเทศ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 29 ซึ่งลดลงถึง 6 อันดับจากปีก่อนหน้าที่อยู่อันดับ 23
การลดลงครั้งนี้เกิดขึ้นกับปัจจัยย่อยภายใต้หมวดเทคโนโลยีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกรอบกฎหมาย/กฎระเบียบ (Regulatory framework), เงินทุน (Capital), และกรอบโครงสร้างทางเทคโนโลยี (Technological framework)
โดยจุดอ่อนสำคัญที่ฉุดอันดับในด้านเทคโนโลยีคือ การลงทุนภาคเอกชนด้าน AI ทว่าไม่ได้แปลว่าไทยถดถอย แต่เป็นเพราะประเทศคู่แข่งเร่งนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ได้รวดเร็วกว่า ทำให้ไทยเสียอันดับในเชิงเปรียบเทียบ
นอกจากนี้ ตัวชี้วัดเทคโนโลยีหลายด้านยังชะงักงัน เนื่องจากมีการเติบโตที่ไม่เพียงพอ เช่น การลงทุนด้าน R&D ที่ยังต่ำ และการนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI และระบบอัตโนมัติมาใช้ในอุตสาหกรรมยังล่าช้ากว่าที่ควร
3. ปัจจัยหลักด้านความพร้อมสำหรับอนาคต (Future readiness) ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 45 ซึ่ง ตกลงจากอันดับ 41 ในปีก่อน ปัจจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการปรับตัวด้านกฎระเบียบ และพฤติกรรมการใช้งาน โดยเฉพาะการละเมิดลิขสิทธิ์และกฎหมายความเป็นส่วนตัว และความมั่นคงไซเบอร์ และความพร้อมด้านอุปกรณ์
'4 สาเหตุหลัก' ฉุดรั้งขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีของไทย
การที่อันดับปัจจัยหลักด้าน "เทคโนโลยี" ของไทยลดลงอย่างมีนัยสำคัญในรายงาน WDCR 2025 มีสาเหตุหลักที่มาจากทั้งปัจจัยภายในประเทศ และความรวดเร็วในการพัฒนาของประเทศคู่แข่ง
- คู่แข่งพัฒนาเร็วกว่า: การที่อันดับลดลงไม่ได้แปลว่าประเทศไทยถดถอย แต่เป็นเพราะประเทศอื่นเร่งนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ได้รวดเร็วกว่า ทำให้ไทยเสียอันดับในเชิงเปรียบเทียบ
- ตัวชี้วัดเทคโนโลยีชะงักงัน: มีการเติบโตที่ไม่เพียงพอในหลายด้าน เช่น การลงทุนด้าน R&D ที่ยังต่ำ, การขาดแคลนนวัตกรรมใหม่ (เช่น สตาร์ตอัปยูนิคอร์น), และการนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI และระบบอัตโนมัติมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมยังล่าช้ากว่าที่ควร
- ช่องว่างทักษะบุคลากร: ประเทศประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานทั้งปริมาณและคุณภาพในสาขา STEM ซึ่งระบบการศึกษายังไม่สามารถผลิตบุคลากรได้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่
- อุปสรรคโครงสร้าง และกฎระเบียบ: แม้โครงสร้างพื้นฐานไอทีพื้นฐานของไทยจะอยู่ในระดับที่ดี แต่คุณภาพโครงสร้างที่ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมยังไม่เพียงพอ รวมถึงความซับซ้อนของระบบราชการ และความท้าทายในการนำนโยบายไปปฏิบัติจริง ทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีโดยรวมล่าช้า
ต้องเปลี่ยนผ่านสู่ 'เศรษฐกิจนวัตกรรม'
อันดับด้านความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลที่ค่อยๆ ตกลงส่งสัญญาณชัดเจนว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนผ่านจากการเน้นการใช้งานดิจิทัลพื้นฐาน ไปสู่การส่งเสริมเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และสร้างมูลค่าเพิ่มสูง
IMD ชี้ว่า ประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมได้รับอิทธิพลหลักจาก 3 ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน, บุคลากรที่มีความสามารถ, และกรอบกฎหมายที่รวดเร็ว ซึ่งอำนวยความสะดวกในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ และผสมผสาน ภาครัฐจึงควร:
- เพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างจริงจัง
- แก้ไขปัญหาช่องว่างด้านบุคลากรผ่านการปฏิรูปการศึกษาและโครงการพัฒนาทักษะ (Upskilling)
- ปรับปรุงกรอบกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับให้มีความคล่องตัว เพื่อดึงดูดและกระตุ้นการลงทุน และนวัตกรรมจากภาคเอกชน
ภูมิทัศน์การแข่งขันระดับโลก–อาเซียน
สำหรับการจัดอันดับในภาพรวม WDCR 2025 ชี้ว่า ความไม่แน่นอน และความซับซ้อนจะเพิ่มขึ้นสำหรับภาคธุรกิจ และรัฐบาลในการรับมือกับภูมิทัศน์การแข่งขันที่ท้าทายมากขึ้น
10 อันดับแรกของโลก
ประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลสูงที่สุด 10 อันดับแรก จาก 69 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจในปี 2568 ได้แก่
- สวิตเซอร์แลนด์
- สหรัฐ
- สิงคโปร์
- ฮ่องกง
- เดนมาร์ก
- เนเธอร์แลนด์
- แคนาดา
- สวีเดน
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- ไต้หวัน
ที่น่าสนใจ สิงคโปร์ ยังคงสถานะเป็น "ศูนย์กลางด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่ง" และเป็นผู้นำเดี่ยวในอาเซียนที่ติด Top 10 แม้ว่าอันดับจะร่วงลงจากอันดับ 1 ในปี 2567 โดยสิงคโปร์ทำคะแนนสูงสุดในปัจจัยหลักทั้งสามด้าน จุดแข็งที่โดดเด่นที่สุดคือ กรอบการกำกับดูแล (Regulatory framework) ที่ครองอันดับหนึ่งทั่วโลก
ที่น่าจับตามองยังมี "การแตกแยกทางภูมิรัฐศาสตร์" ที่กำลังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสามารถด้านดิจิทัลของแต่ละประเทศ
การแข่งขันทางดิจิทัลเปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอนที่ต้องวิ่งแข่งกับเวลา และคู่แข่ง หากไม่สามารถเร่งความเร็วในการสร้างนวัตกรรม และการลงทุนได้ทันท่วงที การที่อยู่นิ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่กำลังเร่งแซงขึ้นไป ก็เท่ากับว่ากำลังถอยหลังอย่างช้าๆ ในเวทีโลก
World Digital Competitiveness Ranking (WDCR) ประจำปี 2568 จัดทำโดย World Competitiveness Center ของ International Institute for Management Development (IMD) สวิตเซอร์แลนด์
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







