ดีอี–Google Cloud อัปสกิลเด็กไทย เปิดใช้ Google AI Pro ฟรี ตั้งเป้าขยายสู่คนไทย 5 ล้านคน

“ไชยชนก” เดินหน้าแผนลดความเหลื่อมล้ำดิจิทัล จับมือ Google Cloud เปิดสิทธิ์ใช้งาน “Google AI Pro” ฟรี 1 ปี สำหรับนักศึกษา พร้อมศึกษาเฟส 2 ขยายให้ประชาชนกว่า 5 ล้านคนเข้าถึง AI ระดับพรีเมียม ตั้งเป้ายกระดับศักยภาพบุคลากรไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่
KEY
POINTS
- กระทรวงดีอีร่วมมือกับ Google Cloud ประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ “AI เพื่อคนไทย” เพื่อยกระดับทักษะดิจิทัลและลดความเหลื่อมล้ำ
- เปิดโครงการมอบสิทธิ์ใช้งาน Google AI Pro ฟรีเป็นเวลา 1 ปี แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยสามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2568
- โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้เข้าถึงเครื่องมือ AI ระดับพรีเมียม ซึ่งปกติมีค่าบริการประมาณ 9,000 บาทต่อปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ดีอีตั้งเป้าหมายในระยะที่สองที่จะขยายโครงการให้ครอบคลุมคนไทยกว่า 5 ล้านคน เพื่อผลักดันให้เทคโนโลยี AI กลายเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำหรับทุกคน
- ความร่วมมือนี้ไม่เพียงมุ่งเน้นการเข้าถึงเทคโนโลยี แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ผ่าน Vertex AI และ Gemini Model
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ภายใต้การนำของ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการฯ เดินหน้าสานวิสัยทัศน์ “AI เพื่อคนไทย” จับมือ Google Cloud ประเทศไทยเปิดโครงการความร่วมมือ “ขยายโอกาสด้านเทคโนโลยีดิจิทัลด้วย AI” มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลและยกระดับศักยภาพคนรุ่นใหม่ ผ่านสิทธิ์ใช้งาน Google AI Pro ฟรี 1 ปี สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
โดยเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมจะเปิดถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2568 ซึ่งนับเป็นการเปิดประตูให้เยาวชนไทยได้เข้าถึงเครื่องมือ AI ระดับพรีเมียมที่มีค่าบริการปกติราว 9,000 บาทต่อปี ทั้งนี้ ดีอีตั้งเป้าขยายสิทธิ์เฟส 2 ครอบคลุมคนไทยกว่า 5 ล้านคน เพื่อให้เทคโนโลยี AI กลายเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่ทุกคนเข้าถึงได้
ไชยชนก กล่าวว่า รัฐบาลไทยตระหนักถึงบทบาทของ AI ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่และพัฒนาแรงงานคุณภาพ โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา ซึ่งเป็นกำลังหลักของประเทศในอนาคต ทั้งนี้ คนรุ่นใหม่ต้องการเครื่องมือที่ดีที่สุดในการเรียนรู้และสร้างนวัตกรรม แต่ส่วนใหญ่ยังไม่มีรายได้ของตนเอง เราจึงร่วมมือกับ Google เพื่อเปิดทางให้เข้าถึง AI ระดับโปรโดยไม่ต้องจ่าย
เขา กล่าวว่า นโยบายนี้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของกระทรวงฯ ที่ต้องการสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมและลดช่องว่างทางเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่เศรษฐกิจฐานข้อมูล (Data-Driven Economy)
“AI ไม่ใช่เทคโนโลยีของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ต้องเป็นเครื่องมือของทุกคนในการยกระดับศักยภาพตัวเองและสร้างคุณค่าใหม่ให้เศรษฐกิจไทย” รัฐมนตรีดีอีย้ำ
ดีอีย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ได้มุ่งเพียงขยายการเข้าถึงเทคโนโลยี แต่ยังให้ความสำคัญกับ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้ AI อย่างมีจริยธรรม โดย Google Cloud จะใช้มาตรการควบคุมข้อมูลในระดับองค์กร พร้อมเสริมสร้างความรู้ด้าน “Critical Thinking” ให้กับผู้ใช้งาน เพื่อให้คนไทยสามารถใช้ AI ได้อย่างรู้เท่าทันและมีวิจารณญาณ
เราต้องการให้เทคโนโลยีช่วยเสริมพลังมนุษย์ ไม่ใช่แทนมนุษย์ การใช้ AI อย่างสมดุล คือหัวใจของการพัฒนาอย่างยั่งยืน
โครงการระยะแรกจะมุ่งเน้นการสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ระดับชาติ ผ่าน Vertex AI และGemini Model ของ Google Cloud โดยเฉพาะ “Vertex AI Model Garden” ที่เปิดให้เข้าถึงโมเดล AI ชั้นนำทั้งของ Google และพันธมิตร ซึ่งจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง (Hands-on Learning)
นักศึกษาในโครงการจะได้รับคอร์สออนไลน์ที่ออกแบบให้พัฒนาทักษะ AI อย่างครบวงจร ตั้งแต่พื้นฐานการใช้เครื่องมือ ไปจนถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่เพื่อการเรียนและการทำงานในอนาคต โดยจากจำนวนผู้ที่เป็นนักศึกษาจำนวน 3 ล้านราย ก็หวังว่าจะมาใช้สิทธิกันทุกคน
ปูรากฐาน “AI Nation” ด้วยการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ความร่วมมือระหว่างดีอีและ Google Cloud ครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง “รากฐาน AI แห่งชาติ” ที่จะขยายสู่ทุกภาคส่วนในอนาคต กระทรวงดีอีเตรียมร่วมมือกับภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เพื่อสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning Ecosystem) ที่ทุกคนเข้าถึงได้
นายอรรณพ ศิริติกุล Country Director, Google Cloud ประเทศไทย ระบุว่า การทำงานร่วมกับกระทรวงดีอีในครั้งนี้สะท้อนวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของภาครัฐไทยในการยกระดับทักษะ AI สู่ระดับประเทศ “เราพบว่าคนไทยมีความพร้อมและตื่นตัวกับการใช้ AI สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทำให้ Google เชื่อมั่นและพร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อน AI อย่างจริงจังในประเทศไทย
เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยี Generative AI และ Agentic AI จะไม่เพียงเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ของนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังต่อยอดสู่การใช้งานในองค์กร ภาคธุรกิจ และภาครัฐ ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาวที่จะช่วยปลดล็อกนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย







