กสทช. คุมเข้ม! ห้ามค่ายมือถือนำ IP ไทยไปใช้ต่างประเทศ สกัดอาชญากรรมไซเบอร์

กสทช. เห็นชอบมาตรการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพิ่มเติม ห้ามไม่ให้ผู้รับใบอนุญาตที่ให้บริการโทรคมนาคมระหว่างประเทศนำหมายเลข IP Address จดทะเบียนในไทยให้บริการในต่างประเทศ
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดวานนี้ (29 ต.ค.) วันนี้มีระเบียบวาระเข้าสู่ที่ประชุม กสทช. จำนวนทั้งสิ้น 61 วาระ ผ่านการพิจารณาทั้งสิ้น 22 วาระ
โดยที่ประชุม กสทช. มีมติเห็นชอบมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพิ่มเติม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกำหนด 2 มาตรการบังคับใช้กับผู้รับใบอนุญาตโทรคมนาคม ได้แก่
- ผู้รับใบอนุญาตที่ให้บริการโทรคมนาคมระหว่างประเทศต้องไม่นำหมายเลข IP Address ซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทยไปให้บริการในต่างประเทศ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงหมายเลข IP Address ของอุปกรณ์สำหรับให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้รับใบอนุญาต และให้กำหนดมาตรการดังกล่าวเป็นเงื่อนไขการอนุญาตเพิ่มเติมเฉพาะรายบริการของผู้ให้บริการโทรคมนาคมระหว่างประเทศ
- ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีหน้าที่ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการกรณีที่มีการใช้บริการอยู่ย้อนหลังไม่น้อยกว่า 180 วัน ตลอดเวลาที่ใช้บริการ
ในกรณีมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเพื่อดำเนินคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยผู้รับใบอนุญาตต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเฉพาะเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินคดีเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในกรณีการให้บริการโทรคมนาคมสิ้นสุดลงผู้ให้บริการมีหน้าที่ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามวรรคหนึ่งไว้ไม่น้อยกว่า 180 วัน นับแต่วันสิ้นสุดสัญญา
ทั้งนี้ การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง เฉพาะข้อมูลของผู้ใช้บริการที่จำเป็นต่อการดำเนินคดีความผิดตามกฎหมาย โดยให้ สำนักงาน กสทช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ให้บริการร่วมกันกำหนดข้อมูลสำหรับที่ต้องเก็บรักษาด้วย







