เอ็นที ผนึก CAAT เปิดยุคใหม่ 'ขนส่งทางอากาศด้วยโดรน' ยกระดับไทยสู่สมาร์ตเนชั่น

เอ็นทีจับมือสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัลบริหารจัดการจราจรทางอากาศสำหรับอากาศยานไร้นักบิน รองรับการใช้งานในธุรกิจ โลจิสติกส์ สาธารณสุข และการกู้ภัย พร้อมโชว์ศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานบนคลื่น 700 - คลาวด์ ปูทางสู่สมาร์ตซิตี้อย่างยั่งยืน
KEY
POINTS
- เอ็นทีและสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยร่วมมือกันเปิดตัวโครงการ “การขนส่งทางอากาศยุคใหม่ด้วยโดรน” เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและยกระดับระบบขนส่งของไทย
- เอ็นทีได้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับบริหารจัดการจราจรทางอากาศของโดรนแบบครบวงจร โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เช่น เครือข่ายคลื่น 700 MHz และบริการคลาวด์
- ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการจราจรทางอากาศสำหรับโดรน และยกระดับความปลอดภัยในการใช้ห้วงอากาศของประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐาน
- มีการสาธิตการใช้งานโดรนขนส่งจริงในหลากหลายภารกิจ เช่น การส่งเครื่องกระตุกหัวใจ (AED) เวชภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค และผลผลิตทางการเกษตร เพื่อแสดงศักยภาพการใช้งานเชิงพาณิชย์
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที จับมือ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) จัดงานแถลงข่าว “การขนส่งทางอากาศยุคใหม่ด้วยโดรน” (The New Era of Drone Delivery) ส่งเสริมนวัตกรรมอากาศยานไร้นักบิน (UAV) เพื่อยกระดับระบบขนส่งทางอากาศของไทย พร้อมสาธิตแพลตฟอร์มดิจิทัลบริหารจัดการจราจรทางอากาศแบบครบวงจร โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมเป็นประธานเปิดงาน
โดยเอ็นทีมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ รองรับยุคใหม่แห่งการขนส่งด้วยโดรนและเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ตซิตี้) ด้วยเครือข่ายโทรคมนาคมและระบบข้อมูลที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อผลักดันการใช้โดรนในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การแพทย์ การกู้ภัย และโลจิสติกส์เชิงพาณิชย์ โดยแพลตฟอร์มของ NT สามารถติดตามเที่ยวบินแบบเรียลไทม์ บริหารจัดการห้วงอากาศได้อย่างปลอดภัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ
ด้วยโครงข่ายคลื่นความถี่ 700 MHz ทั่วประเทศ เครือข่ายไฟเบอร์ออปติก และบริการคลาวด์ที่ปลอดภัย ซึ่งเอ็นทีพร้อมรองรับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ทางอากาศให้ขยายธุรกิจได้มั่นใจและสอดคล้องตามข้อกำหนด ตอกย้ำบทบาทผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เป็นกลางและยั่งยืน
พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็นทีกล่าวว่า เอ็นทีมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมใช้งาน และได้ร่วมกับพันธมิตรระดับนานาชาติพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการอากาศยานไร้นักบิน เพื่อให้การควบคุมเที่ยวบินมีความแม่นยำและปลอดภัย นอกจากนี้ยังให้บริการซิม ‘my by NT’ บนคลื่น 700 MHz ที่สามารถติดตามเที่ยวบินของโดรนได้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมโดรนเชิงพาณิชย์ในประเทศ
พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูรผู้อำนวยการ CAAT กล่าวว่า การสนับสนุนนวัตกรรมอากาศยานไร้นักบินถือเป็นภารกิจสำคัญของสำนักงานฯ โครงสร้างพื้นฐานและแพลตฟอร์มของเอ็นทีจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการจราจรทางอากาศของโดรน และยกระดับความปลอดภัยในการใช้ห้วงอากาศของประเทศ
นอกจากนี้ ภายในงาน NT ยังจัดสาธิตการบินโดรนขนส่งในหลายพื้นที่ เช่น
• บริษัท สไกลเลอร์ โซลูชั่นส์ ส่งเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ (AED) จากไอคอนสยามข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
• บริษัท อาม่า มารีน ส่งเวชภัณฑ์จากหาดเตยงามไปเกาะไก่เตี้ย จังหวัดชลบุรี
• บริษัท เอวิลอน โรโบทิคส์ ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคจากเกาะสมุยไปเกาะแตน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
• บริษัท อีซี่ (2018) ส่งพืชผลการเกษตรจากแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ไปยังโรงคัดแยกผลผลิต
"กิจกรรมดังกล่าวสะท้อนศักยภาพของเอ็นทีในการผลักดันเทคโนโลยีโดรนเชิงพาณิชย์ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย และเป็นอีกก้าวสำคัญสู่ระบบขนส่งทางอากาศอัจฉริยะในอนาคต"พันเอกสรรพชัยย์ กล่าวเสริม







