แฟร์แค่ไหนเพื่อคนรุ่นใหม่

องค์กรยุคใหม่จะเติบโตได้ ต้องรู้จักและเข้าใจคนรุ่นใหม่มากกว่าที่จะพยายามเปลี่ยนเขา
เพราะพวกเขาไม่ใช่คนทำงานในระบบเดิม แต่คือพลังใหม่ที่ขับเคลื่อนอนาคตขององค์กร ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการมีอยู่ไม่กี่ข้อนั่นคือFeel หรือความหมายในสิ่งที่ทำ กับ Freedom อิสระที่มาพร้อมความรับผิดชอบ ตามด้วย Fast เร็วอย่างมีเป้าหมาย และ Future เส้นทางเติบโตที่มองเห็นได้
ต่อกันในข้อสุดท้ายคือ Fair ที่หมายถึงความความยุติธรรมที่สร้างคุณค่าให้กับตัวเขา เพราะหัวใจสำคัญที่สุดของการทำงานกับคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่แค่ความเร็วหรืออิสระ แต่คือความแฟร์ ซึ่งนิยามของความแฟร์นั้นไม่ได้หมายถึงความเท่าเทียมกันหมดทุกคน แต่ในมุมของคนรุ่นใหม่ ความแฟร์หมายถึงการได้รับการยอมรับในคุณค่าของตัวเองอย่างเท่า ๆ กัน
พวกเขาต้องการให้รู้ว่าความเห็นของเขามีน้ำหนัก ไม่ด้อยกว่าคนที่อาวุโสมากกว่า หรือตำแหน่งสูงกว่า ความแฟร์สำหรับเขาจึงไม่ใช่ความเท่าเทียมกันหรือการที่ทุกคนทำตามระเบียบเหมือนเครื่องจักร แต่คือการเปิดใจรับฟัง อย่างเท่าเทียม
เพราะในโลกของคนรุ่นใหม่ “ศักดิ์ศรี” อาจสำคัญมากกว่า “เงินเดือน” ด้วยซ้ำ องค์กรที่ยุติธรรมในสายตาของพวกเขา จึงต้องมีพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ และต้องมีผู้นำที่ฟังอย่างตั้งใจ ไม่ใช่ฟังเพียงเพื่อทำตามขั้นตอน
เมื่อเขารู้สึกว่าเสียงของตัวเองมีค่า เขาจะกล้าเสนอสิ่งใหม่ กล้าท้าทายวิธีเดิม และกล้ารับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่ตนเองเลือก
ในทางกลับกัน หากองค์กรยังวัดคุณค่าด้วยตำแหน่ง หรือยึดติดกับขั้นตอน 1 2 3 4 แบบตายตัว ก็เท่ากับปิดประตูต่อความคิดสร้างสรรค์ เพราะสำหรับคนรุ่นใหม่ การทำงานอาจเริ่มที่ “ข้อ 2” แล้วข้ามไป “ข้อ 5” ได้ ถ้ามันพาองค์กรไปถึงเป้าหมายเร็วกว่าและดีกว่า
ความแฟร์ในยุคนี้จึงไม่ใช่เรื่องของ “กฎ” แต่มันคือ “วิธีคิด” ที่ยอมรับว่าแต่ละคนอาจใช้เส้นทางไม่เหมือนกัน แต่ไปถึงเป้าหมายเดียวกันได้ การบริหารที่แฟร์ ไม่ได้หมายถึงปล่อยให้ทุกคนทำอะไรก็ได้ แต่คือการให้โอกาสทุกคนอย่างสมเหตุสมผล บนพื้นฐานของความสามารถ ความพยายาม และผลลัพธ์ ที่แท้จริง
ผู้นำที่เข้าใจเรื่องนี้จะไม่ตัดสินจากอายุหรืออาวุโส แต่ดูจากสิ่งที่เขาทำได้จริง และเขาจะไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง แต่จะใช้ความแตกต่างของรุ่นใหม่มาช่วยขับเคลื่อนทีมให้ดีขึ้น เพราะความยุติธรรมในยุคนี้ ไม่ใช่การรักษาสถานะเดิม แต่คือการสร้างระบบที่ทุกคนรู้สึกว่ามีที่ยืน มีเสียง และมีโอกาสเติบโตไปด้วยกัน
ถ้าองค์กรเข้าใจความแฟร์ในแบบของคนรุ่นใหม่ จะค้นพบว่าพวกเขาไม่ได้เรียกร้องเกินเหตุ เพียงแต่อยากเห็นระบบที่ให้โอกาสคนทุกคนได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ ดังนั้น องค์กรที่เปิดรับแนวคิดนี้ จะไม่เพียงได้พนักงานที่ทุ่มเท แต่จะได้คนที่พร้อมช่วยสร้างนวัตกรรม และสร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ
อย่ามัวแต่หวนคิดถึงรูปแบบเก่า ๆ เพราะเราไม่อาจหมุนโลกกลับหลังได้ สิ่งที่ทำได้คือ ปรับวิธีคิด และมองคนรุ่นใหม่อย่างเข้าใจ เพราะสุดท้าย องค์กรที่ยั่งยืน คือองค์กรที่เติบโตได้ด้วยการอาศัยพลังของคนทุกรุ่นที่เติมเข้ามาสร้างอนาคตร่วมกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด







