'คอมมี่' แตกไลน์ธุรกิจใหม่ ลุย 'ฟื้นชีพแบต–จอ' สมาร์ตโฟนทั่วไทย

“คอมมี่” ปักธงบุกตลาดบริการหลังการขาย เปิดตัวธุรกิจใหม่ “ฟื้นชีพแบต – จอสมาร์ตโฟน” รับเทรนด์คนไทยเน้นซ่อม ไม่เน้นซื้อใหม่ ชูจุดเด่นอะไหล่แท้คุณภาพสูง ช่างมาตรฐานศูนย์ พร้อมรับประกัน 1 ปี ตั้งเป้าขยายสาขา–แฟรนไชส์ไม่น้อยกว่า 50 แห่ง พร้อมปั้นสัดส่วนรายได้แตะ 50% ภายใน 3 ปี
ภาวะเศรษฐกิจโลกและไทยที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับตลาด “สมาร์ตโฟน” ที่เริ่มอิ่มตัว ผู้บริโภคใช้เครื่องยาวนานขึ้น หันมาให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและความยั่งยืน...
อรปรียา มโนวิลาส รองประธานกรรมการ บริษัท คอมมี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Commy) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่และอุปกรณ์เสริมสมาร์ตโฟน เผยว่า ภาพรวมตลาดสมาร์ตโฟนประเทศไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องรับแรงหนุนจากกระแส AI สมาร์ตโฟน ทว่าเป็นการเติบโตในระดับที่ต่ำเพียงตัวเลขหลักเดียว
โดยมีการคาดการณ์ว่าตลาดอาจเติบโตเพียง 6% จากปีก่อนหน้า ต่างจากปี 2567 ที่สมาร์ตโฟนไทยเติบโตราว 17.1% ยอดขาย 16.9 ล้านเครื่อง มีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นถึงระดับกลาง
ปีนี้สมาร์ตโฟนมีแนวโน้มเติบโตช้าลงเนื่องจากภาวะตลาดอิ่มตัว ประกอบกับสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัว โครงสร้างประชากรเปลี่ยน ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อและรอคอยนวัตกรรมที่โดดเด่น เช่น กล้อง AI, 5G ขั้นสูง, หรือดีไซน์แบบพับได้
ขณะที่ตลาดสมาร์ตโฟนมือสองและการซ่อมแซมยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง จากความต้องการอุปกรณ์ราคาจับต้องได้และกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อม คนยุคใหม่ถูกขับเคลื่อนด้วยแนวคิด “Value–Driven Pragmatism” มองหาผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ และต้องสอดคล้องกับค่านิยมส่วนตัว
ลุยบริการซ่อม ‘แบต–จอ’ ครบวงจร
ที่น่าสนใจคือ ความต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่และหน้าจอขยายตัวสูงมาก เนื่องจากการใช้งานสมาร์ตโฟนมีอายุนานขึ้น โดยเฉลี่ยเมื่อใช้งานไปได้ประมาณ 2 ปี มักมองหาบริการซ่อมอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพแทนการซื้อใหม่ โดยที่ผ่านมากว่า 90% ของงานซ่อมในตลาดเน้นไปที่การเปลี่ยนแบตเตอรี่และหน้าจอ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ไอโฟน
คอมมี่เล็งเห็นถึงโอกาสในจุดนี้ ล่าสุด เปิดตัวธุรกิจใหม่ “Commy Care – Battery Service Center” ต่อยอดความเชี่ยวชาญกว่า 30 ปีในตลาดแบตเตอรี่และอุปกรณ์เสริม พร้อมยกระดับจากแบรนด์สินค้าสู่แพลตฟอร์มบริการครบวงจรสำหรับผู้ใช้สมาร์ตโฟนยุคใหม่ ในรูปแบบศูนย์บริการซ่อมและเปลี่ยนแบตเตอรี่ รวมถึงหน้าจอสมาร์ตโฟนมาตรฐานระดับมืออาชีพ ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 5 สาขา
สำหรับแนวคิดด้านการตลาด เน้นสร้างแบรนด์ที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ Strategic Location การขยายสาขาโดยแบ่งออกเป็น การลงทุนและบริหารโดยคอมมี่เอง มุ่งเน้นที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง หรือชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น, การขยายสาขาโดยร่วมมือกับพันธมิตร เน้นที่แบรนด์สโตร์อื่นๆ รูปแบบ Shop in Shop, และการขยายสาขาโดยร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายเพื่อมุ่งไปตามหัวเมืองทั่วประเทศไทย
ส่วนต่อมาคือ Online–to–Offline (O2O) ลดช่องว่างทางการสื่อสาร ด้วยการเพิ่มช่องทางการสั่งซื้อทางออนไลน์และการเข้าใช้บริการที่หน้าร้าน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภค สุดท้ายคือ Experiential การเพิ่มประสบการณ์การดูแลแบบมืออาชีพ ด้วยคำแนะนำจากช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อสร้างความไว้วางใจให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ
คอมมี่สโตร์จะมี 3 รูปแบบคือ ร้านที่บริหารจัดการโดยบริษัทเอง, รูปแบบ Shop in Shop ร่วมกับพันธมิตร และรูปแบบแฟรนไชส์ ในแผนการขยายสาขาในช่วงแรกจะเน้นสองรูปแบบแรกเป็นหลัก เพื่อให้ควบคุมคุณภาพและมาตรฐานได้เต็มที่
3 ปีปั้นสัดส่วนรายได้แตะ 50%
ด้านกลยุทธ์การให้บริการ เน้นสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์, บริการรวดเร็ว, ฟังก์ชันการทำงานของผลิตภัณฑ์เหนือกว่า เช่น แบตเตอรี่มีทางเลือกทั้งแบบดั้งเดิมและเพิ่มความจุ 25%, ครอบคลุมสมาร์ตโฟนทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ รับประกันคุณภาพสินค้า 1 ปี, บริการโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ขณะเดียวกันราคาอะไหล่และบริการอยู่ในระดับที่เข้าถึงง่าย โดยเฉลี่ยถูกกว่าศูนย์บริการ 50–60%
ส่วนกลุ่มเป้าหมายหลักๆ เน้นเจาะตลาดสมาร์ตโฟนระดับกลางถึงบน คาดว่าสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลายกลุ่ม ทั้งผู้ที่ต้องการความคุ้มค่า, ผู้ที่ต้องการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และใช้ผลิตภัณฑ์ยาวนานขึ้น, ผู้สูงอายุที่ไม่ได้ต้องการสเปกใหม่ล่าสุด แค่เครื่องที่ใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานได้ก็เพียงพอ, รวมถึง Gen Y และ Gen Z ที่มีพฤติกรรมการใช้ดิจิทัลสูงมาก
บริษัทตั้งเป้าว่า ภายใน 3 ปี จะขยายสาขาให้ได้ 50 แห่งทั่วไทย ส่วนของการทำรายได้คาดว่าจากปี 2568 ที่มีสัดส่วน 3% ของรายได้รวม เมื่อถึงปี 2571 จะเพิ่มไปถึง 45–50% และกลายเป็นตัวจักรสำคัญในการทำรายได้ให้กับคอมมี่ในภาพรวม







