สรุปให้! เจาะลึก 'iPad Pro M5' ใหม่ จำเป็นไหมถ้าจะต้องเปลี่ยน?

เจาะลึก "iPad Pro M5" ใหม่ ขุมพลัง AI ที่แรงจนน่าทึ่ง แต่จำเป็นจริงหรือที่ต้องเปลี่ยน? ค้นหาคำตอบที่ครบที่สุดสำหรับคุณ ก่อนตัดสินใจอัปเกรด
KEY
POINTS
- iPad Pro ใหม่มาพร้อมชิป M5 ที่ยกระดับประสิทธิภาพด้าน AI อย่างก้าวกระโดด, ปลดล็อกความสามารถใหม่ๆ สำหรับงานสร้างสรรค์และงานระดับมืออาชีพได้โดยตรงบนอุปกรณ์
- ขุมพลังมหาศาลนี้มุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้งานระดับมืออาชีพเป็นหลัก ซึ่งผู้ใช้งานทั่วไปอาจพบว่า iPad รุ่นปัจจุบันยังคงเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- การอัปเกรดครั้งนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วย iPadOS 26 ที่ปรับปรุงการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน และการเชื่อมต่อยุคใหม่ ทำให้ iPad Pro เป็นตัวเลือกที่ใกล้เคียงกับการแทนที่แล็ปท็อปมากขึ้น
iPad Pro เปิดตัวรุ่นใหม่แล้ว คราวนี้มาพร้อมกับชิปเซ็ตที่ชื่อว่า M5 บางคนอาจสงสัยว่า "มันดีกว่าเดิมแค่ไหน?" และที่สำคัญกว่านั้นคือ "จำเป็นต้องเปลี่ยนไหม?" ในยุคที่ iPad เครื่องเก่าของคุณอาจจะยังทำงานได้ดีไม่มีที่ติ การจะควักเงินเรือนหมื่นเรือนแสนเพื่ออัปเกรดจึงต้องมีเหตุผลที่ "ทรงพลัง" พอๆ กับชิปตัวใหม่นี้
วันนี้ KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของ iPad Pro M5 ใหม่นี้กันแบบถึงแก่น ไม่ใช่แค่การอ่านสเปกชีต แต่เราจะวิเคราะห์ว่าความสามารถที่เพิ่มเข้ามานั้นจะเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานของคุณไปได้จริงหรือไม่ ตั้งแต่พลัง AI ที่ Apple ชูเป็นจุดขายหลัก ไปจนถึงความสามารถที่ซ่อนอยู่ใน iPadOS 26 ที่อาจเป็นตัวตัดสินว่าใครกันแน่ที่ "ต้องมี" iPad เครื่องนี้ และใครที่ "รอไปก่อน" ได้อย่างสบายใจ
ชิป M5 เมื่อ Apple เอาจริงเรื่อง AI
หัวใจของการอัปเกรดครั้งนี้คือชิป M5 ที่ Apple บอกว่านี่คือ "ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้าน AI" ซึ่งก็ไม่ใช่คำกล่าวอ้างที่เกินจริงนัก ด้วย GPU แบบ 10-core สถาปัตยกรรมใหม่ที่มี Neural Accelerator ผสานอยู่ในทุกคอร์ ทำให้ประสิทธิภาพด้าน AI เร็วขึ้นสูงสุด 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับชิป M4 และแรงกว่า iPad Pro M1 ถึง 5.6 เท่า
แต่ตัวเลขเหล่านี้หมายความว่าอย่างไรในการใช้งานจริง? ยกตัวอย่าง การสร้างภาพด้วย AI บนแอปอย่าง Draw Things จะเร็วขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับ M4 หรือการทำมาสก์วิดีโอด้วย AI ใน DaVinci Resolve ก็จะทรงพลังยิ่งขึ้น นี่จึงเป็นการปลดล็อกความสามารถใหม่ๆ ให้เหล่าครีเอเตอร์และมืออาชีพ ที่ต่อไปนี้จะทำงานซับซ้อนที่เคยต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ได้บน iPad ที่บางเฉียบเครื่องเดียว
แรงกว่าที่เคย...แล้วใครกันที่ต้องการ?
แน่นอนว่านอกเหนือจากเรื่อง AI แล้ว ชิป M5 ยังมอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในทุกๆ ด้าน ทั้ง CPU ที่เร็วขึ้นและ GPU ที่มาพร้อมเอนจิ้นเรย์เทรซซิ่งรุ่นที่ 3 ทำให้การเรนเดอร์ 3D ในแอปอย่าง Octane X เร็วขึ้นสูงสุดถึง 6.7 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M1 ส่วนงานตัดต่อวิดีโอใน Final Cut Pro ก็จะเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
คำถามสำคัญคือ แล้วใครกันที่ต้องการพลังมหาศาลขนาดนี้? หากคุณเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ที่ทำงานกับไฟล์เวคเตอร์ซับซ้อน, สถาปนิกที่ต้องรันแอปออกแบบหลายตัวพร้อมกัน หรือนักตัดต่อวิดีโอที่ทำงานนอกสถานที่ พลังของ M5 คือคำตอบที่ชัดเจน แต่หากการใช้งาน iPad ของคุณส่วนใหญ่คือการดู Netflix, ตอบอีเมล, เล่นเกมทั่วไป หรือจดโน้ตเล็กๆ น้อยๆ พลังที่เหลือล้นของ M5 อาจเป็นสิ่งที่เกินความจำเป็นไปมากโข
iPadOS 26 และการเชื่อมต่อยุคใหม่
ฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังจะไร้ความหมายหากไม่มีซอฟต์แวร์ที่ดึงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ และ iPadOS 26 ก็คือจิ๊กซอว์ชิ้นนั้น ระบบจัดการหน้าต่างแบบใหม่ที่ทรงพลังและใช้งานง่ายขึ้น ทำให้การทำงานแบบมัลติทาสก์ลื่นไหลใกล้เคียงกับแล็ปท็อปมากขึ้น การมาถึงของแอป "ตัวอย่าง" (Preview) บน iPad เป็นครั้งแรกยังช่วยให้การจัดการไฟล์ PDF และการทำเครื่องหมายต่างๆ สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ iPad Pro ใหม่ยังได้รับการอัปเกรดด้านการเชื่อมต่อครั้งใหญ่ด้วยชิป N1 ที่รองรับ Wi-Fi 7 และชิปโมเด็ม C1X ที่ออกแบบโดย Apple เอง ซึ่งช่วยให้การเชื่อมต่อ Cellular เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น นี่คือการอัปเกรดที่สำคัญสำหรับคนที่ต้องทำงานนอกสถานที่และต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรอยู่เสมอ
ดีไซน์และจอภาพ ที่สุดของความคมชัด
แม้ดีไซน์โดยรวมจะยังคงเอกลักษณ์เดิม แต่ iPad Pro M5 ก็มาในดีไซน์ที่บางและเบาอย่างน่าทึ่ง โดยรุ่น 13 นิ้วมีความบางเพียง 5.1 มม. และรุ่น 11 นิ้วบาง 5.3 มม. จอภาพยังคงเป็น Ultra Retina XDR ที่ใช้เทคโนโลยี OLED สองชั้น ให้ความสว่างและคอนทราสต์ที่แม่นยำเหลือเชื่อ และสำหรับมืออาชีพด้านสี ยังมีตัวเลือกกระจกจอภาพ Nano-texture เพื่อลดแสงสะท้อนโดยยังคงคุณภาพของภาพไว้ได้
ถึงเวลาต้องเปลี่ยนหรือยัง?
กลับมาที่คำถามเดิม "จำเป็นต้องเปลี่ยนไหม?" คำตอบไม่ได้มีเพียงแค่ "ใช่" หรือ "ไม่ใช่"
หากคุณคือกลุ่มผู้ใช้งานระดับโปร ที่ทุกวินาทีในการเรนเดอร์งานมีความหมาย หรือเป็นครีเอเตอร์ที่ต้องการใช้พลังของ AI ในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างไร้ขีดจำกัด การอัปเกรดสู่ iPad Pro M5 คือการลงทุนที่คุ้มค่าและจะปลดล็อกศักยภาพการทำงานของคุณไปอีกระดับอย่างแน่นอน
แต่สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ iPad เครื่องปัจจุบันยังตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี พลังของ M5 อาจเป็นสิ่งที่ "ดีกว่า" แต่ยังไม่ถึงขั้น "จำเป็น" การรออีกหนึ่งเจเนอเรชัน หรือเลือกพิจารณา iPad Air ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า อาจเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดกว่า ท้ายที่สุดแล้ว คำตอบที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ในบทความนี้ แต่อยู่ในลักษณะการใช้งานและเวิร์กโฟลว์ของคุณเอง







