ไปรษณีย์ไทยอัดแคมเปญ “Quick Win” ลดค่าขนส่ง หนุนเกษตรกร-ผู้ประกอบการสู่ตลาดโลก

ไปรษณีย์ไทย เดินหน้ามาตรการเร่งด่วน “Quick Win” ขานรับนโยบายรัฐบาล ดันเศรษฐกิจฐานราก หนุนผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกร และ SME ลดต้นทุนโลจิสติกส์ พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าชุมชนทั้งในและต่างประเทศ เสริมศักยภาพการแข่งขันของไทยในตลาดโลก
KEY
POINTS
- ไปรษณีย์ไทยเปิดตัวแคมเปญ “Quick Win” ตอบนโยบายรัฐบาล เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งและโลจิสติกส์ ช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยให้ขยายตลาดสู่สากล
- ออก “โปรลับ EMS ส่งด่วน” มอบอัตราค่าบริการพิเศษสำหรับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซและลูกค้าธุรกิจ เพื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าในประเทศ
- ร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติและ ธ.ก.ส. จัดโปรโมชัน “EMS ส่งด่วนผลไม้” ส่งผลไม้ 3 กก. ในราคาเริ่มต้นเพียง 45 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโดยเฉพาะ
- ผลักดันสินค้า OTOP และสินค้าชุมชนขึ้นแพลตฟอร์ม ThailandPostMart เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายสู่ผู้บริโภคใน 23 ประเทศทั่วโลก
- สนับสนุนการส่งออกสู่ตลาดโลกกว่า 193 ประเทศ พร้อมโปรโมชัน “Courier Saver” ลดค่าบริการส่งต่างประเทศสูงสุด 34% เพื่อหนุนสินค้าไทยสู่ตลาดสากล
ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในฐานะรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไปรษณีย์ไทยพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในช่วงปลายปีนี้ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะในภาคขนส่ง และโลจิสติกส์ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการลดต้นทุนและขยายตลาดให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ขับเคลื่อนมาตรการเชิงรุกตอบรับนโยบาย “Quick Win” ของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ให้ประชาชน โดยมุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกร และ SME เข้าถึงโอกาสทางการตลาดใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยศักยภาพเครือข่ายขนส่งและโลจิสติกส์ของไปรษณีย์ไทยที่ครอบคลุมกว่า 50,000 จุดทั่วประเทศ และส่งออกได้มากกว่า 193 ประเทศ 205 ปลายทางทั่วโลก
เพื่อสอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว ไปรษณีย์ไทยได้เตรียมมาตรการเร่งด่วนใน 4 แนวทางหลัก ได้แก่
1. ลดค่าขนส่งทั่วประเทศ
ออกแคมเปญ “โปรลับ EMS ส่งด่วน” มอบอัตราค่าบริการพิเศษสำหรับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซและลูกค้าธุรกิจ เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการส่งสินค้า ผู้ประกอบการสามารถออกแบบบริการให้เหมาะกับธุรกิจของตนเอง ทั้งความถี่ในการส่ง ปริมาณพัสดุ หรือพื้นที่จัดส่ง พร้อมระบบบริหารต้นทุนแบบคงที่ในระยะยาว
2. สนับสนุนมาตรการเฉพาะด้านร่วมกับหน่วยงานรัฐ
ร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ ออกโปรโมชัน “EMS ส่งด่วนผลไม้” ส่ง 3 กิโลกรัม ราคาเพียง 45 บาท และร่วมกับ ธ.ก.ส. จัดโปรโมชั่นในราคา 48 บาทต่อ 3 กิโลกรัม พร้อมได้รับการสนับสนุนจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการจัดกล่องผลไม้และตะกร้าบรรจุภัณฑ์ เพื่อช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการส่งออกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด
3. หนุนสินค้าชุมชนสู่แพลตฟอร์มออนไลน์
เร่งผลักดันสินค้า OTOP และสินค้าชุมชนไทยขึ้นสู่แพลตฟอร์ม ThailandPostMart เพื่อขยายตลาดสู่ผู้บริโภคใน 23 ประเทศทั่วโลก ยกระดับระบบโลจิสติกส์ครบวงจรตั้งแต่การรับสินค้า แพ็กจิ้ง ขนส่ง และติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ ช่วยสร้างความมั่นใจให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย พร้อมเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลระดับชุมชน
4. ขยายตลาดส่งออกเชิงรุก
ใช้เครือข่ายระหว่างประเทศกว่า 193 ประเทศ สนับสนุนการส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ SME และสินค้านวัตกรรม ด้วยบริการครบวงจรตั้งแต่ให้คำปรึกษา จัดทำเอกสารศุลกากร แพ็กกิ้งตามมาตรฐานสากล ไปจนถึงการขนส่งผ่านบริการ EMS World, ePacket และบริการโลจิสติกส์เฉพาะทาง พร้อมโปรโมชัน “Courier Saver” ลดค่าบริการส่งต่างประเทศสูงสุด 34% สำหรับปลายทางสหรัฐอเมริกา
ไปรษณีย์ไทยมุ่งขับเคลื่อนมาตรการ Quick Win เพื่อช่วยลดต้นทุนขนส่งให้ผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ขยายโอกาสทางการตลาด และเพิ่มสภาพคล่องให้ภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังพร้อมใช้ศักยภาพเครือข่ายทั่วประเทศและระบบบริการที่ปรับตามความต้องการของภาคธุรกิจ เพื่อเชื่อมโยงสินค้าชุมชนและสินค้าไทยสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อเนื่องในระยะยาว







