กสทช.เร่งโรดแมป 'ทีวีดิจิทัลยุคใหม่' จับตา 14 ต.ค. ลุ้นแนวทางอนาคต 10 ช่องธุรกิจ

กสทช.ขยับยกเครื่องอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัล เตรียมเปิดเวที Focus Group 14 ต.ค.68 นี้ ลุ้นต่ออายุใบอนุญาต 7 ปี พร้อมชง 2 แนวทางออกใบอนุญาตใหม่ รวมสูงสุด 17 ช่อง ขณะที่ผู้ประกอบการเร่งทวงโรดแมป ก่อนอุตสาหกรรมสื่อหลักถึงทางตัน
KEY
POINTS
- กสทช. เตรียมจัด Roadmap สำหรับทีวีดิจิทัลยุคใหม่ โดยจะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เพื่อสรุปแนวทางให้เสร็จสิ้นภายในปี
- ร่างแผนเบื้องต้นเสนอ 2 แนวทางสำหรับจำนวนช่อง โดยแนวทางที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ กำหนดให้มีช่องบริการสาธารณะ 7 ช่อง และช่องบริการธุรกิจ 10 ช่อง รวมเป็น 17 ช่อง
- มีการพิจารณารูปแบบการออกใบอนุญาตใหม่ 2 วิธี คือ การประมูลตามกฎหมายเดิมแต่ลดราคาตั้งต้น และการแก้ไขกฎหมายเพื่อแยกบทบาทผู้ให้บริการโครงข่าย และผู้ให้บริการเนื้อหาเพื่อลดต้นทุน
- ประเด็นสำคัญอื่นๆ ที่จะถูกกำหนดในโรดแมป ได้แก่ อนาคตของกฎ Must Carry และการปรับลดอายุใบอนุญาตจาก 15 ปี เหลือ 7-10 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
ภายหลังการประชุม คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ครั้งที่ 27/2568 ที่ประชุมมีมติให้สำนักงาน กสทช. นำ “แนวทางการกำกับดูแล และส่งเสริมกิจการโทรทัศน์” ไปเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก่อนสรุปผลภายในสิ้นปี 2568 เพื่อจัดทำ “ร่างแผนที่นำทาง (Roadmap)” สำหรับกิจการโทรทัศน์ในอนาคต
แหล่งข่าวจากสำนักงาน กสทช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่างโรดแมปดังกล่าวได้ถูกเสนอให้คณะอนุกรรมการกิจการโทรทัศน์พิจารณาแล้ว และเตรียมเปิดเวที Focus Group ครั้งที่ 2 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 นี้ เพื่อหารือรายละเอียดร่างแผนฉบับสมบูรณ์กับผู้ประกอบการ
ในร่างโรดแมปเบื้องต้น กสทช.เสนอ 2 แนวทางต่อจำนวนช่องรายการทีวีดิจิทัลในอนาคต
แนวทางแรก กำหนดให้มีช่องบริการสาธารณะ 7 ช่อง และช่องบริการธุรกิจ 7 ช่อง รวมทั้งสิ้น 14 ช่องรายการ
แนวทางที่สอง ซึ่งมีแนวโน้มมากที่สุด คือ ช่องบริการสาธารณะ 7 ช่อง และช่องบริการธุรกิจ 10 ช่อง รวมเป็น 17 ช่องรายการ
รูปแบบการออกใบอนุญาตใหม่ กสทช.เสนอ 2 วิธีหลัก ได้แก่
1. ประมูลใบอนุญาตตามกฎหมายเดิม โดยกำหนดราคาตั้งต้นต่ำให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มในอนาคต ผู้ประกอบการยังคงรับภาระค่าใช้จ่ายเดิม เช่น ค่าเช่าโครงข่าย และค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
2. ใช้วิธีอื่นที่ต้องแก้ไข พ.ร.บ. โดยแยกบทบาท “ผู้ให้บริการโครงข่าย (Network Provider)” และ “ผู้ให้บริการเนื้อหา (Service Provider)” ออกจากกัน ให้ Network Provider เป็นผู้ขอรับใบอนุญาตใช้คลื่นแทน Service Provider เพื่อช่วยลดต้นทุน และเปิดโอกาสให้รายย่อยเข้าสู่ตลาด โดยอาจใช้วิธีคัดเลือกจากคุณสมบัติหรือความพร้อมแทนการประมูล
สำหรับประเด็น “Must Carry” และการเรียงช่องรายการ กสทช.เปิดทางไว้ 3 แนวทาง คือ
- ยกเลิก
- คงไว้
- ปรับปรุงให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้ชม
ขณะที่ อายุใบอนุญาต มี 2 ทางเลือก ได้แก่ คงอายุเดิม 15 ปี หรือปรับลดเหลือ 7–10 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภค
ก่อนหน้านี้ ธุรกิจทีวีดิจิทัลได้ลงทุนรวมกันกว่าแสนล้านบาท แต่ยังขาดโรดแมปที่ชัดเจน สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) นำโดยนายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคม พร้อมผู้ประกอบการ 15 ช่อง ได้เข้าพบ ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าในการกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทย
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังผู้ประกอบการได้ยื่นเรื่องต่อ กสทช. แล้วถึง 3 ครั้ง แต่ยังไม่มีการบรรจุเข้าสู่วาระพิจารณาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่ประธาน กสทช. เคยให้คำมั่นว่าจะสรุปภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา
สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากแสดงความกังวลต่ออนาคตธุรกิจทีวีดิจิทัลที่ยังขาดความชัดเจน ทั้งที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ และมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่าหนึ่งแสนล้านบาท ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงจากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างชาติ และพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







