'ไทยคม' ชู สเปซ เทค- AI สร้างโลกยั่งยืน ปักธงแพลตฟอร์มคาร์บอน เครดิต

'ไทยคม' ชู สเปซ เทค- AI สร้างโลกยั่งยืน ปักธงแพลตฟอร์มคาร์บอน เครดิต

ไทยคมพลิกบทบาท “ดาวเทียม” สู่เครื่องมือสร้างความยั่งยืน ใช้ AI เทคโนโลยีด้านอวกาศ เสริมแกร่งด้านเกษตร–ลดไฟป่า–ลุยคาร์บอนเครดิต

KEY

POINTS

  • ไทยคมมุ่งใช้เทคโนโลยีอวกาศและ AI เพื่อสร้างประโยชน์เชิงยั่งยืนให้ประเทศ
  • เร่งพัฒนา AI ฝีมือคนไทยเพื่อวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม ประเมินการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่า เพื่อสร้างแพลตฟอร์มคาร์บอนเครดิต
  • นำเทคโนโลยีไปต่อยอดในภาคเกษตรกรรม เช่น ปาล์มน้ำมัน อ้อย และข้าว เพื่อประเมินศักยภาพการกักเก็บคาร์บอน
  • ไทยคมร่วมมือกับภาครัฐใช้ดาวเทียมตรวจสอบพื้นที่เผาอ้อยกว่า 1 ล้านไร่ เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษ
  • ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความพร้อมและต้นทุนไม่สูง แต่การขยายผลยังเผชิญความท้าทายด้านนโยบายและงบประมาณ

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายในงาน Sustainability Expo 2025 "A Call for Adaptation The Sustainability in Trade & Industry" วันที่ 3 ต.ค.2568 ภายใต้หัวข้อ Technology Strategy for Energy Goal ว่า แม้ไทยคมจะเป็นบริษัทที่คนไทยคุ้นเคยในบทบาทผู้ให้บริการสื่อสารดาวเทียมมานานกว่า 30 ปี แต่ปัจจุบันไทยคมได้ขยายวิสัยทัศน์สู่การพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศเพื่อสร้างประโยชน์เชิงยั่งยืนให้กับประเทศไทยและภูมิภาค มากกว่าการมุ่งสู่ดาวอังคารอย่างที่บริษัทระดับโลกบางรายกำลังทำ

เขาย้ำว่า เทคโนโลยีอวกาศ โดยเฉพาะดาวเทียม มีศักยภาพสูงในด้านการเกษตรของไทย และไทยคมได้พัฒนา ปัญญาประดิษฐ์ AI ขึ้นเองโดยฝีมือคนไทย เพื่อใช้ร่วมกับภาพถ่ายจากดาวเทียม วิเคราะห์พื้นที่ป่า ประเมินความสามารถในการกักเก็บคาร์บอน จนได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่การสร้างระบบคาร์บอนเครดิตที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และพร้อมต่อยอดสู่พืชเศรษฐกิจอื่น เช่น ปาล์มน้ำมัน ที่มีพื้นที่ปลูกจำนวนมากในประเทศ

เราพบว่าพื้นที่เกษตรที่เป็นลักษณะกึ่งป่า เช่น สวนปาล์ม มีศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอนสูงมาก สิ่งที่เราทำคือใช้ดาวเทียมกับ AI เพื่อประเมินศักยภาพเหล่านี้ ซึ่งให้ผลแม่นยำกว่าการใช้คนเดินสำรวจ เพราะสามารถประมวลผลได้ครอบคลุมในระดับประเทศ

'ไทยคม' ชู สเปซ เทค- AI สร้างโลกยั่งยืน ปักธงแพลตฟอร์มคาร์บอน เครดิต

เขาเสริมว่า การใช้เทคโนโลยีแบบนี้ยังทำให้ต้นทุนลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับการใช้แรงงานคน และที่สำคัญคือสามารถขยายสเกลได้ง่าย ตัวอย่างเช่นในโครงการร่วมกับบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลดิบจากพื้นที่จริงมาประมวลกับข้อมูลจากดาวเทียม สร้างระบบ AI ที่แม่นยำ และพร้อมใช้งานในภาคสนาม

'ไทยคม' ชู สเปซ เทค- AI สร้างโลกยั่งยืน ปักธงแพลตฟอร์มคาร์บอน เครดิต

นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ในพืชชนิดอื่น เช่น อ้อย ข้าว และยางพารา โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องไฟป่าและมลพิษ ไทยคมได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ใช้ดาวเทียมตรวจสอบพื้นที่เผาอ้อยกว่า 1 ล้านไร่ จากพื้นที่ปลูกอ้อยทั้งหมดราว 10 ล้านไร่ของประเทศ และอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

เขาอธิบายว่า เทคโนโลยีอวกาศมีข้อดีตรงที่สามารถสเกลได้อย่างรวดเร็วและใช้ทรัพยากรน้อย จึงไม่จำเป็นต้องเป็นองค์กรขนาดใหญ่ถึงจะเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ แม้เป็นบริษัทขนาดเล็กหรือกลุ่มเกษตรกร หากมีความตั้งใจและข้อมูลที่ดี ก็สามารถเข้าร่วมและใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อพัฒนาธุรกิจหรือการเกษตรได้เช่นกัน

ทั้งนี้ ระบบ AI ที่ไทยคมพัฒนาจะยิ่งเก่งขึ้นเรื่อย ๆ หากได้เรียนรู้จากข้อมูลจริงที่หลากหลาย ยิ่งเราทำงานกับบริษัทใหญ่ ก็จะยิ่งทำให้ระบบเรียนรู้ได้เร็วขึ้น และสามารถนำไปใช้กับรายเล็กได้ทันที เพราะต้นทุนไม่สูง ไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์แพง และไม่ต้องใช้แคปปาซิตี้สูงมาก ที่สำคัญคือ มันใช้สมองของคนไทยเอง

อย่างไรก็ตาม ปฐมภพยอมรับว่ายังมีความท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะในเชิงนโยบายและงบประมาณของภาครัฐ ที่ยังไม่ได้ปรับให้รองรับเทคโนโลยีใหม่นี้ เนื่องจากในอดีตไม่มีหมวดงบประมาณที่รองรับการใช้เทคโนโลยีอวกาศหรือ AI ในภาคเกษตร อีกทั้งกระบวนการของรัฐหลายหน่วยงานยังยึดติดกับการใช้คน และยังไม่มั่นใจในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเทคโนโลยี

เขา ย้ำว่า วันนี้เทคโนโลยีพร้อมแล้ว เหลือแค่ว่ารัฐจะกล้าขับเคลื่อนหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไทยคมร่วมงานกับหลายกระทรวง ซึ่งให้การตอบรับดีมาก แต่หากจะขยายให้ครอบคลุมระดับประเทศจริง ๆ ก็ต้องมีนโยบายและงบประมาณที่ชัดเจน การเปลี่ยนจากระบบเก่าที่ใช้คน มาเป็นการใช้เทคโนโลยี ต้องอาศัยความกล้าและการปรับระเบียบหลายอย่าง

สุดท้าย เขาเน้นว่า การแข่งขันของประเทศไทยในอนาคตจะต้องขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ไม่ใช่เพียงแค่ทรัพยากรธรรมชาติหรือแรงงานอีกต่อไป และไทยคมในฐานะบริษัทเทคโนโลยีของคนไทย พร้อมจะนำพาเทคโนโลยีจากอวกาศมาสู่โลก เพื่อทำให้โลกนี้ยั่งยืนมากขึ้น

แม้ดาวเทียมจะอยู่ไกลจากโลก แต่เทคโนโลยีดาวเทียมสามารถช่วยให้โลกดีขึ้นได้จริง